ความยั่งยืน (sustainability) เป็นคำใหญ่ พูดง่าย แต่ทำไม่ได้ง่ายๆ เผลอๆ อาจจะหนักกว่ารอกรุงโรมสร้างเสร็จ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะสถานการณ์บังคับ
นึกง่ายๆ ว่า ถ้าวันหนึ่งตื่นเช้าขึ้นมา แล้วอากาศไม่พอหายใจ เราจะทำอย่างไร ต้องไปเข้าแถวซื้อออกซิเจนกระป๋อง เหมือนหนังไซไฟบางเรื่องไหม? แล้วถ้าเงินไม่พอจ่าย ก็ต้องยอมรับสภาพไหม?
แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนถึงวันที่อากาศไม่พอหายใจ เราทุกคนสามารถเพิ่มออกซิเจน ให้เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงตัวเองและระบบนิเวศได้ ก่อนที่มันจะ too late สายจนสุดทาง ที่ตรงกันข้ามกับความยั่งยืน จนไม่อาจหันหลังกลับ
“หลิงหลิง คอง” เป็นตัวอย่างเล็กๆ ของการสร้างความยั่งยืนให้ตัวเอง จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการพัฒนาตัวเอง (self development) ด้วยลูกฮึดสุดชีวิต ไม่หยุดแม้เสี้ยววินาทีให้สถานการณ์บีบบังคับ
เธอเป็นนักแสดง ลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ที่ไม่รู้ว่าจับพลัดจับผลูมาเป็นดารา หรือเป็น purpose ของตัวเองแต่แรกว่า ฉันอยากเป็นซูเปอร์สตาร์
เพราะ 6 ปีที่ผ่านมา ในฐานะนักแสดงเซ็นสัญญาตรงกับช่อง 3 มีผู้คนนับไม่ถ้วน ที่คิดไปในทางเดียวกันว่า หลิงหลิงไม่มีทางสอบผ่านอาชีพได้แน่ๆ แม้มีความสวยเป็นทุนแบบจัดเต็มก็ตาม แถมพ่วงตำแหน่งนางงามไก่ย่างเขาสวนกวาง
เพราะละครไทย ถ้านักแสดงนำ พูดไม่ชัด เหมือนลิ้นไก่สั้น ฟังไม่รู้เรื่อง แล้วมันจะไปนั่งในใจคนดูได้อย่างไร? ก็ถูกของเขา
ข้อจำกัดของหลิงหลิงคือ กำแพงภาษา ที่ตั้งตระหง่านราวกับกำแพงเมืองจีน แถม mindset ของคนที่ไม่เชื่อว่า เธอจะปลดล็อกศักยภาพของตัวเองได้ เป็นเหมือนโดมยักษ์ที่ครอบกำแพงเอาไว้อีกชั้น
ถ้าไม่ใช่ หลิงหลิง คอง คงจะเฟดตัวเอง ไปเป็นแอร์โฮสเตส สายการบินคาร์เธ่ย์ แปซิฟิค รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะเป็น หลิงหลิง คอง ที่มีดีมากกว่าความสวย เธอจึงกลายเป็นนักแสดง famous ที่ดังไกลในหลายประเทศทุกวันนี้
ผู้หญิงสูง 168 เซนติเมตร ที่ made in Hong Kong, develop in Thailand คนนี้ แน่นอนว่า กว่าจะมาไกลได้ ต้องมีลมใต้ปีกพยุงครึ่งๆ ทั้งจากนายทุน ผู้กำกับ และ best partner แต่อีกครึ่งที่เหลือคือ ความพยายามที่จะไปให้ถึง sustainability ก้าวแรกด้วยตัวเองล้วนๆ
เพราะต่อให้สิบป๋าดัน ถ้าหลิงหลิงไม่เข็นตัวเอง เธอก็คงเป็นได้แค่ลูกครึ่งหน้าตาดี ที่ไปไม่ถึงไหนในวงการบันเทิง เหมือนกับที่บรรดาลูกครึ่งไทย-เทศ หลายคนประสบ
ถ้าใครติดตามความเคลื่อนไหวของหลิงหลิงเป็นระยะๆ จะเห็นพัฒนาการทางด้านภาษา และความคมชัดทางการแสดงแบบ 4K ที่มัน amazing มากๆ เหมือนโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศ เป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ถนนหลังสวน ที่ไม่ทันข้ามปี 2567 ก็แล้วเสร็จ เนรมิตภูมิทัศน์ที่เคยสวยหลบในมาตั้งนาน ให้ได้อวดโฉม จนต้อง wow
