***เคล็ดลับเพิ่มความสุขและความสำเร็จง่ายๆ ที่นำไปใช้ได้ทันที***
โดย - ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร
วันนี้นอกจากผมจะมีความสุขมากๆ แล้ว ยังเป็นวันที่ผมทำงานได้เยอะมากๆ อีกด้วย ไม่ใช่เพราะได้ดื่มกระทิงแดง + แรงเยอร์ผสมงาดำ แต่แค่เพราะผมทำสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากวันอื่นๆ นั่นคือ...
ผมตื่นขึ้นมาแล้วลองนั่ง "มองใจ" ก่อนหันไป "มองจอ"
เช้านี้หลังจากตื่นนอน ผมลองหลับตา นั่งเงียบๆ แล้วให้เวลาตัวเองทบทวนชีวิตเมื่อวาน ตั้งเป้าหมายของวันใหม่ และวางแผนสิ่งสำคัญที่จะทำทั้งวันประมาณ 10 นาที (นี่คือการ "มองใจ") ก่อนที่จะเริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นและเลื่อนเช็คสิ่งต่างๆ ประมาณ 350 อย่าง (นี่คือการ "มองจอ")
ก่อนหน้านี้ทุกๆ เช้าหลังตื่นนอน ผมก็ทำกิจกรรมแรกเหมือนมนุษย์แห่งศตวรรษที่ 21 ทั่วไป คือตื่นมาปุ๊ปเช็คโทรศัพท์ปั๊ป แกว่งนิ้วโป้งฉับๆ หาโพสต์และรูปที่ถูกใจ แต่พบว่าจิตใจกลับแย่ลงทุกวัน ผมจึงลองตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตตอนเช้าดูใหม่ ผมลองทำแบบนี้มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว พบว่าได้ผลอันยอดเยี่ยมต่อความสุขและความสำเร็จในแต่ละวันอย่างน่าอัศจรรย์ จึงขอนำเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปัน...
เวลาเราตื่นมาแล้ว "มองจอ" เป็นอับดับแรก ข้อเสียคือมันจะเป็นการ "จูนใจ" ของตัวเองทั้งวัน ให้เป็นใจที่ชอบ "ยุ่งเรื่องชาวบ้าน" แถมเรื่องเหล่านั้นหลายครั้งก็เป็น "เรื่องเล็ก" "เรื่องร้าย" หรือ "เรื่องบ่นประปรายที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น"
เมื่อใจเราถูก "ตั้งค่า" ให้พุ่งความสนใจไปที่เรื่องคนอื่นแต่เช้า วันนั้นทั้งวันเราก็จะสนใจใน "เรื่องเล็กๆ ของคนอื่น" มากกว่า "เรื่องใหญ่ๆ ของตัวเอง" โดยไม่รู้ตัว และจำไว้เถอะครับว่า "คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน จะไม่ใช้เวลาในการยุ่งเรื่องของคนอื่น มากกว่าการพัฒนาชีวิตของตัวเอง" ฉะนั้นข่าวร้ายก็คือ การตื่นมา "มองจอ" ก่อน "มองใจ" จนเป็นนิสัย คือการฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ "เดินห่างไกลออกจากความสำเร็จที่แท้จริง" ไปเรื่อยๆ
ในทางตรงกันข้าม การที่เราหลับตานิ่งๆ สัก 10 นาที แล้ว "ตั้งค่า" ใจให้อยู่กับสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตเราจริงๆ และตอกย้ำเป้าหมายด้วยการจินตนาการภาพความสำเร็จให้เด่นชัด เช่น วันนี้จะต้องไปออกกำลังกายให้ได้ วันนี้จะกินมื้่อเช้าที่ดีต่อสุขภาพ วันนี้จะโกรธต่อเรื่องต่างๆ ให้น้อยลง วันนี้จะเป็นคนที่กล้าหาญกว่าเมื่อวาน วันนี้จะขยันทำงานสานฝันมากขึ้นอีก 2 ชั่วโมง หรือแม้แต่เป้าหมายง่ายๆ อย่าง วันนี้จะเริ่มจัดห้อง วันนี้จะโทรไปหาแม่ วันนี้จะกอดพ่อ วันนี้จะพูดกับครอบครัวด้วยความรัก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ "ใจ" ของเรา พุ่งโฟกัสไปที่ "สิ่งสำคัญ" ต่างๆ ตลอดทั้งวัน
ในตอนตื่น เราควรฝึก "จูนใจให้ตรงกับเรื่องใหญ่ของชีวิต ไม่ใช่เรื่องเล็กของคนอื่น" เพราะอย่าลืมว่าวันไหนก็อาจเป็นวันสุดท้ายของเราหรือคนที่เรารักก็ได้ หากวันนี้ยังไม่เริ่ม "ตั้งค่าใจ" ให้ถูกต้อง เราอาจต้องมาเสียใจในภายหลังว่า ในแต่ละวัน เรามักไปให้ความสำคัญ กับเรื่องที่ "ไม่ค่อยสำคัญ"...
