ฮอนด้าได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ (TAQA Excellent Award-Trusted Brand) ถึง 6 ปีติดต่อกัน การันตีความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริษัทฯ เสมอมา
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าว่า เราอยากเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รักของลูกค้า เราจึงต้องมีความจริงใจในทุกๆ ด้าน ทำให้ ผู้บริโภครู้สึกได้ถึงความจริงใจที่แบรนด์มีให้ และทำให้ ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย และรู้สึกเป็นกันเอง สื่อสารด้วยความจริงใจเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า เน้นการสร้างความน่าเชื่อถึอ และสร้างการยอมรับ
ที่ฮอนด้า เรามีการทำงานที่อยู่บนเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนขององค์กร เพื่อทำให้ฮอนด้าเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ ด้วยการดำเนินกิจกรรมทุกด้านด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใสตามหลักบรรษัทภิบาล พร้อมกับการรักษาสมดุลทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ การช่วยเหลือสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้ ปรัชญาฮอนด้า (Honda Philosophy) ที่เป็นแนวคิดหลักของบริษัทในการบริหารงาน ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร แต่ปรัชญาฮอนด้าไม่ได้เปลี่ยนไปตามนั้น หลักการทำงานยังคงเป็นแบบเดิม เป็นสิ่งที่ทุกคนยึดถือเหมือนกัน
ฮอนด้ามุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมที่มีคุณภาพและเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น มีความสุขท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน ซึ่งการนำเสนอคุณค่าใหม่ๆ สู่สังคม และสร้างความสุขแก่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ถือเป็นความรับผิดชอบของเราเสมอมา
ความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ของฮอนด้า
ความสำเร็จของแบรนด์คือ การได้รับการยอมรับ และความเชื่อมั่นจากลูกค้า โดยลูกค้าชาวไทยให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และยนตรกรรมกรรมหลากหลายรุ่นของฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ได้จากยอดจำหน่ายในช่วงที่ผ่านมา
ฮอนด้าครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคลของประเทศไทย 3 ปีติดต่อกัน (ปี 2558-2560) โดยมียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด (มกราคม-ธันวาคม 2560) จำนวนทั้งสิ้น 127,768 คัน (นับรวมฮอนด้า บีอาร์-วี เอชอาร์-วี และซีอาร์-วี) ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 32.2% อีกทั้งครองอันดับ 1 ใน 3 เซกเมนต์หลัก ทั้ง คอมแพคท์ ซับคอมแพคท์ และเอสยูวี
ปัจจัยของความสำเร็จดังกล่าว คือ การคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ทีมวิศวกรของเราจึงได้พยายามศึกษาความต้องการและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำไปพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสูงสุดและในเวลาที่เหมาะสม
แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของฮอนด้า
สำหรับการดำเนินงานในปี 2561 นั้น ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นยกระดับการบริการ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการนำเสนอยนตรกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม และทุกระดับรายได้ ที่มีความต้องการใช้รถยนต์ที่ หลากหลาย
นอกจากนี้ ยังเน้นนโยบาย การรักษาฐานลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก กลุ่มลูกค้าที่มีความภักดีต่อตราสินค้าอยู่แล้วย่อมมีความเชื่อมั่น และไว้วางใจเรา ดังนั้น เราจึงให้คุณค่าและให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ ก็มีการดำเนินงานเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่กันไปด้วย ฮอนด้าจึงสนับสนุนและผลักดันให้ดีลเลอร์ดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอยู่เสมอ เมื่อลูกค้าได้รับการบริการที่ดี มีความพึงพอใจ ลูกค้าก็จะกลับมาใช้บริการของเรา และกลับมาซื้อรถเราอีก
ปัจจุบัน ฮอนด้าได้ขยายพื้นที่การบริการเป็น 228 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวก และดูแลลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น และมีแผนที่จะขยายโชว์รูมเพิ่มเติมเป็น 234 แห่ง ภายในปี 2561
จากนี้ไป ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และร่วมพัฒนาสังคมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพลังแห่งความฝันที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ฮอนด้าก้าวเดินไปข้างหน้า เพื่อตอบแทนความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยตลอดไป
ฮอนด้า เอชอาร์-วี
คว้ารางวัล TAQA ด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ (รถยนต์กิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็ก)
ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นยนตรกรรมสปอร์ต ครอสโอเวอร์ที่ลงตัวในทุกมิติ ด้วยดีไซน์ภายนอก สไตล์สปอร์ตผสานกับพื้นที่ภายในกว้างขวาง สะดวกสบายเหนือระดับ และมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานในระดับพรีเมียม อีกทั้งยังมีสมรรถนะการขับขี่อัน ทรงพลังและเร้าใจในสไตล์สปอร์ต ตลอดจนผสาน มาตรฐานความปลอดภัยที่ล้ำสมัยและครบครัน ฮอนด้า เอชอาร์-วี จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวและเติมเต็มความต้องการของลูกค้าจากหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้า ที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ของรถยนต์ในระดับ คอมแพคท์เซ็กเมนต์
ความสำเร็จของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี พิสูจน์ได้จากยอดจำหน่ายและรางวัลที่ได้รับมากมาย ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็น Global Model ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงกว่า 1.5 ล้านคัน (ธันวาคม 2556 - ธันวาคม 2560) นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคม 2556 และยัง ได้รับกระแสตอบรับดีอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าในประเทศไทยด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงกว่า 62,000 คัน ภายในเวลา 3 ปีนับตั้งแต่การเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 โดยในปี 2560 ฮอนด้า เอชอาร์-วี สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 80% ในตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์ระดับคอมแพคท์เซ็กเมนต์ หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 29% ในตลาด รถยนต์เอสยูวีโดยรวม และการันตีคุณภาพรถยนต์ ด้วยรางวัลด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ในประเภทรถยนต์คอมแพคท์ครอสโอเวอร์ ของรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA: Thailand Automotive Quality Award 2017)
ฮอนด้าจะยังคงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิตและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าตลอดไป
