xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจชี้ทั่วโลกต้องการแพทย์ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ Warwick Science ชูแนวคิด Personal Coaching ปั้นเด็กวิทย์เข้าโปรแกรมอินเตอร์สู่ตลาดโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผลสำรวจเกี่ยวกับอาชีพแห่งอนาคตผ่านสื่อต่างๆ ทั่วโลก อาทิ CNBC, US News, MSN money ชี้อาชีพในวงการแพทย์และสุขภาพ วิศวกรรม รวมทั้งวิทยาศาสตร์ยังคงเป็นกลุ่มอาชีพซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมาก เพราะมีอิทธิพลต่อชีวิตและสุขภาพ รวมทั้งวิวัฒนาการความก้าวล้ำนำหน้าในด้านต่างๆ อีกทั้ง เป็นอาชีพที่สร้างเม็ดเงินได้สูง โดยการเข้าสู่อาชีพเหล่านี้ต้องเริ่มจากการเลือกเรียนสายวิทย์และเตรียมตัวล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม
ครูนุ - ครูบี- ครูติวเตอร์
“ในอนาคตอันใกล้นี้อาชีพด้านสุขภาพจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ยิ่งเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ aging society หมอเก่งๆ จึงเป็นที่ต้องการในทุกแห่งทั่วโลก รวมทั้งความต้องการวิศวกรที่มีความสามารถมาสร้างเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงนักวิทยาศาสตร์ผู้มีมุมมองที่แตกต่างที่ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์วิทยาการความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย จะเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าและเป็นที่ต้องการในทุกวงการ ซึ่งอาชีพเหล่านี้สามารถเดินทางไปทำงานได้ทั่วโลก จึงเป็นโอกาสที่ดีและดึงดูดใจสำหรับนักศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียนจบภาคอินเตอร์จะมีโอกาสก้าวไปได้ไกลกว่าในโลกการทำงานระดับนานาชาติ เพราะได้ทั้งวิชาชีพที่เรียนมาผนวกกับความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ” นายเกรียงศักดิ์ ไชยวินิจ หรือครูบี ผู้ก่อตั้ง Warwick Institute โรงเรียนเตรียม อินเตอร์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ และเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ ให้มุมมองแก่เด็กๆ ที่สนใจเรียนสายวิทย์ ในงานเปิดตัวโครงการ Warwick Science โรงเรียนเตรียมอินเตอร์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ สายวิทย์

“แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่คณะยอดฮิตตลอดกาลของนักเรียนสายวิทย์ก็ยังคงเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ เป็นต้น แต่สิ่งที่อยากให้นักเรียนได้พิจารณาก่อนการตัดสินใจเลือกเรียนในคณะใดๆ ก็ตาม คือควรค้นพบความชอบของตนเองให้ได้ก่อน และควรหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอาชีพในฝันของตัวเองอย่างครบถ้วนก่อนการ ตัดสินใจเลือกเรียน เพื่อทบทวนดูว่าอาชีพนั้นตรงกับความเป็นตัวเองหรือไม่ และควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆ ได้จริง”

“เช่นคนที่อยากเป็นหมอ ควรรู้ว่าต้องเรียนหนัก ทำงานหนัก และต้องมีจิตใจเสียสละ อุทิศตนอย่างสูง และหากใฝ่ฝันจะเป็นหมอก็ต้องเรียนให้โดดเด่นตั้งแต่ชั้นมัธยม เพื่อให้สามารถ สอบเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในคณะแพทยศาสตร์ได้ และยิ่งหากต้องการเรียนภาคอินเตอร์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานได้ทั่วโลก ก็ควรเตรียมตัวตั้งแต่ชั้น ม.3-ม.4 และเพิ่มพูนความรู้ทางภาษาอังกฤษมากขึ้น”

ดร.อนุศักดิ์ ไชยแจ่ม หรือครูนุ ผู้อำนวยการโครงการ Warwick Science และอาจารย์วิชาเคมี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าเรียนภาคอินเตอร์ไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเตรียมตัวและการวางแผนที่ดี Warwick Science มองเห็นความสำคัญในเรื่องการเตรียมพร้อมให้กับนักเรียน ทั้งเรื่องการวางแผนการเรียนและการสอบอย่างเหมาะสม เริ่มตั้งแต่การแนะแนวให้ข้อมูลความรู้ด้านการ ศึกษาและอาชีพอย่างครบถ้วน สอนการวิเคราะห์และเทคนิคในการทำข้อสอบ รวมไปถึงการเตรียม portfolio และฝึกฝนวิธีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อให้เด็กค้นพบตัวเอง ทำงานอย่างเป็นระบบ และก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายกันไว้

