xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจสองทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ เผยหลักคิด-แนวทางสู่ความยั่งยืน ยอมรับทุกครอบครัวกลัวการสืบทอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วศิน ดำรงสกุลวงศ์
สองทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ เดินหน้าสานต่อธุรกิจครอบครัว“อินเตอร์ไฮด์-ชูไก” เผยหลักคิดและแนวทางบริหาร ยอมรับทุกธุรกิจครอบครัวมีข้อกังวลเหมือนกันคือกลัวการสืบทอดกิจการว่าจะก้าวไม่ผ่านจากรุ่นสู่รุ่น

วศิน ดำรงสกุลวงษ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบาะหนังสำหรับรถยนต์และอุปกรณ์ที่ทำจากหนัง กล่าวถึงการเข้ามารับช่วงกิจการของครอบครัวว่า ปัจจุบันได้ดูแลทุกเรื่องอย่างเต็มตัวเป็นปีที่สองแล้ว หลังจากเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่เรียนจบในระดับปริญญาตรีเมื่อปีพ.ศ.2557 แต่การเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวนั้นเริ่มมาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยมีเป้าหมายที่แน่ชัดอยู่แล้ว

“พ่อถามว่าอยากทำหรือเปล่า ถ้าไม่ทำจะขายกิจการ ซึ่งมีมูลค่าเป็นพันล้านบาท แต่การตัดสินใจมาทำไม่ใช่เพราะเรื่องเงินหรือกำไรที่ได้เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความภาคภูมิใจด้วยว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าของเราไปอยู่ในที่พิเศษๆ เช่น เบาะของเราได้เข้าไปอยู่ในเฟอรารี่ ฯลฯ และที่สำคัญ เป็นการทำให้คนอื่นเห็นว่าเราสามารถสืบทอดกิจการที่พ่อแม่ร่วมกันสร้างมาต่อไปได้ แล้วยังมีการพัฒนาหรือต่อยอดเพิ่มขึ้นไปได้อีก”

สำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น และไม่ใช่อุปสรรคในการทำงาน เพราะพ่อกับแม่เปิดโอกาสให้ทำผิดพลาดเพื่อให้ได้บทเรียน และการลงมือทำด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะเข้าใจได้ดี เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในทุกส่วนของงาน เพราะไม่มีรายละเอียดอะไรที่ไม่สำคัญ ต้องรู้ทุกอย่างและต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง การดูแลธุรกิจต้องรู้ทุกอย่างเพราะทุกอย่างสำคัญ เช่น สูตรเคมี ซึ่งหากผิดพลาดจะเสียหายมาก จะต้องมีการดูแลอย่างละเอียด ส่วนการตัดเย็บน่าจะให้บุคลากรที่ไว้ใจได้มาช่วยดูแล เพื่อเป็นการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ตอนเรียนหนังสือ พ่อกับแม่บอกให้เรียนอย่างมีความสุข แต่ต้องตั้งใจเรียน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตั้งเป้าหมายให้ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ในเรื่องการทำงาน พ่อกับแม่บอกว่าไม่ต้องทำเกินร้อย แต่ต้องตั้งใจ ต้องให้มีความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตส่วนตัวกับการทำงานให้ถูก เพื่อให้ก้าวไปได้อย่างราบรื่น ครอบครัวเราไม่ได้มองเรื่องเงินเป็นหลัก แต่มองว่าทำอย่างไรให้ธุรกิจมั่นคง ตอนนี้บริษัทก็มั่นคงดีอยู่ เพียงแต่ต้องมองเรื่องกำไรให้มากขึ้น โดยรวมแล้วคือต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้ารับผิดชอบ ถ้าเรื่องไหนที่คิดจะทำ ถ้าทำแล้วไม่กล้าบอกคนอื่นก็อย่าทำ” นี่คือแนวความคิดและแนวทางในการทำงาน

ในการบริหารคน วิธีการคือทำให้รู้สึกคุ้นเคยกันเพื่อให้กล้ามาเล่าเรื่องข้อผิดพลาด ทำให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพราะถ้ารู้สึกกลัวก็จะพยายามแก้ไขเอง ซึ่งอาจจะทำให้เสียหายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังประกาศชัดเจนว่าบริษัทจะแบ่งผลกำไรที่ได้ในแต่ละปีมาเป็นโบนัส กำไรมากได้มาก กำไรน้อยได้น้อย เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่ามีส่วนได้ส่วนเสียด้วย เพราะสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือพนักงานมักจะคิดว่าไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ และคิดว่าบริษัทจะเป็นอย่างไร ก็ได้เงินเดือนทุกเดือนเป็นปกติอยู่แล้ว
อัญญ์ชิสา แพรรังสี
อัญญ์ชิสา แพรรังสี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก ด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง กล่าวว่า การเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจครอบครัวที่รุ่นพ่อก่อร่างสร้างมาและก้าวมาถึง 30 ปีแล้ว ในส่วนรุ่นลูกซึ่งเธอเป็นคนแรกที่มาช่วยสืบทอดกิจการมุ่งเป้าหมายที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนสืบต่อไปถึงรุ่นหลาน จากประสบการณ์ 13 ปีที่ผ่านมามีจุดท้าทายในช่วงต่างๆ โดยช่วงเริ่มแรกของการทำงาน ในขณะที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และเป็นผู้หญิงอีกด้วย ทำให้ลูกค้าไม่ให้ความเชื่อถือ จึงแก้ปัญหาด้วยการศึกษา เตรียมข้อมูลอย่างดี และใช้วิธีการนำเสนอที่เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่ามีการเตรียมตัวมาจริงๆ และยอมรับมากขึ้น

นอกจากนี้ แม้ว่าจะเกิดปัญหาซึ่งในตอนแรกเข้าใจว่าเป็นปัญหาเฉพาะครอบครัวของเธอ แต่เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปเรียนในหลักสูตรบริหารธุรกิจครอบครัวทำให้ได้รู้ว่าแท้จริงปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเธอเป็นปัญหาเดียวกับที่เกิดขึ้นกับธุรกิจครอบครัวอื่นๆ เช่นกัน นั่นคือความกังวลว่าจะไม่สามารถก้าวผ่านการส่งต่อหรือสืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่นไปได้ จึงทำให้เกิดความเข้าใจและมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป

“สิ่งที่ได้จากพ่อ ทุกอย่างที่ทำอยู่ มาจากการดูตัวอย่างที่พ่อทำ ทั้งความน่าเชื่อถือที่ต้องมี เรื่องความรวดเร็ว พ่อสอนว่า ทุกงานที่เข้ามาต้องกล้ารับ อย่าปฏิเสธ เราต้องเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้ ทุกปัญหามีทางออก สามารถแก้ไขได้ เมื่อเรามีโอกาส ไม่ให้ทิ้งโอกาส ทำได้ห้าสิบหรือร้อยเปอร์เซ็นค่อยดูกันอีกที อย่ากลัวปัญหา”
กำลังโหลดความคิดเห็น