แมคโดนัลด์เดินหน้าตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด ด้วยการจับมือพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายแพลตฟอร์มชำระเงินแบบดิจิตอล ชี้สัดส่วนลูกค้าไม่ใช้เงินสดเพิ่มเป็น 30% แล้ว
เฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารบริการด่วน แมคโดนัลด์ กล่าวว่า การผลักดันประเทศไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสดของภาครัฐและการพัฒนาระบบการชำระเงินแบบออนไลน์ ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ดูจากยอดขายของร้านแมคโดนัลด์พบว่า ปัจจุบันสัดส่วนการชำระเงินแบบไร้เงินสดหรือไม่ใช้เงินสด (Cashless payments) สูงถึง 30% เพิ่มจากช่วง 3-4 ปีก่อนที่มีเพียง 5-6% เท่านั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแมคโดนัลด์ถือเป็นผู้นำรายแรกในธุรกิจ QSR (Quick Service Restaurant) ที่ให้บริการรับชำระเงินแบบไร้เงินสดหรือไม่ใช้เงินสดหลากหลายรูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้านับตั้งแต่ปี 2544 เริ่มจากรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตวีซ่าเพย์เวฟ (VISA payWave) ผ่านเครื่องรูดบัตรของธนาคารกรุงเทพ ในปี 2556 รับชำระค่าอาหารในร้านแมคโดนัลด์ด้วยบัตรแรบบิท และในปี 2560 ได้ขยายแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดิจิตอล โดยร่วมมือกับพันธมิตรคือเอ็มเพย์ (mPAY) และบลูเพย์ (BluePay) เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านระบบคิวอาร์โค้ด (QR code) ที่กำลังได้รับความแพร่หลายในปัจจุบัน และในปี 2561 จะขยายพันธมิตรเพิ่มขึ้น เช่น อาลีเพย์ (AliPay) และทรูมันนี่วอลเล็ท (TrueMoney Wallet) เป็นต้น
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ แมคโดนัลด์ได้ร่วมมือกับโอมิเซะ (Omise) พัฒนาระบบชำระเงินแบบออนไลน์สำหรับการสั่งซื้ออาหารผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าทางออนไลน์ที่มีมากขึ้น นอกจากนี้ แมคโดนัลด์ยังเป็นผู้นำที่ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอาหารบริการด่วน โดยเป็น QSR รายแรกที่ติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (Self-ordering kiosk) และเมนูบอร์ดแบบวิดีโอวอลล์ระบบดิจิตอล เพื่อเพิ่มความสะดวกในการให้บริการลูกค้า และมอบประสบการณ์ร้านอาหารที่ทันสมัย พร้อมสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ สอดรับกับผู้บริโภคและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
“ในฐานะผู้นำในธุรกิจ QSR เราพัฒนาและลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความพร้อมในการนำเสนอสิ่งที่ดีและประสบการณ์ในมิติใหม่ๆ พร้อมด้วยคุณภาพมาตรฐานให้ลูกค้าเสมอ” เฮสเตอร์ ชิว กล่าวทิ้งท้าย