หลังการแสดงมินิคอนเสิร์ตของ “หนึ่ง จักรวาล” และ “ตู่ ภพธร” ในงานแถลงข่าวการจัดคอนเสิร์ต “JOHN LEGEND DARKNESS AND LIGHT TOUR” ในประเทศไทยที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า หนึ่ง จักรวาล นักดนตรีมืออาชีพ ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเป็นคนชอบฟังเพลงและเล่นดนตรี แต่ผมไม่ได้เรียนดนตรี ที่ผมเล่นได้มาจากการดู การฟัง และการแกะเพลง เพราะฉะนั้น พอได้ยินเพลงที่ร้องหรือศิลปินที่ดังขึ้นมาเราจะเริ่มจับจุดว่าเขาดังได้อย่างไร ร้องดีหรือเล่นดีอย่างไร สำหรับจอห์น เลเจนด์ เป็นทั้งนักร้อง นักเปียโน และนักแต่งเพลง เพราะฉะนั้น ผมลงทุนบินไปดูเขาเล่น ดูโชว์ของเขา ที่สังเกตได้ก่อนคือเพลงที่เขาเล่นใช้คอร์ดไม่ยาก แต่ทำไมเมโลดี้มันเยอะ ซึ่งแนวอาร์แอนด์บีจริงๆ แล้วคอร์ดจะยาก และเริ่มเอามาเปรียบเทียบว่าเพลงต่างๆ ของเขาเป็นแบบนี้มั้ย ซึ่งนักร้องและนักดนตรีแต่ละคนจะมีสไตล์เป็นของตนเอง สำหรับสไตล์ของจอห์น เลเจนด์ ชัดเจนคือคอร์ดน้อย แต่เมโลดี้เยอะ ที่เราศึกษาคือเขาเลือกเมโลดี้อะไรในคอร์ดนั้นๆ ซึ่งเราจะไปเรียนจากเขาก็ไม่ได้ เราก็ต้องใช้วิธีศึกษาจากเพลงของเขา”
“ในเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจ ผลงานของเขาที่ออกมาผมคิดว่าก็เป็นแรงบันดาลใจให้นักร้องนักดนตรีทั่วโลกได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ เมื่อมองอีกมุมหนึ่งผมคิดว่าเขาเป็นคนโรแมนติก สังเกตจากเมโลดี้ที่เขาเขียนในแต่ละเพลงเป็นแนวโรแมนติกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่มีแค่เปียโนตัวเดียวหรือเพลงที่มีดนตรีทั้งวง เนื้อเพลงก็เป็นแนวโรแมนติก และชัดเจนเมื่อไปดูมิวสิกวิดีโอ ภาพเบื้องหลัง ยูทูป จะเห็นได้เลยว่าเขาเป็นคนโรแมนติกแน่นอน สำหรับผมเป็นนักดนตรี แรงบันดาลใจที่ได้มาจากวิธีคิดของเขาวิธีการทำงานที่เขาทำเพลงแปลกไม่เหมือนคนอื่น เขาทำสิ่งยากๆ ให้ง่ายได้อย่างไร เป็นสิ่งที่ทำให้อยากศึกษาเรียนรู้”
ตู่ ภพธร นักร้องระดับคุณภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่าทุกคนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้คิดแค่ว่าจะทำอะไรแค่กลางๆ ทุกคนน่าจะมีเป้าหมายที่สูงและต้องการจะไปให้ถึง สำหรับจอห์น เลเจนด์ เขาน่าจะคิดว่าเขาต้องเป็นนักเปียโนที่เจ๋งที่คนยอมรับ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ เขาคงเดินทางมานาน สำหรับทุกๆ คน ไม่ว่าจะทำอาชีพหรือทำอะไรก็ตามก็ต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อจะพาตัวเองไปในที่ๆ ดีขึ้น เพราะการไม่ตั้งเป้าหมายแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป เราก็จะมาเสียดายทีหลังเมื่อมองชีวิตที่ผ่านมา สำหรับผมเป้าหมายในชีวิตคือสามารรถดูแลครอบครัวของเราให้ดีที่สุดให้ได้ อย่างการตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นศิลปินระดับโลก แม้ว่าจะไปไม่ถึง แต่เราก็จะพัฒนาขึ้นทุกวัน และสามารถดูแลครอบครัวของเราได้ สำหรับคนอื่นๆ ที่มีไอดอล ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ที่สำคัญคือตั้งเป้าหมายให้สูงเอาไว้ แล้วทำให้สุดๆ ก้าวไปเรื่อยๆ สิ่งที่ดีจะตามมา”
