ม.รังสิตปั้น Startup & Innovation ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ชี้ 9 สาขาแนวโน้มเติบโต มุ่งส่งผลงานเข้าประกวด หลายคณะปรับหลักสูตรให้นักศึกษาปี1 ทำโปรเจ็กต์ได้ จากเดิมต้องเป็นนักศึกษาปี4 เพื่อให้นักศึกษาสานฝันได้เร็วขึ้น
ผศ.ดร.เชฏฐเนติ ศรีสอ้าน คณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะหัวหน้าโครงการ RSU Startup กล่าวว่า มหาวิทยาลัยรังสิตเห็นความสำคัญในการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายและการรวมกลุ่มของกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ของประเทศไทย ที่รัฐบาลมีความตั้งใจสนับสนุนให้ยืนหยัดอยู่ได้ ทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและส่งเสริมศักยภาพด้านต่างๆ สามารถเติบโตไปสู่ระดับสากล โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติเป็นเจ้าภาพจัดโครงการและเชิญพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง อาทิ นักลงทุน ภาคอุตสาหกรรม มาร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนา Startup Thailand ตั้งแต่เริ่มต้น
สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนภายในมหาวิทยาลัยถือเป็นคลังปัญญาที่รวบรวมงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ของคณาจารย์และนักศึกษา ที่สามารถนำมาต่อยอดให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศได้เป็นอย่างมาก ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของ Startup ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 9 สาขา ได้แก่ 1.เกษตรและอาหาร (AgriTech/ Food Startup) 2.การแพทย์และสาธารณสุข (MedTech/ Health Tech) 3.การเงินและการธนาคาร (FinTech) 4.การศึกษา (EdTech) 5.การท่องเที่ยว (TravelTech) 6.ไลฟ์สไตล์ (LifeStyle) 7.พาณิชยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) 8.ภาครัฐ/การศึกษา (GovTech/EdTech) และ 9.อสังหาริมทรัพย์ (Property Tech)
ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยรังสิตมีงานวิจัย ซึ่งเป็นโปรเจกต์ของนักศึกษาคณะต่างๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ในปี ค.ศ.2017 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยส่งผลงานนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ Startup Thailand 2017 ซึ่งถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวที่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุด 110 ทีม จากวิทยาลัยและคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยรังสิต และสามารถผ่านเข้ารอบทั้งหมด 32 ทีม ได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ทีมละ 200,000 บาท
สำหรับผลงานที่ผ่านเข้ารอบ ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 17 ทีม คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ 8 ทีม คณะบริหารธุรกิจ 5 ทีม คณะวิทยาศาสตร์ 1 ทีม และคณะเทคโนโลยีอาหาร 1 ทีม ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการต่อยอดในรูปแบบต่างๆ เช่น ร่วมทุนจัดตั้งเป็นบริษัท จำหน่ายสินค้าจริง มีการพัฒนาชิ้นงานร่วมกับ TRUE INCUBE อยู่ระหว่างขั้นตอนการขอจดสิทธิบัตร ได้รับทุนสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อขอรับรองมาตรฐาน ส่งชิ้นงานไปทดสอบในโรงพยาบาลหรือสถาบันที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมอีกหลากหลายผลงานที่ไม่ได้ส่งเข้าร่วมโครงการ startup แต่ผลักดันให้ส่งผลงานเข้าประกวดเวทีต่างๆ ตามความเหมาะสม อาทิ โดรนสำรวจใต้น้ำ ของวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โครงการ “รางวัลนักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นใหม่ ประจำปี 2561” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รถเข็ญไฟฟ้าเคลื่อนที่รอบทิศทาง ของวิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ฯลฯ
“จากประสบการณ์ในเวที Startup ทำให้หลายคณะในมหาวิทยาลัยปรับหลักสูตรการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์ของนักศึกษามากขึ้น โดยมีอาจารย์เป็นโค้ชคอยแนะนำให้นักศึกษาทำตามความฝันได้ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งจากเดิมนักศึกษาจะคิดโปรเจกต์ตอนอยู่ชั้นปีที่ 4 ให้สามารถคิดและทำโปรเจกต์ได้ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เพราะนักศึกษามีศักยภาพเพียงพอ มีเวลาและความพร้อมในการต่อยอดวิชาความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อนำไปสู่แนวทางการประกอบอาชีพในอนาคต ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยที่จะปรับตัวให้ทันต่อโลกอนาคต โดยมหาวิทยาลัยรังสิตจะผลักดันและสนับสนุนให้นักศึกษาแสดงศักยภาพขอตนให้เต็มที่ในเวทีต่างๆ ต่อไป” ผศ.ดร.เชฏฐเนติ กล่าวเพิ่มเติม