เคทีซีร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและมาสเตอร์การ์ดจัดงานประกาศผลรางวัล “Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)” การประกวดสุดยอดโรงแรมบูติกไทย ครั้งที่ 4 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Colours of Thai” มุ่งหวังธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน มอบ 34 รางวัลสุดยอดโรงแรมฯ และเพิ่ม 2 รางวัลพิเศษให้แก่องค์กรต้นแบบและบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมบูติกไทย
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นและผลักดันให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยมีการพัฒนายิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการช่วยกันผลักดันให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เคทีซีในฐานะผู้จัดโครงการ “Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)” มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจโรงแรมบูติกและธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ การที่โครงการ Thailand Boutique Awards ได้รับรางวัล PATA Gold Awards 2016 ในหมวดอุตสาหกรรมการตลาด และการขยายผลของโรงแรมบูติกที่เข้าร่วมประกวดในโครงการฯ ในการร่วมก่อตั้งสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยในปี 2559 เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจของเคทีซีในการที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพการทำธุรกิจโรงแรมบูติกให้เข้มแข็งและต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพอย่างเต็มที่
โครงการ “Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)” หรือการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติกไทย ครั้งที่ 4 เคทีซีได้ร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและมาสเตอร์การ์ดซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากสื่อพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ แทรเวล แชนแนล ไทยแลนด์ และทรูยู พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาจำนวน 13 ท่าน ร่วมทำการตัดสิน โดยได้พัฒนาหลักเกณฑ์การตัดสินให้เข้มข้น และสอดคล้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมไทยมากขึ้น สำหรับการประกวดครั้งนี้มีจำนวนโรงแรมบูติกขนาด 3-80 ห้อง เข้าร่วมประกวดกว่า 100 โรงแรมทั่วประเทศ ภายใต้คอนเซปต์หลัก“Colours of Thai” เน้นสีสันที่หลากหลายของความเป็นไทย ทั้งในด้านการบริการ การนำวัตถุดิบไทยๆ มาประยุกต์ และการเชื่อมโยงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น
สำหรับพิธีประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัลดังกล่าว นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “วิสัยทัศน์ 4.0 เพื่อโรงแรมบูติกและการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืน” และมอบรางวัลให้แก่ 34 สุดยอดโรงแรมบูติกไทย ที่มีคุณภาพโดดเด่นใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) 2.การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) และ3.แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) โดยแบ่งระดับรางวัลเป็น 3 ขนาด คือ S Collection (โรงแรมขนาด 3-20 ห้อง) / M Collection (โรงแรมขนาด 21-50 ห้อง) และ L Collection (โรงแรมขนาด 51-80 ห้อง) และแบ่งเขตการประกวดตามที่ตั้งเป็น 4 เขต คือ ทะเล(Sea) ภูเขา(Mountain) แม่น้ำ(River) และเมือง (City) นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษ(Special Awards) สำหรับองค์กรต้นแบบและบุคคลทำคุณประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมบูติกไทย
โดยโรงแรมที่ได้รับรางวัล ได้แก่ เขตทะเล (Sea) 1. สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท (ประจวบคีรีขันธ์) M Collection ได้แก่ ภารีสา (ภูเก็ต) และ L Collection ได้แก่ ศาลา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา (ภูเก็ต) 2. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) M Collection ได้แก่ เดอะมนต์ตรา พัทยา (ชลบุรี) และ ปารดี (เกาะเสม็ด ระยอง) 3. แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) M Collection ได้แก่ โรงแรมเดอะ ไลบารี่ (สมุย สุราษฎร์ธานี) และ L Collection ได้แก่ อลีนตา ภูเก็ต-พังงา รีสอร์ท แอนด์ สปา (พังงา)
เขตภูเขา (Mountain) 1. สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ มิราเซียรา เขาใหญ่ (นครราชสีมา) M Collection ได้แก่ วิลล่า วิลล่า พัทยา (ชลบุรี) และวิลล่า โซลิธูท รีสอร์ท แอนด์ สปา (ภูเก็ต) 2. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) S Collection ได้แก่ แรบบิซ ฮิลล์ รีสอร์ท (จันทบุรี) 3. แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) S Collection ได้แก่ หน้าผา เขาใหญ่ รีสอร์ท (นครราชสีมา) M Collection ได้แก่ ม้งฮิลล์ไทรบ์ลอดจด์ (เชียงใหม่) และ L Collection ได้แก่ โฟโต้ โฮเทล (ภูเก็ต)
เขตแม่น้ำ (River) 1. สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ ศาลา รัตนโกสินทร์ (กรุงเทพฯ) M Collection ได้แก่ เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว (กาญจนบุรี) และศาลา อยุธยา (อยุธยา) และ L Collection ได้แก่ โรงแรมบราวน์เฮ้าส์ (อุดรธานี) 2. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) S Collection ได้แก่ วิลล่า โมรีดา (ราชบุรี) และแพ 500 ไร่ (เขาสก สุราษฎร์ธานี) M Collection ได้แก่ อสิตา อีโค รีสอร์ท อัมพวา (สมุทรสงคราม) 3. แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) S Collection ได้แก่ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม (สวนผึ้ง ราชบุรี) M Collection ได้แก่ มารดาดี เฮอริเทจ ริเวอร์ วิลเลจ (เชียงใหม่) และ L Collection ได้แก่ ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ (กาญจบุรี)
เขตเมือง (City) 1. สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ อ็อกโซเทล (เชียงใหม่) และปิงนครา บูติคโฮเทลแอนด์สปา (เชียงใหม่) M Collection ได้แก่ โรงแรมอคีรา แมเนอร์ สวีท เชียงใหม่ (เชียงใหม่) และโรงแรมลิตเติ้ลยอนย่า (ภูเก็ต) และ L Collection ได้แก่ โรงแรมบลูมังกี้ ฮับ แอนด์ โฮเทล (ภูเก็ต) 2. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) M Collection ได้แก่ 137 พิลล่าร์ เฮ้าส์ (เชียงใหม่) 3. แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) S Collection ได้แก่ โฮเทล เดส อาร์ติส ปิง ซิลลูเอท (เชียงใหม่) M Collection ได้แก่ โรงแรมอัมพวาน่านอน (สมุทรสงคราม) เดอะ เมโมรี่ แอท ออน ออน โฮเต็ล (ภูเก็ต) และโรงแรมอ้นหยา ภูเก็ต (ภูเก็ต)
ส่วน 2 รางวัลพิเศษ ที่มอบให้แก่องค์กรต้นแบบโรงแรมบูติกและบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมบูติกไทย คือ People Award ได้แก่ คณะทำงานจาก ดิ แอทติจูด คลับ และSpecial Thanks Award ได้แก่ นายสถาพร สิริสิงห ผู้ที่ให้การสนับสนุนโครงการ Thailand Boutique Awards ตั้งแต่ริเริ่มโครงการจนเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัด โครงการ “Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)” ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมบูติกไทย ได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยพัฒนาการบริหารธุรกิจโรงแรมบูติกให้เติบโตอย่างยั่งยืน และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการโรงแรมบูติกสร้างสรรค์ผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงการบริการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามในความเป็นไทย และมีศักยภาพพร้อมแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและในเวทีโลกต่อไป” นายระเฑียร กล่าวปิดท้าย