นอกจากนั้น การฝึก "มองใจ" ตอนตื่น จะทำให้เราได้ทบทวนชีวิต และคิดแก้ไขวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน ไม่ใช่เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์หรือสนใจเรื่องของคนอื่นที่อยู่ "ในจอ"
สุดท้าย เคยได้ยินคำกล่าวของ "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล" ไหมครับว่า...
"จิตที่ส่งออกนอก คือสมุทัย"
ไม่ต้องเสียใจหากอ่านแล้วงง...
เพราะเมื่อก่อนผมอ่านแล้วก็งงเหมือนกัน!! 55
แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว
ว่ากันว่าประโยคสั้นๆข้างบนนี้ คือ "สุดยอดแห่งประโยคสัจธรรม
ที่สามารถใช้ดับทุกข์และสร้างสุขได้ทุกสถานการณ์"
และมันสามารถใช้ได้ผลจริงๆครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง...
คำว่า "จิตที่ส่งออกนอก" ก็หมายถึงเวลาที่ใจเรา "ไม่อยู่กับปัจจุบัน" นั่นเอง
เราคิดหมกมุ่นไปกับเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ห่วงกังวลวนเวียนถึงอนาคตที่ยังไม่มาถึง และการกระทำนั้นแหละ คือ "สมุทัย" ซึ่งแปลว่า "ต้นเหตุแห่งทุกข์"
พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆก็คือ:
"ใจที่ไม่อยู่กับปัจจุบัน คือสาเหตุแห่งความทุกข์ทั้งมวล" นั่นเอง
แล้วถามว่าอะไรคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใจเราไม่ค่อย "อยู่กับปัจจุบัน"...?
หนึ่งในนั้นก็คือการ "มองจอ" มากไปนั่นเอง
การมองจอจะฝึกใจเราให้ "ส่งออกนอก" ไปที่เรื่องชาวบ้าน ไปที่รูปชาวบ้าน คิดปรุงแต่งฟุ้งฟ่องไปสารพัด แฟนเก่าเราไปเป็นกิ๊กกับใคร แฟนใหม่ส่งข้อความมาหรือยัง เพื่อนเรามีของเล่นใหม่น่าซื้อจัง มีผู้ก่อการร้ายระเบิดตึกพังไปแล้วแห่งที่ 50 ฯลฯ
ชีวิตในวันนั้นของคุณจึงทั้ง "ประสบความสำเร็จน้อย" และก็ยัง "มีความสงบสุขน้อย" อีกด้วย และความฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณ ก็หลุดจากสมองและตกหล่นหายไปข้างๆ เตียง ตอนที่คุณรีบหันไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา "มองจอ" นั่นเอง
"จอ" นั้นมีประโยชน์มหาศาล และผมก็รู้ว่าคุณกำลังอ่านข้อความนี้ใน "จอ" แต่มันไม่ควรจะเป็นสิ่งแรกที่คุณจ้องดูในตอนตื่นนอน เพราะผมพูดอยู่เสมอว่า "อารมณ์แรกของวัน คือ อารมณ์หลักของวัน"
ฉะนั้น ถ้าอยากให้วันทั้งวันของคุณเต็มไปด้วยความสงบ สติ และปัญญา คุณก็ควรจะเริ่มสร้าง "อารมณ์แรก" ที่เต็มไปด้วยความสงบ สติ และปัญญา ไม่ใช่อารมณ์แรกที่เต็มไปด้วยความคิดฟุ้งซ่าน การยุ่งเรื่องชาวบ้าน และการหมกมุ่นกับข่าวสารที่ดึงใจออกจากสิ่งสำคัญของชีวิต
เชื่อผมเถอะครับว่า ถ้าคุณเปลี่ยนกิจกรรมแรกของวัน จากการ "มองจอ" มาเป็นการ "มองใจ" ชีวิตของคุณจะ "เปลี่ยนไป" อย่างสิ้นเชิง
อ้อ! และผมได้บอกคุณหรือยังว่า เมื่อเช้านี้ ผมได้นั่งหลับตา "ตั้งค่า" ใจไว้ว่าจะเขียนบทความนี้ให้เสร็จ เพื่อนำมาโพสต์ให้กับทุกคนในตอนหัวค่ำ ซึ่ง ณ ตอนนี้ผมก็ได้ทำสำเร็จแล้ว และนี่แหละครับ คือหนึ่งในประโยชน์ของการ "มองใจ" ก่อน "มองจอ"...
ลองเริ่มทำพรุ่งนี้เลยนะครับ แล้วคุณจะพบกับความอัศจรรย์
ขอให้มีชีวิตที่สุขสงบ และทรงพลัง
.