รัฐรงค์ ศรีเลิศ กรรมการบริหาร และบรรณาธิการ บริษัท หนีกรุง คอนเน็ค จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า “ในการดูคอนเสิร์ตจะเห็นว่าปกติศิลปินจะตามใจคนฟังด้วยการเล่นให้เหมือนต้นฉบับหรือเหมือนเดิมทุกๆ ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องง่าย แต่จอห์น เลเจนด์ เป็นคนที่ทำการบ้าน อย่างการทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น แล้วมาที่เล่นต่อที่ไทย รับรองว่าเพลงเดียวกันแต่เล่นไม่เหมือนกัน ทำการบ้านหมายความรู้อาจจะเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมบางอย่าง ซึ่งโชคดีในส่วนของประเทศไทยที่ว่าภรรยาของเขาเป็นลูกครึ่งไทยก็อาจจะมีเซอร์ไพร้ซ์ เช่น มีภาษาไทยเข้ามาปนในเพลงของเขา ซึ่งก็ไม่แน่เพราะเขาไม่ได้บอกกับเรามาก่อนว่าคืออะไร เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือสิ่งที่เขาต้องการให้เราเตรียมให้เขาบอกได้เลยว่าเขาพิถึพิถันอย่างมาก ซึ่งสวนทางกับยุคนี้คือยุคดิจิตอลที่เป็นเหมือนกับว่าทุกอย่างทำได้ง่ายๆ แต่ไม่แน่น”
“สำหรับจอห์น เลเจนด์ มีความเป็นครีเอทีฟสูงมาก จึงสามารถดีไซน์โชว์ที่แตกต่างกันทุกครั้งและทำได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่าจะเป็นเพลงเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน มันมีทั้งเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก และความสร้างสรรค์ ที่ใส่เข้าไปในเพลงและในโชว์แต่ละครั้ง สำหรับคนไทยโดยส่วนใหญ่ยังขาดสิ่งดีๆ เหล่านี้ ยิ่งปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยให้การทำเพลงทำได้ง่าย ทำให้ความละเอียดอ่อนหายไป ในขณะที่เห็นได้ชัดและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจอห์น เลเจนด์ จึงเป็นศิลปินระดับโลก เมื่อดูจากวิธีการแต่งเพลง วิธีการเรียบเรียงเสียงประสาน และวิธีการเล่นเปียโน อย่างที่คุณหนึ่ง จักรวาลบอกว่าไม่กี่คอร์ด แต่ใส่เมโลดี้ได้มากมาย ซึ่งเป็นเรื่องยาก ผมเป็นคนเล่นดนตรีเหมือนกัน เมื่อเราต้องการให้เมโลดี้มีความซับซ้อนมากขึ้น เราต้องวางคอร์ดเหมือนรองพื้นมากขึ้นตามไปด้วย แต่สำหรับเขาไม่ได้ทำอย่างนั้น ซึ่งไม่ง่ายเลย นั่นเป็นเพราะเขาขยันและตั้งใจที่จะทำอย่างมาก สำหรับคนตรีหรือการทำเพลงของบ้านเราดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ก็ยังขาดเรื่องแบบนี้ คือความคิดสร้างสรรค์ ความสด ความใหม่”