“เราเชื่อว่าการเตรียมตัวที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งทาง Warwick Science ยังใช้แนวคิดการเป็น the best personal coaching เพื่อวางแผนให้กับนักเรียนเป็นรายบุคคลและลงลึกกับเด็กทุกคนในชั้นเรียน เพื่อไปให้ถึงความต้องการที่แท้จริงของเด็กและช่วยให้เด็กไปถึงฝัน จากหลักสูตร การเรียนการสอนที่ผ่านการวิเคราะห์วางแผนและทดสอบมาแล้วว่าเด็กคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จนั้น เขาต้องทำอย่างไร เมื่อครูรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของเด็ก ก็จะสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กได้อย่างดียิ่งขึ้น”

นางสาวปณิชา เจติยานุวัตร หรือครูติวเตอร์ รองผู้อำนวยการโครงการ Warwick Science และอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์ กล่าวเสริมว่า “ครูผู้สอนในยุคปัจจุบันต้องทำมากกว่าการ สอน เรามีทีมครูที่เก่งๆ และเชี่ยวชาญพร้อมที่สร้างความสำเร็จให้กับนักเรียนแต่ละคน ความโดดเด่นของ Warwick Science คือเราต้องการให้เด็กได้เรียนในภาควิชาที่เขาอยากเรียนจริงๆ เราทำ analysis ให้เด็ก เห็นชาร์ตในอนาคตว่าหากสอบติดคณะนี้จะเป็นอย่างไร และรู้ว่าเขาต้องทำให้ดีมากขึ้น ครูทุกคนใช้หลักสูตรเดียวกัน ไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นการควบคุมคุณภาพ ไม่ว่าเรียนกับครูคนไหนก็สำเร็จได้ เหมือนกัน คณาจารย์ที่คร่ำหวอดในตัวข้อสอบสามารถคาดการณ์แนวข้อสอบได้แม่นยำ เราสอนให้เด็กคิด ไม่ใช่สอนให้มานั่งทำโจทย์ มีการสร้างโครงสร้างเนื้อหาที่แข็งแรงและสอดคล้องกับตัวข้อสอบ”

“สถิติที่ผ่านมาของนักเรียน Warwick Institute มากกว่า 85% สามารถสอบเข้าเรียนต่อภาค อินเตอร์คณะต่างๆ ของจุฬาฯ และธรรมศาสตร์ได้ นอกจากนี้ปัจจุบันนิสิตโปรแกรมอินเตอร์วิศวะจุฬาฯ หรือ ISE ยังเป็นนักเรียน Warwick Institute ถึง 25%”

ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญของนักเรียนไทยยุคนี้คือ ยังขาดเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ขาดความรู้เกี่ยวกับงานอาชีพในสายที่ตนเองเรียนมาว่ามีมากน้อยแค่ไหน มีการแตกแขนงสายงานออกไปอีกอย่างไร และในแต่ละสายงานนั้นๆ มีศักยภาพในการเติบโตไปในทิศทางไหนอย่างไรบ้าง ทำให้ไม่สามารถวางแผน การเรียนได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งมีการใช้เวลาสำหรับเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยน้อยเกินไป

“ทุกวันนี้เด็กสายวิทย์ฯ จำนวนมากไม่รู้ว่างานด้านวิศวกรรมแตกแขนงไปมากกว่า 40 สาขา โดยมีสาขาที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อาทิ พลังงาน สิ่งแวดล้อม คอมพิวเตอร์ ปิโตรเลียม ไฟฟ้า ยานอวกาศ เคมี วัสดุ เครื่องกล และชีวเคมี นอกจากนั้นนักเรียนแพทย์เก่งๆ ที่เก่งและมีความสามารถทางด้านภาษาก็สามารถเดินทางไปทำงานได้ทั่วโลกด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก ส่วนผู้ที่เรียนจบสาขาวิทยาศาสตร์ที่เก่งด้านภาษาก็สามารถไปทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศได้มากกว่า 50 สาขา อาทิ โปรแกรมเมอร์ นักสำรวจ นักเทคโนโลยีชีวภาพ รวมทั้งเป็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองต่อการใช้ชีวิตและความต้องการที่สมบูรณ์แบบให้กับคนในสังคมได้อีกด้วย หากเด็กสายวิทย์ทราบถึงอนาคตข้างหน้าและค้นหาความฝันของตนเองได้เร็ว พวกเขาก็จะมีเวลาเตรียมตัวได้แต่เนิ่นๆ ทำให้มีโอกาสสอบติดคณะสายวิทย์อินเตอร์ได้ง่ายมากขึ้น เด็กที่เริ่มก่อนก็ย่อมมีสิทธิ์สอบติดได้สูงกว่าผู้ที่มาเริ่มทีหลัง”

ทั้งนี้ Warwick Science มีการจัด workshop ฟรีเพื่อให้ความรู้ สำหรับเด็กสายวิทย์เกี่ยวกับอาชีพและการเตรียมตัว 7 รอบต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยให้เด็กๆ เห็นเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและเริ่มวางแผนการเตรียมตัวได้แต่เนิ่นๆ ผู้สนใจเข้าร่วม workshop สามารถโทรสอบถาม ข้อมูลได้ที่ 02-658-4880


กำลังโหลดความคิดเห็น