หลิงหลิงก็เช่นเดียวกัน ใช้เวลาไม่ทันข้ามปี 2567 ช่วงที่ซีรีย์ใจซ่อนรักออกอากาศ ก็ transform ตัวเอง จากคนพูดไม่ชัด เพราะหัดพูดภาษาไทย ตอนอายุ 17 มาเป็นนักแสดงที่พูดชัดถ้อยชัดคำ พูดได้น่าฟัง ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ชนิดที่คนไทยแท้ๆ หลายคนมีอาย
เบื้องหลังความสำเร็จ ที่ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ก็มาแล้ว และกำลังบ่ายหน้าสู่ความยั่งยืนไม่ลดละ โดยถ้าเอาหลิงหลิงมาอธิบายผ่านแนวคิด ESG (Environmental สิ่งแวดล้อม, Social สังคม และ Governance ธรรมาภิบาล) พอจะเฉไฉแบบมีหลักการได้ว่า เธอเป็นคนรุ่นใหม่ Gen Y ที่สนใจสิ่งแวดล้อม จากการพกกระติกน้ำไปไหนต่อไหนด้วย เพราะไม่อยากใช้ขวดพลาสติก แล้วโยนทิ้งเป็นขยะ
เป็นที่รู้กันว่าหลิงหลิงกินน้ำเก่ง พอๆ กับกินข้าว และยิ่งเธอขยันออกกำลังกายมากเท่าใด น้ำสะอาดก็คือวิตามินชั้นดีที่ช่วยเรื่องผิวพรรณ และเธอก็จิบน้ำได้ทั้งวัน
อย่างไรก็ดี อย่าแอบไปคิดว่า เธอชูเรื่องกระติกน้ำเพื่อเอาเท่ เอาดูดี (ไม่ต้องเอาสวย เพราะสวยอยู่แล้ว) เพราะข้อเท็จจริงคือ เธอถูกหล่อหลอมตั้งแต่เล็กๆ ที่โรงเรียนประถมที่ฮ่องกง จนกลายเป็นพฤติกรรมที่เคยชินมาจนโต
ในประเด็นทางสังคม หลิงหลิงเป็นคนสองวัฒนธรรม เธอจึงเคารพในความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสิทธิมนุษยชน พูดจาไพเราะ ให้เกียรติผู้อื่น จนด้อมเจ้าความรักของหลิงหลิง ก็พลอยติดพูดเบา พูดเพราะ และติดเรียบร้อยแบบหลิงหลิงไปด้วยโดยปริยาย รวมถึงการบริจาคเงินเมื่อเกิดภัยพิบัติ กรณีน้ำท่วมที่เชียงราย ช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา
สุดท้าย การพัฒนาที่มุ่งสร้างความมั่นคงทางการเงิน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม เธอนับเป็น good citizen ที่พยายามออกกำลังกายเยอะๆ เพื่อกินได้เยอะๆ ได้กินของโปรด โดยไม่ต้องห่วงอ้วน พยายามทำงานเก็บเงิน เพื่อซื้อบ้านหลังใหญ่ให้พ่อแม่ ยืนหยัดบนลำแข้งตัวเอง สร้างความมั่นคงให้ตัวเอง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำตัวมีประเด็นกับใคร
เลือกที่จะใช้ความพยายามของตัวเอง จนสุดความสามารถ พยายามแล้ว พยายามอีก continuous improvement ไม่ย่อท้อ
การพัฒนาตัวเอง นับเป็นก้าวแรกของความยั่งยืน เพราะก่อนที่คุณจะไปทำ ESG outside คุณต้องทำ ESG inside ให้ตัวเองแข็งแรงก่อน ถึงจะไปช่วยคนอื่นได้ เหมือนเลือกใส่หน้ากากให้ตัวเองก่อน ถ้าเครื่องบินเกิดวิกฤต
สิ่งที่หลิงหลิงเลือกทำ จึงเริ่มต้นจาก mindset ตัวเอง ทำตัวเองให้ดี สร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มโปรตีนให้ตัวเอง ปลดล็อกศักยภาพ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ ในกระแสรักษ์โลก