xs
xsm
sm
md
lg

เปิด 5 อันดับธุรกิจจ่ายโบนัสสูงสุดปี’60 เผยธุรกิจยานยนต์จ่ายมากที่สุด ชี้ทุกเจนเลือกเก็บออม แต่เจน Z นำไปลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


jobsDB เผยรายงานอัตราโบนัสของพนักงานไทย ประจำปี 2560 ชี้โบนัสเป็นแรงจูงใจสำคัญในการตัดสินใจอยู่หรือไปของพนักงานวันนี้ ผู้ประกอบการเชื่อมั่นโบนัสเป็นปัจจัยหลักช่วยรักษาพนักงาน ด้านพนักงานเห็นคุณค่าตัวเอง เล็งทำงานในองค์กรที่เปิดโอกาสให้พิสูจน์ความสามารถ ส่วนการใช้จ่ายโบนัส ทุก Gen เลือกเก็บออมก่อนลงทุน แต่ Gen Z เลือกลงทุนก่อนเก็บออม

บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เว็บไซต์หางานชั้นนำของเอเชีย เผยผลสำรวจอัตราการจ่ายโบนัสในประเทศไทย ประจำปี 2560 พบว่า ทั้งผู้ประกอบการและผู้หางานให้ความสำคัญกับโบนัสว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรและดึงดูดผู้หางานให้พร้อมร่วมงานกับองค์กร และโบนัสคือแรงจูงใจในการตัดสินใจทำงานในองค์กรใหม่ด้วยเช่นกัน

จากผลสำรวจอัตราโบนัสของพนักงานไทย ประจำปี 2560 ของจ๊อบส์ ดีบี ที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่องการจ่ายโบนัส จากสมาชิกของจ๊อบส์ ดีบี ที่ตอบแบบสอบถาม ทั้งผู้หางานจำนวน 2,020 ราย และผู้ประกอบการจำนวน 322 องค์กรทั่วประเทศ จาก 26 สายงาน และกว่า 47 ประเภทธุรกิจ โดยทำการสำรวจเมื่อต้นเดือนธันวาคม พบว่า 46% ของผู้ประกอบการยังคงตระหนักว่าโบนัสเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สามารถวัดผลการตัดสินใจอยู่หรือไปของพนักงาน ขณะที่ 47% ยังเชื่อว่าโบนัสสามารถดึงดูดผู้หางานได้ โดยทั้งผู้ประกอบการ (70%) และพนักงาน (49%) มีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า โบนัสที่พิจารณาจ่ายตามผลงาน เป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนให้เห็นผลสัมฤทธิ์ของความพยายามที่พนักงานทุ่มเทให้กับการทำงาน

โดยรูปแบบการให้โบนัส แยกเป็น 2 ประเภท คือ “แบบการันตี” และ“แบบพิจารณาตามผลงาน” เมื่อพิจารณาการจ่ายโบนัสทั้งสองแบบเป็นรายธุรกิจ พบว่า มี 5 ธุรกิจที่จ่ายโบนัสสูงสุด โดยธุรกิจยานยนต์เป็นธุรกิจเดียวที่มีการจ่ายโบนัสสูงสุดทั้งแบบการันตีและพิจารณาตามผลงาน เฉลี่ยสูงสุดที่ 2.33 เดือน และ 2.14 เดือน ตามลำดับ ส่วนที่ตามมา ได้แก่ ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ , ธุรกิจบริการด้านการเงิน , ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจไอที โดยมีการจ่ายตั้งแต่ 0.86-1.96 เดือน สำหรับช่วงเวลาในการจ่ายโบนัสส่วนใหญ่กำหนดการจ่ายโบนัสในช่วงเวลาเดียวกัน คือเดือนธันวาคม (39%) ตามมาด้วยเดือนมกราคม (14%) และเดือนกุมภาพันธ์ (12%) ตามลำดับ

นางนพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การสำรวจอัตราโบนัสทั่วภูมิภาครวมทั้งประเทศไทยจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและผู้หางาน ให้ได้ทราบถึงเกณท์การให้โบนัสของธุรกิจเพื่อนำไปกำหนดกลยุทธ์ในการจ่ายโบนัส และสร้างความพึงพอใจรวมถึงช่วยในการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว นอกจากนี้ ยังเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับผู้หางานให้ตัดสินใจเข้าร่วมงาน รวมถึงสามารถกำหนดมาตรฐานในการพิจารณาปรับปรุงด้านผลตอบแทนด้วยเช่นกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าพนักงานรวมถึงคนหางานย่อมให้ความสำคัญกับผลตอบแทนของการทำงานไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนและโบนัสที่น่าพึงพอใจ โดยยังคงให้ความสำคัญกับงานที่จะสร้างประสบการณ์และท้าทายความสามารถ พบว่า 78% ของพนักงานระบุว่ายินดีลาออกหากได้รับโอกาสงานที่ดีกว่าปัจจุบัน

การสำรวจนี้ยังศึกษาถึงแนวโน้มการใช้จ่ายโบนัส พบว่า ทุกเจนเนอเรชัน ไม่ว่าจะเป็น Baby Boomer , Gen X และ Gen Y เลือกเก็บโบนัสไว้เป็นเงินออม ตามด้วยการนำไปลงทุน ขณะที่ Gen Z เลือกนำโบนัสไปลงทุนเป็นอันดับหนึ่งและเงินออมเป็นอันดับสอง ซึ่งบ่งชี้ว่า Gen Z ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 18-25 ปี มองเห็นความสำคัญของผลตอบแทนการลงทุนที่ก้าวกระโดดมากกว่าการออมอย่างเดียว ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังเร่งวางรากฐานความมั่นคงทางการเงินให้ตัวเอง โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนและการเก็บออมมากขึ้น
สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการติดตามความเคลื่อนไหวของสังคม รวมทั้งข่าวสารด้านเศรษฐกิจ จึงมีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนซึ่งอายุยังน้อย แต่หมั่นหาความรู้ด้านการเงินจากการติดตามข่าวสารใหม่ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ และชื่นชอบการบริหารจัดการเงินให้มีผลตอบแทนงอกเงย เพราะมีทัศนคติต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้เร็วที่สุด อีกทั้งยังเป็นคนที่ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว แต่มองว่าทำงานเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิต ได้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะและความสามารถให้ตนเองอีกด้วย

สิ่งที่ผู้ประกอบการควรตระหนักคือ นอกจากการจ่ายค่าตอบแทนและโบนัสที่เป็นธรรมแล้ว การให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้พนักงานเติบโตในหน้าที่การงานก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเพื่อรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรและดึงดูดคนหางานที่พร้อมร่วมงานกับองค์กรด้วย สำหรับพนักงานก็ควรหมั่นพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถในการทำงาน รวมไปถึงการประเมินศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ เพื่อเปิดโอกาสให้กับการเติบโตในสายอาชีพในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น