“นี่คือความเป็นมืออาชีพระดับโลก ขณะที่บ้านเราน่าเสียดายที่ส่วนใหญ่มักจะ“เก่งแล้วหยุด”หรือ“ดังแล้วหยุด” ไม่แน่ใจว่าจอห์น เลเจนด์ คิดอะไร แต่ผมคิดว่าเขาอาจจะคิดว่าเขาสามารถ“ต่อบันได”ได้เสมอ ส่วนตัวผมเองซึ่งทำนิตยสารหนีกรุงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์หรือหนังสือมีการปิดตัวลงมากมาย เราก็ต้องคิดว่าเราจะเดินต่อไปอย่างไรดี เพราะเขียนแบบเดิมก็ยังมีคนชอบอ่านอยู่ แต่เราก็คิดว่าไม่พอ เพราะฉะนั้น เราก็จะมีการปรับปรุงหาสิ่งใหม่ๆ และเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัยด้วย เมื่อฟังเพลงของเขา ยิ่งเวลาเหนื่อยๆ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น และก็ยังเห็นได้ว่าเขาไม่เคยหยุด เราก็อย่าคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ดีที่สุดแล้ว ต้องคิดว่ายังมีสิ่งที่ดีกว่า และทุกครั้งที่เราคิดต่อ เราก็ได้ของที่ดีกว่าทุกครั้ง เพราะฉะนั้น อย่าหยุดคิด แล้วเราจะได้ของที่คาดไม่ถึงให้เห็น”
“ไม่อยากให้ฟังเพลงของเขาจากแผ่นซีดีเท่านั้น เพราะศักยภาพของเขาอยู่บนเวที ไม่ได้อยู่ในแผ่น ถ้าอยากเห็นตัวเขา เห็นอัจฉริยะภาพทางดนตรีของเขา ควรจะไปดูคอนเสิร์ตของเขา และอยากบอกว่าอย่ารอ เพราะอาจจะเหมือนกับคอนเสิร์ตอัสนีและวสันต์ที่ sold out คือตั๋วหมดภายใน 15 นาที หรือคอนเสิร์ตของเขาที่ญี่ปุ่น 2 รอบ ตั๋วหมดภายในวันเดียว และจากรายการสิ่งที่เราต้องจัดเตรียมเพื่อการแสดงของเขา บอกได้เลยว่าเขาจะต้องมีโชว์ที่ซับซ้อน และอะไรดีๆ ให้เราดูแน่ๆ อยากบอกว่าไม่ใช่แค่คนที่จะมาฟังเพลงเท่านั้น แต่คนอื่นๆ เช่น สายงานโฆษณา งานโปรดักชั่น ฯลฯ ก็สามารถมาใช้คอนเสิร์ตของเขาเป็นกรณีศึกษาได้เช่นกัน ต้องบอกว่าเสียงเปียโนของเขามีวิญญาณบางอย่าง เราจึงจัดที่ไบเทคและแค่ 6,000 ที่นั่งเท่านั้น พร้อมกับบรรยากาศที่ออกแบบมาให้ผู้ชมได้สัมผัสอรรถรสของคอนเสิร์ตนี้อย่างเต็มอิ่ม”
๐ “หนีกรุง คอนเน็ค”จัดคอนเสิร์ตแห่งปี
คอนเสิร์ต “John Legend Dark and Light Tour” โดย หนีกรุง คอนเน็ค อีเว้นท์ออกาไนเซอร์ จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญ เอาใจแฟนเพลงอาร์แอนด์บี โซลและฮิปฮอปกับ “จอห์น เลเจนด์” นักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงมือรางวัลชาวอเมริกัน ในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทยสมการรอคอยกว่าสิบปีของแฟนๆ ในวันที่ 23 มีนาคม 2561 ที่ไบเทคบางนา เพียงรอบเดียวเท่านั้น ในเวลาสองทุ่มตรง บัตรราคา 2,500/ 4.500 และ 8,000 บาท เปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
จอห์น เลเจนด์ (John Legend) เป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงแนวอาร์แอนด์บีและโซลชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ จากผู้อยู่เบื้องหลังให้กับศิลปินเพลงป๊อปและอาร์แอนด์บีชื่อดังมากมาย จอห์น เลเจนด์ ก้าวสู่ฐานะศิลปินเดี่ยวในปี 2004 กับอัลบั้ม “Get Lifted” พร้อมเพลงดังสร้างชื่ออย่าง “Ordinary People” นับจากนั้นแฟนเพลงทั่วโลกก็ตกหลุมรักน้ำเสียงนุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ เสียงเปียโนพลิ้วไหว และท่วงทำนองเพลงรักวาบหวามกินใจของ จอห์น เลเจนด์ ที่ผลิตงานเพลงคุณภาพออกมาแล้วทั้งหมด 5 ชุด กวาดรางวัลแกรมมี ออสการ์และลูกโลกทองคำมาแล้วนับสิบ และยังเป็นศิลปินที่มีชื่อใน Songwriters Hall of Fall หรือหอเกียรติยศนักประพันธ์เพลงอันทรงเกียรติอีกด้วย
