บรรยายใต้ภาพ: นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ฉลองความสำเร็จภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันปารีส มาราธอน ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2015
ซีอีโอ ไทยยูเนี่ยน “ธีรพงศ์ จันศิริ” ร่วมวิ่งลอนดอนมาราธอน งานใหญ่แห่งปี ชวนร่วมระดมทุนให้องค์กร WWF สหราชอาณาจักร
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ฟิตร่างกายพร้อมบินตรงสู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมวิ่งในงาน Virgin London Marathon ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน 2560 เพื่อร่วมระดมทุนให้องค์กร WWF หรือ กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นโดยส่วนตัวที่จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับท้องทะเล
ไทยยูเนี่ยน หนึ่งในผู้นำด้านอาหารทะเลชั้นนำของโลก ได้ทำงานร่วมกับองค์กร WWF ในหลายประเทศ และให้ทุนสนับสนุนงานพัฒนาการดำเนินงานด้านการประมงต่างๆ เพื่อปกป้องระดับจำนวนปลาที่มีอยู่ ลดความเสี่ยงที่เป็นภัยต่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ และทำให้มั่นใจว่ามีระบบการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาอย่างเต็มรูปแบบสำหรับทุกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของบริษัท โดยปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนกำลังทำงานร่วมกับ WWF สหราชอาณาจักร ในการผลักดันโครงการพัฒนาการประมง หรือที่เรียกกันว่า Fishery Improvement Project (FIP) ในแถบมหาสมุทรอินเดีย
ทั้งนี้ นายธีรพงศ์ ตั้งเป้าจะระดมทุนให้ได้อย่างน้อย 90,000 บาท (หรือราว 2,000 ปอนด์) เพื่อสมทบทุนในโครงการนี้ โดยระยะทางการวิ่ง 26 ไมล์ในการวิ่งลอนดอนมาราธอนจะเริ่มต้นจากกรีนวิค พาร์ค วิ่งผ่านสถานที่สำคัญอันเป็นจุดเด่นของลอนดอนบางจุดก่อนที่จะเข้าสู่เส้นชัยที่บริเวณเดอะมอลล์ซึ่งอยู่หน้าพระราชวังบัคกิ้งแฮม
“สิ่งที่ไทยยูเนี่ยนกำลังทำงานร่วมกับองค์กร WWF สหราชอาณาจักร มีความสำคัญต่อการรักษาท้องทะเลให้มีความสมบูรณ์ในอนาคต และเมื่อเวลาผ่านไป จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินงานของทั้งอุตสาหกรรม ผมมีความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับ WWF สหราชอาณาจักร เป็นอย่างยิ่ง การร่วมวิ่งในงานลอนดอนมาราธอน เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ผมตั้งใจจะทำอยู่แล้ว และผมหวังว่าความพยายามของผมจะช่วยเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ในโลกปัจจุบัน”นายธีรพงค์กล่าว
ในเดือนธันวาคมปี2559 ไทยยูเนี่ยนได้ประกาศกลยุทธ์ที่ท้าทาย โดยตั้งเป้าหมายในการจัดหาแหล่งวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์แบรนด์ปลาทูน่าของบริษัทมาจากวิธีการที่ยั่งยืน โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นจะทำให้ได้อย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2563 และในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ปลาทูน่าใหม่นี้ บริษัทกำลังลงทุนมากกว่า 3 พันล้านบาท (ราว 90 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในโครงการต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณปลาทูน่าอย่างยั่งยืน ซึ่งในที่นี้รวมถึงโครงการพัฒนาการประมง (FIP) ใหม่จำนวน 11 โครงการทั่วโลก โดยโครงการเหล่านี้ เป็นโครงการปฏิรูปการประมง เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีปริมาณปลาที่ยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีการพัฒนาการจัดการด้านการประมงอย่างมีประสิทธิภาพ
ร่วมสนับสนุนนายธีรพงศ์ จันศิริ สามารถบริจาคไปที่ WWF สหราชอาณาจักร ที่เว็บไซต์ www.justgiving.com/thiraphongchansiri.