เอพี (ไทยแลนด์) ประกาศความสำเร็จครบรอบ 3 ปีความร่วมมือระหว่างสองผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำ "เอพี ไทยแลนด์" และ "มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป" ( MEC) เผยแนวทางการดำเนินงานร่วมกันภายใต้กลยุทธ์ 'AP Think Different' เพื่อมุ่งพัฒนาความร่วมมือที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ตลอดระยะเวลา 3 ปีของความร่วมมือมากกว่าเรื่องของการลงทุนนั่นคือ ความเชื่อมั่นที่ทางมิตซูบิชิ เอสเตทมีต่อเอพีและประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากโครงสร้างการดำเนินธุรกิจที่เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท เป็นพันธมิตรรายแรกที่มีโมเดลการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่แตกต่างจากรายอื่น คือ การจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ด้วยทุนจดทะเบียนที่สูงถึง 6,100 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด” เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน โดยทางมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีอีกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2560 ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 4 ของการร่วมทุน ทั้งเอพีและ MEC ยังคงวางแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกจะเปิดตัว 2 โครงการใหญ่แห่งปี ได้แก่ Life วัน ไวร์เลส และ Life ลาดพร้าว และมีแผนเปิดตัวโครงการอื่นๆ อีก ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน ซึ่งจากการร่วมทุนครั้งแรกเมื่อปี 2557 จนถึงวันนี้เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท พัฒนาโครงการร่วมกันมูลค่าสูงถึง 47,000 ล้านบาท
ตลอดระยะเวลา 3 ปี เอพีและ MEC ร่วมกัน "สร้างความแตกต่าง" ด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 27,000 ล้านบาท ทั้ง 8 โครงการมียอดขายรวมเฉลี่ย 85% และในไตรมาส 4 ของปี 2559 ถือเป็นครั้งแรกที่โครงการภายใต้การร่วมทุนก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่มากถึง 4 โครงการ ได้แก่ 1. RHYTHM สุขุมวิท 36 – 38 2.ASPIRE รัชดา – วงศ์สว่าง 3. ASPIRE สาทร – ท่าพระ 4. RHYTHM อโศก 2 โดยทั้ง 4 โครงการมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจร่วมกันตลอดระยะเวลา 3 ปี ได้มากกว่าเงิน นั่นคือ การได้ร่วมลงทุนในด้านองค์ความรู้ที่ครอบคลุมการพัฒนาที่อยู่อาศัย การพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นและจริงจัง ไปจนถึงการร่วมยกระดับมาตรฐานวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วย ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีจุดแข็งที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันคือ MEC ได้ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านดีไซน์และการออกแบบสเปซ รวมถึงกระบวนการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ในส่วนของเอพีก็ได้แบ่งปันและให้คำแนะนำหลักการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ในประเทศไทยให้กับ
จากนี้ไป เรายังคงเน้นการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ "AP Think Different" ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการทำธุรกิจของเอพี และยังจะได้นำมาใช้กับการยกระดับความร่วมมือระหว่างเอพีและ MEC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี มุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในเรื่องพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต 2.องค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ อันจะนำไปสูอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ร่วมกันในการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย 3. ร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต สังคมไทยและชุมชน อันนำไปสู่ "การใช้ชีวิตคุณภาพ" ให้กับลูกบ้านและสังคมภายนอกต่อไป
นายโชจิโร โคจิมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในนามของมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานจากวันนี้ไป ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการลงทุนสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องของการเติบโต และโอกาสในการลงทุน ด้วยแผนการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมอย่างรถไฟฟ้าที่ส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของชุมชมเมืองใหม่ๆ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้าในเมืองที่เอพีเป็นผู้นำ
ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 4 แห่งความร่วมมือ เอพียังคงเน้นการดำเนินกลยุทธ์ "AP Think Different" ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการทำธุรกิจของเอพี และยังจะได้นำมาใช้กับการยกระดับความร่วมมือระหว่าง เอพีและ MEC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
1. นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี: เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในเรื่องพื้นที่ใช้สอยพร้อมด้วยความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตภายในโครงการที่อยู่อาศัยแบรนด์เอพี ผ่านการผสานวิสัยทัศน์เรื่อง AP Digital Community ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในโครงการเอพีให้สะดวกสบาย ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยภายใต้แนวคิด IOT (Internet of Things) เข้ากับการออกแบบสเปซ จากวันนี้ไปการออกแบบสเปซจะไม่โฟกัสเฉพาะภายในยูนิตพักอาศัยเท่านั้น แต่ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดของพื้นที่ที่อยู่นอกห้อง คอนโดใหม่ๆ ของเอพีจากนี้ไปจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เรานำเรื่อง IOT เข้ามาคิดร่วมในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเยอะมาก เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคตของคนเมือง
2. องค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ: การแลกเปลี่ยน "เทคนิค" ต่างๆ ระหว่างเอพีและ MEC จะเป็นไปในทิศทางที่เจาะลึกมากยิ่งขึ้นในหลายระดับ หนึ่งในนั้นคือ การพัฒนา AP Check List ที่ร่วมกับทีมดีไซน์เนอร์และทีมตรวจสอบคุณภาพงานจากทาง MEC ซึ่ง AP Check List จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมมาตรฐานในการพัฒนาโครงการ ที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบ ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพงาน ซึ่งกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้ รวมถึงการให้ความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการอบรมร่วมกับสถาบันเอพี อะคาเดมี่ สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในเมืองไทย และโปรแกรม 'AP Open House' ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาฝึกงานของเอพีได้มีโอกาสเรียนรู้และได้ลงสนามจริงกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่นด้วย ณ ประเทศญี่ปุ่น
3. คุณภาพชีวิต สังคมและชุมชน: การทำงานร่วมกันระหว่างเอพีและ MEC ใน 'AP Design Lab' ไม่เพียงนำความแตกต่างมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยของเอพีเท่านั้น แต่ยังได้ต่อยอดไปสู่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับสังคมและชุมชนอีกด้วย โดยหนึ่งในความสำเร็จที่นำความภาคภูมิใจมาให้เราและประเทศไทยคือโครงการสนามฟุตบอล และสำหรับปีนี้ เราและทาง MEC ยังคงร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ที่นำมาซึ่ง "การใช้ชีวิตคุณภาพ" ให้กับลูกบ้านและสังคมภายนอกต่อไป