ผลงานชุดล่าสุดของ จอห์น เลเจนด์ คือ “Darkness and Light” ที่ออกมาเมื่อปี 2016 พร้อมเพลงฮิตอย่าง “Love Me Now” และ “Penthouse Floor” ซึ่งในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทยของนักร้องมากความสามารถผู้นี้ แฟนเพลงยังจะได้เพลินเพลินไปกับเพลงอาร์แอนด์บีและโซลคุณภาพดีอย่าง “So High”, “P.D.A”, “Stereo”, “Save Room”, “Everybody Knows”, “Green Light”, “All of Me” และอีกมากมายอย่างใกล้ชิด
สำหรับดนตรีแนวอาร์แอนด์บีและโซลพิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวดนตรีอมตะเหนือกาลเวลา ไม่ว่าแนวดนตรีโลกจะเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วขนาดไหน และยังเป็นรูปแบบดนตรีที่สามารถแสดงถึงอารมณ์ละเอียดอ่อน วรรณศิลป์ และฝีไม้ลายมือของนักร้องนักดนตรีที่แยบยลและลึกซึ้ง นับเป็นอรรถรสที่หาได้ยากจากดนตรีแนวอื่นๆ
๐ เรื่องราวชีวิตและงานของจอห์น เลเจนด์
จอห์น เลเจนด์ มีชื่อจริงว่า จอห์น โรเจอร์ สตีเฟนส์ เป็นชาวเมืองสปริงฟีลด์ รัฐโอไฮโอและเริ่มร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ปัจจุบันอายุ 38 ปี ในขณะที่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มีคนแนะนำให้เขารู้จักกับ ลอริน ฮิล ซึ่งติดต่อให้ จอห์น เล่นเปียโนให้ในเพลง “Everything Is Everything” ที่ออกมาในปี 1998
หลังจากเรียนจบ จอห์น เริ่มทำงานเบื้องหลังให้กับศิลปินอย่าง คานเย เวสต์, เจ-ซี, อลิเชีย คีย์ส และอีกมากมายในฐานะนักเปียโนและนักร้องสมทบ ในปี 2004 จอห์น ออกอัลบั้มแรก “Get Lifted” ที่ทะยานขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 7 ในอเมริกา กับซิงเกิลฮิตเปิดตัว “Ordinary People” ที่มีแค่เสียงร้องของเขาและเปียโนเท่านั้น อัลบั้มนี้ได้รับรางวัลแกรมมีปี 2006 สาขาอัลบั้มอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม ส่วน จอห์น ได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและรางวัลเสียงร้องเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมสำหรับศิลปินชาย
อัลบั้มเปิดตัวที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชมเชยล้นหลามส่งให้ จอห์น ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงแถวหน้าจากอเมริกาที่มีศิลปินดังระดับโลกมากมายจ่อคิวอยากร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น เซอร์จิโอ เมนเดส, แมรี เจ ไบลจ์, เดอะ แบล็ค อายด์ พีส์, เฟอร์กี้ และอีกมากมาย และยังได้เล่นคอนเสิร์ตอุ่นเครื่องให้กับแข่งชันซูเปอร์โบลเอ็กซ์แอล 2006 และคอนเสิร์ตช่วงพักครึ่ง 2006 เอ็นบีเอ ออลสตาร์ เกม อีกด้วย