โดย - ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร
วันนี้นอกจากผมจะมีความสุขมากๆ แล้ว ยังเป็นวันที่ผมทำงานได้เยอะมากๆ อีกด้วย ไม่ใช่เพราะได้ดื่มกระทิงแดง + แรงเยอร์ผสมงาดำ แต่แค่เพราะผมทำสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากวันอื่นๆ นั่นคือ...
ผมตื่นขึ้นมาแล้วลองนั่ง "มองใจ" ก่อนหันไป "มองจอ"
เช้านี้หลังจากตื่นนอน ผมลองหลับตา นั่งเงียบๆ แล้วให้เวลาตัวเองทบทวนชีวิตเมื่อวาน ตั้งเป้าหมายของวันใหม่ และวางแผนสิ่งสำคัญที่จะทำทั้งวันประมาณ 10 นาที (นี่คือการ "มองใจ") ก่อนที่จะเริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นและเลื่อนเช็คสิ่งต่างๆ ประมาณ 350 อย่าง (นี่คือการ "มองจอ")
ก่อนหน้านี้ทุกๆ เช้าหลังตื่นนอน ผมก็ทำกิจกรรมแรกเหมือนมนุษย์แห่งศตวรรษที่ 21 ทั่วไป คือตื่นมาปุ๊ปเช็คโทรศัพท์ปั๊ป แกว่งนิ้วโป้งฉับๆ หาโพสต์และรูปที่ถูกใจ แต่พบว่าจิตใจกลับแย่ลงทุกวัน ผมจึงลองตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตตอนเช้าดูใหม่ ผมลองทำแบบนี้มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว พบว่าได้ผลอันยอดเยี่ยมต่อความสุขและความสำเร็จในแต่ละวันอย่างน่าอัศจรรย์ จึงขอนำเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปัน...
เวลาเราตื่นมาแล้ว "มองจอ" เป็นอับดับแรก ข้อเสียคือมันจะเป็นการ "จูนใจ" ของตัวเองทั้งวัน ให้เป็นใจที่ชอบ "ยุ่งเรื่องชาวบ้าน" แถมเรื่องเหล่านั้นหลายครั้งก็เป็น "เรื่องเล็ก" "เรื่องร้าย" หรือ "เรื่องบ่นประปรายที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น"
เมื่อใจเราถูก "ตั้งค่า" ให้พุ่งความสนใจไปที่เรื่องคนอื่นแต่เช้า วันนั้นทั้งวันเราก็จะสนใจใน "เรื่องเล็กๆ ของคนอื่น" มากกว่า "เรื่องใหญ่ๆ ของตัวเอง" โดยไม่รู้ตัว และจำไว้เถอะครับว่า "คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน จะไม่ใช้เวลาในการยุ่งเรื่องของคนอื่น มากกว่าการพัฒนาชีวิตของตัวเอง" ฉะนั้นข่าวร้ายก็คือ การตื่นมา "มองจอ" ก่อน "มองใจ" จนเป็นนิสัย คือการฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ "เดินห่างไกลออกจากความสำเร็จที่แท้จริง" ไปเรื่อยๆ
ในทางตรงกันข้าม การที่เราหลับตานิ่งๆ สัก 10 นาที แล้ว "ตั้งค่า" ใจให้อยู่กับสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตเราจริงๆ และตอกย้ำเป้าหมายด้วยการจินตนาการภาพความสำเร็จให้เด่นชัด เช่น วันนี้จะต้องไปออกกำลังกายให้ได้ วันนี้จะกินมื้่อเช้าที่ดีต่อสุขภาพ วันนี้จะโกรธต่อเรื่องต่างๆ ให้น้อยลง วันนี้จะเป็นคนที่กล้าหาญกว่าเมื่อวาน วันนี้จะขยันทำงานสานฝันมากขึ้นอีก 2 ชั่วโมง หรือแม้แต่เป้าหมายง่ายๆ อย่าง วันนี้จะเริ่มจัดห้อง วันนี้จะโทรไปหาแม่ วันนี้จะกอดพ่อ วันนี้จะพูดกับครอบครัวด้วยความรัก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ "ใจ" ของเรา พุ่งโฟกัสไปที่ "สิ่งสำคัญ" ต่างๆ ตลอดทั้งวัน
ในตอนตื่น เราควรฝึก "จูนใจให้ตรงกับเรื่องใหญ่ของชีวิต ไม่ใช่เรื่องเล็กของคนอื่น" เพราะอย่าลืมว่าวันไหนก็อาจเป็นวันสุดท้ายของเราหรือคนที่เรารักก็ได้ หากวันนี้ยังไม่เริ่ม "ตั้งค่าใจ" ให้ถูกต้อง เราอาจต้องมาเสียใจในภายหลังว่า ในแต่ละวัน เรามักไปให้ความสำคัญ กับเรื่องที่ "ไม่ค่อยสำคัญ"...
