เอจีซี อาซาฮีกลาสโชว์ยอดขายแตะ 4.01 แสนล้าน ปลื้มสร้างกำไร 3 หมื่นล้านในปี 2559 ชี้กลุ่มเคมีภัณฑ์สร้างกำไรได้มากที่สุด โดยการเข้าถือครองหุ้นใหญ่ของ บมจ.วีนิไทย 58.77% จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิต และการทำตลาดทั้งในประเทศ และในภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
นายคาซูอะกิ โคกะ กรรมการบริหาร บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด และผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายเอสเซนเชียล เคมิคอลส์ เจนเนอรัล (Essential Chemicals General) กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเอจีซี มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 401,000 ล้านบาท จาก 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจกระจก กลุ่มธุรกิจอีเล็คทรอนิก กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจเซรามิก โดยกลุ่มที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดคือกลุ่มธุรกิจกระจก ส่วนกลุ่มที่สร้างกำไรได้สูงที่สุดคือกลุ่มเคมีภัณฑ์ ซึ่งทำกำไรได้ถึง 13,000 ล้านบาท จากกำไรรวมทั้งหมด 30,000 ล้านบาท
“กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์จึงเป็นกลุ่มที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมีโอกาสในการเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจคลอร์อัลคาไลน์ ที่เติบโตอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดมีความต้องการผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะความต้องการในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 70 ของความต้องการทั้งภูมิภาคแล้ว”
กลุ่มเอจีซีสร้างฐานการผลิตไว้ครอบคลุมทั่วภูมิภาค โดยในประเทศไทย บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 350,000 ตัน ในอินโดนีเซีย บริษัท อาซาฮีมัส เคมิคอลส์ จำกัด มีกำลังการผลิต โซดาไฟอยู่ที่ 700,000 ตัน วีซีเอ็มอยู่ที่ 800,000 ตัน และพีวีซีอยู่ที่ 550,000 ตัน ในเวียดนาม บริษัท เอจีซี เคมิคอลส์ (เวียดนาม) มีกำลังการผลิตพีวีซีอยู่ที่ 150,000 ตัน ซึ่ง หลังจากที่วีนิไทยได้เข้าร่วมกับกลุ่มเอจีซีแล้ว จะทำให้เรามีกำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ โดยมีกำลังการผลิตโซดาไฟได้ทั้งหมด 1.42 ล้านตัน วีซีเอ็มได้ 1.2 ล้านตัน และพีวีซี 980,000 ตัน ซึ่งจะเป็นการเสริมโอกาส เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และทำให้กลุ่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ มากกว่า 30 ประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 50,000 คน เอจีซี มั่นใจว่าจะสามารถนำความรู้ ความสามารถในการผลิต และการตลาด มาช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของวีนิไทยในภูมิภาคนี้ และการเข้ามาถือหุ้นในวีนิไทยจะทำให้เอจีซีสามารถบริหารจัดการธุรกิจคลออัลคาไลแบบครบวงจรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ และตั้งเป้าจะขยายธุรกิจออกไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ และภูมิภาคตะวันออกกลางในอนาคตอันใกล้นี้
กลุ่มเอจีซีเข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 ปัจจุบันมีพนักงานในกลุ่มบริษัทมากกว่า 4,500 คนทำงานในประเทศไทย และได้ก่อตั้งบริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัดในปีพ.ศ. 2508 ในปี 2560 กลุ่มเอจีซีประสบความสำเร็จในการเข้าถือครองหุ้น 58.77% ของ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายโซดาไฟ วีซีเอ็ม ผงพลาสติกพีวีซี และ อีพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพ ที่มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 370,000 ตัน วีซีเอ็ม 400,000 ตัน พีวีซี 280,000 ตัน และอีพิคลอโรไฮดรินอีก 100,000 ตัน ซึ่ง เอจีซี ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ระหว่างวันที่ 3 มีนาคม - 7 เมษายน 2560
นายคาซูอะกิ โคกะ กรรมการบริหาร บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด และผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายเอสเซนเชียล เคมิคอลส์ เจนเนอรัล (Essential Chemicals General) กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเอจีซี มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 401,000 ล้านบาท จาก 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจกระจก กลุ่มธุรกิจอีเล็คทรอนิก กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจเซรามิก โดยกลุ่มที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดคือกลุ่มธุรกิจกระจก ส่วนกลุ่มที่สร้างกำไรได้สูงที่สุดคือกลุ่มเคมีภัณฑ์ ซึ่งทำกำไรได้ถึง 13,000 ล้านบาท จากกำไรรวมทั้งหมด 30,000 ล้านบาท
“กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์จึงเป็นกลุ่มที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมีโอกาสในการเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจคลอร์อัลคาไลน์ ที่เติบโตอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดมีความต้องการผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะความต้องการในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 70 ของความต้องการทั้งภูมิภาคแล้ว”
กลุ่มเอจีซีสร้างฐานการผลิตไว้ครอบคลุมทั่วภูมิภาค โดยในประเทศไทย บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 350,000 ตัน ในอินโดนีเซีย บริษัท อาซาฮีมัส เคมิคอลส์ จำกัด มีกำลังการผลิต โซดาไฟอยู่ที่ 700,000 ตัน วีซีเอ็มอยู่ที่ 800,000 ตัน และพีวีซีอยู่ที่ 550,000 ตัน ในเวียดนาม บริษัท เอจีซี เคมิคอลส์ (เวียดนาม) มีกำลังการผลิตพีวีซีอยู่ที่ 150,000 ตัน ซึ่ง หลังจากที่วีนิไทยได้เข้าร่วมกับกลุ่มเอจีซีแล้ว จะทำให้เรามีกำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ โดยมีกำลังการผลิตโซดาไฟได้ทั้งหมด 1.42 ล้านตัน วีซีเอ็มได้ 1.2 ล้านตัน และพีวีซี 980,000 ตัน ซึ่งจะเป็นการเสริมโอกาส เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และทำให้กลุ่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ มากกว่า 30 ประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 50,000 คน เอจีซี มั่นใจว่าจะสามารถนำความรู้ ความสามารถในการผลิต และการตลาด มาช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของวีนิไทยในภูมิภาคนี้ และการเข้ามาถือหุ้นในวีนิไทยจะทำให้เอจีซีสามารถบริหารจัดการธุรกิจคลออัลคาไลแบบครบวงจรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ และตั้งเป้าจะขยายธุรกิจออกไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ และภูมิภาคตะวันออกกลางในอนาคตอันใกล้นี้
กลุ่มเอจีซีเข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 ปัจจุบันมีพนักงานในกลุ่มบริษัทมากกว่า 4,500 คนทำงานในประเทศไทย และได้ก่อตั้งบริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัดในปีพ.ศ. 2508 ในปี 2560 กลุ่มเอจีซีประสบความสำเร็จในการเข้าถือครองหุ้น 58.77% ของ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายโซดาไฟ วีซีเอ็ม ผงพลาสติกพีวีซี และ อีพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพ ที่มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 370,000 ตัน วีซีเอ็ม 400,000 ตัน พีวีซี 280,000 ตัน และอีพิคลอโรไฮดรินอีก 100,000 ตัน ซึ่ง เอจีซี ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ระหว่างวันที่ 3 มีนาคม - 7 เมษายน 2560