จอห์น ได้ชื่อที่ใช้ในการแสดงจาก เจ ไอวี นักร้อง กวี และนักพูดชื่อดังที่ชื่นชอบแนวดนตรีและเสียงร้องที่ให้ความรู้สึก “โอลด์สคูล” ของ จอห์น และตั้งนามสกุลใหม่ให้ว่า “เลเจนด์” เขามีอัลบั้มออกมาอีก 4 ชุดคือ “Once Again” (2006), “Evolver” (2008), “Love In The Future” (2013) พร้อมซิงเกิลดังอย่าง “All of Me” ที่ขึ้นอันดับหนึ่งชาร์ตบิลบอร์ดฮอท 100
จอห์น แต่งงานกับ คริสซี ทีเกน นางแบบสัญชาติอเมริกันลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์เมื่อปี 2013 และเพลง “All of Me” ก็เป็นเพลงที่ จอห์น แต่งให้กับภรรยา สำหรับอัลบั้มล่าสุด “Darkness and Light” ในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงที่ ลูน่า ซิโมน สตีเฟนส์ ลูกสาวคนแรกของทั้งคู่เกิดขึ้น เนื้อหาในอัลบั้มนี้จึงมีเรื่องราวชีวิตแต่งงาน การได้เป็นพ่อคนครั้งแรกและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตผ่านมุมมองของเขา แต่ยังเน้นเรื่องความรัก ความหวัง และการโอบอุ้มคนรอบข้างทั้งในยามสุขและทุกข์
จอห์น ชิมลางงานแสดงครั้งแรกในบทบาท “คีธ” ผู้นำวงดนตรีแจ๊ส ใน “La La Land” ประกบ ไรอัน กอสลิ่ง แลเอ็มม่า สโตน สองนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง และตลอดอาชีพนักดนตรีที่ผ่านมา จอห์น ได้รับรางวัลแกรมมีทั้งหมด 10 รางวัล และได้รับรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำหนึ่งรางวัลในปี 2015 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก “Glory” จากภาพยนตร์เรื่อง “Selma” ล่าสุดเขายังได้รับรางวัลโทนีจากละครเวทีบรอดเวย์ “Jitney” ที่เขาร่วมทีมในฐานะหนึ่งในผู้สร้าง ในส่วนงานเพื่อสังคม จอห์น ก่อตั้งแคมเปญ #FREEAMERICA ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบราชทัณฑ์ของอเมริกา เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับนักโทษในสถานกักกัน (http://letsfreeamerica.com/#About)
สำหรับคลิปวิดีโอที่แนะนำ 1.“Love Me Now” ซิงเกิ้ลล่าสุดจากอัลบั้มใหม่ “Darkness and Light” https://www.youtube.com/watch?v=NmCFY1oYDeM 2. การแสดงสดเพลง “All of Me” ในรายการ VEVO Go Show ที่นิวยอร์ก https://www.youtube.com/watch?v=ftGQLvUwzjY 3.“America The Beautiful” NFL Super Bowl XLIX https://www.youtube.com/watch?v=C2umLsCAr1Q 4.การแสดงสดเพลง “Glory” ในงานออสการ์ปี 2015 https://www.youtube.com/watch?v=H9MKXR4gLjQ 5.จอห์น และอลิเชีย คีย์ส ร่วมร้องเพลง “Let It Be” เป็นเกียรติแก่ เดอะ บีเทิลส์ ในงานประกาศรางวัลแกรมมี https://www.youtube.com/watch?v=-b3vWzPo5bQ 6. John Legend: YouTube official channel https://www.youtube.com/user/johnlegend