นอกจากนั้น การฝึก "มองใจ" ตอนตื่น จะทำให้เราได้ทบทวนชีวิต และคิดแก้ไขวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน ไม่ใช่เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์หรือสนใจเรื่องของคนอื่นที่อยู่ "ในจอ"
สุดท้าย เคยได้ยินคำกล่าวของ "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล" ไหมครับว่า...
"จิตที่ส่งออกนอก คือสมุทัย"
ไม่ต้องเสียใจหากอ่านแล้วงง...
เพราะเมื่อก่อนผมอ่านแล้วก็งงเหมือนกัน!! 55
แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว
ว่ากันว่าประโยคสั้นๆข้างบนนี้ คือ "สุดยอดแห่งประโยคสัจธรรม
ที่สามารถใช้ดับทุกข์และสร้างสุขได้ทุกสถานการณ์"
และมันสามารถใช้ได้ผลจริงๆครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง...
คำว่า "จิตที่ส่งออกนอก" ก็หมายถึงเวลาที่ใจเรา "ไม่อยู่กับปัจจุบัน" นั่นเอง
เราคิดหมกมุ่นไปกับเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ห่วงกังวลวนเวียนถึงอนาคตที่ยังไม่มาถึง และการกระทำนั้นแหละ คือ "สมุทัย" ซึ่งแปลว่า "ต้นเหตุแห่งทุกข์"
พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆก็คือ:
"ใจที่ไม่อยู่กับปัจจุบัน คือสาเหตุแห่งความทุกข์ทั้งมวล" นั่นเอง
แล้วถามว่าอะไรคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใจเราไม่ค่อย "อยู่กับปัจจุบัน"...?
หนึ่งในนั้นก็คือการ "มองจอ" มากไปนั่นเอง
การมองจอจะฝึกใจเราให้ "ส่งออกนอก" ไปที่เรื่องชาวบ้าน ไปที่รูปชาวบ้าน คิดปรุงแต่งฟุ้งฟ่องไปสารพัด แฟนเก่าเราไปเป็นกิ๊กกับใคร แฟนใหม่ส่งข้อความมาหรือยัง เพื่อนเรามีของเล่นใหม่น่าซื้อจัง มีผู้ก่อการร้ายระเบิดตึกพังไปแล้วแห่งที่ 50 ฯลฯ
ชีวิตในวันนั้นของคุณจึงทั้ง "ประสบความสำเร็จน้อย" และก็ยัง "มีความสงบสุขน้อย" อีกด้วย และความฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณ ก็หลุดจากสมองและตกหล่นหายไปข้างๆ เตียง ตอนที่คุณรีบหันไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา "มองจอ" นั่นเอง
"จอ" นั้นมีประโยชน์มหาศาล และผมก็รู้ว่าคุณกำลังอ่านข้อความนี้ใน "จอ" แต่มันไม่ควรจะเป็นสิ่งแรกที่คุณจ้องดูในตอนตื่นนอน เพราะผมพูดอยู่เสมอว่า "อารมณ์แรกของวัน คือ อารมณ์หลักของวัน"
ฉะนั้น ถ้าอยากให้วันทั้งวันของคุณเต็มไปด้วยความสงบ สติ และปัญญา คุณก็ควรจะเริ่มสร้าง "อารมณ์แรก" ที่เต็มไปด้วยความสงบ สติ และปัญญา ไม่ใช่อารมณ์แรกที่เต็มไปด้วยความคิดฟุ้งซ่าน การยุ่งเรื่องชาวบ้าน และการหมกมุ่นกับข่าวสารที่ดึงใจออกจากสิ่งสำคัญของชีวิต
เชื่อผมเถอะครับว่า ถ้าคุณเปลี่ยนกิจกรรมแรกของวัน จากการ "มองจอ" มาเป็นการ "มองใจ" ชีวิตของคุณจะ "เปลี่ยนไป" อย่างสิ้นเชิง
อ้อ! และผมได้บอกคุณหรือยังว่า เมื่อเช้านี้ ผมได้นั่งหลับตา "ตั้งค่า" ใจไว้ว่าจะเขียนบทความนี้ให้เสร็จ เพื่อนำมาโพสต์ให้กับทุกคนในตอนหัวค่ำ ซึ่ง ณ ตอนนี้ผมก็ได้ทำสำเร็จแล้ว และนี่แหละครับ คือหนึ่งในประโยชน์ของการ "มองใจ" ก่อน "มองจอ"...
ลองเริ่มทำพรุ่งนี้เลยนะครับ แล้วคุณจะพบกับความอัศจรรย์
ขอให้มีชีวิตที่สุขสงบ และทรงพลัง
.