BLA มุ่งสร้างความแข็งแกร่งองค์กร เชื่อคนสำคัญที่สุด ต้องมีศรัทธา รับผิดชอบ และสะท้อนตัวตนขององค์กร เดินหน้าเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมชูธงซีเอสอาร์เข้มข้น 6 เรื่องหลัก
โชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (BLA) กล่าวถึงการบริหารจัดการองค์กรในภาพรวมให้มีความแข็งแกร่งว่า เรื่องบุคลากรขององค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เขามองว่าการทำงานอยู่กับองค์กรๆ หนึ่ง ต้องรู้สึกดีกับองค์กรนั้น และจะต้องสะท้อนความเป็นตัวตนขององค์กร ถ้ามาทำงานบริษัทประกันชีวิต อย่างแรกก็ต้องศรัทธาในบริษัทประกันชีวิตก่อน ต้องเชื่อว่ามีสิ่งที่มีประโยชน์ ถัดมาก็คือในความรับผิดชอบขององค์กร ไม่ว่าจะกับพนักงาน หรือกับลูกค้าคือผู้เอาประกัน หรือกับสังคมเองก็ตาม
การจะสะท้อนตัวตนได้นั้น ต้องเข้าใจความเป็นกรุงเทพประกันชีวิต คือประกันชีวิตเป็นการสร้างหลักประกัน เรื่องความเสียสละ คนทำประกันชีวิตทำให้กับคนอื่น ดังนั้น จิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีจิตใจที่ดี คือการมีเงินและหาเงินมา มันง่ายมากที่จะไปใช้เพื่อตัวเองหรือเพื่อความสุขในวันนี้ ในการที่จะทำกรมธรรม์ประกันชีวิตเพื่อให้คนที่เรารัก และเป็นหลักประกันเวลาเกิดอะไรกับเรา เพราะฉะนั้นต้องมีความคิดที่ดี ไม่ว่าตัวแทนหรือพนักงานบริษัทต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้เอาประกัน ต้องตระหนักว่านี่เป็นหลักประกันที่ลูกค้าผู้เอาประกันสร้างไว้ให้กับครอบครัวเขา ในการให้ข้อมูลต้องครบถ้วน เป็นความจริง และต้องดูแลไปตลอด
แม้ว่าเรื่องนี้เป็นรากฐานสำคัญอันหนึ่ง แต่ในการดำเนินธุรกิจก็จะมีมิติอื่นๆ ด้วยแน่นอน ทั้งเรื่องระบบงาน เรื่องความชำนาญในวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน หรือคณิตศาสตร์ประกันชีวิต หรือเรื่องการแพทย์ องค์กรก็ให้ความสำคัญ
อย่างไรก็ตาม มองว่าเรื่องบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญมาก และเชื่อว่าสามารถใช้เป็นจุดแข็งหรือว่าเป็นความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะช่วยให้พนักงาน ตัวแทน และคู่ค้ามีความตั้งใจทำงานและดูแลผลประโยชน์ขององค์กรมากขึ้น มีความจงรักภักดีอยากจะอยู่กับองค์กรนานขึ้น โดยมีตัวชี้วัดได้ เช่น อัตราการเข้า-ออกของพนักงานอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ขณะที่ หลายคนมีความรู้สึกที่ดีที่ได้ร่วมกิจกรรม ตัวแทนหลายคนบริจาคเงินเพื่อทำกิจกรรมกับบริษัท
ทั้งนี้ ในการสร้างความก้าวหน้าขององค์กรในระยะยาว บริษัทเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่ารากฐานคือต้องเริ่มจากภายในก่อน การที่มีบุคลากรที่ตั้งใจทำงาน มีการพัฒนาความรู้ความสามารถ และทำงานร่วมกันได้ จึงมาที่ตัวแทน และคู่ค้าเพื่อจะช่วยต่อยอดให้บริการประชาชน รวมถึง ความเชื่อถือจากประชาชนที่มีต่อบริษัท
เขาย้ำว่าจุดแข็งขององค์กรมีหลายด้าน โดยความน่าเชื่อถือขององค์กรเป็นเรื่องสำคัญเรื่องแรก เพราะลูกค้ามาใช้บริการจ่ายเงินก่อนรับบริการทีหลังปีข้างหน้าไม่รู้ จึงต้องมั่นใจว่าองค์กรมีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ จากนั้นคือเรื่องเครือข่าย ซึ่งการมีธนาคารกรุงเทพเป็นพันธมิตรช่วยให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างดี รวมทั้งการมีตัวแทนประกันชีวิตที่มุ่งมั่นในอาชีพ มีจรรยาบรรณ ที่เรียกว่าเป็น TNQA Thailand National Quality award คือคุณวุฒิเรื่องของตัวแทนดีเด่นแห่งชาติ อยู่อันดับ 3 จาก 24 บริษัท โดยวัดจากความยั่งยืนของกรมธรรม์ซึ่งสะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้า
สำหรับแนวทางการดำเนินการด้านซีเอสอาร์ของบริษัทฯ ว่า จะเน้น 6 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องวางแผนการเงินครอบครัว เรื่องสุขภาพ เรื่องการศึกษา เรื่องศิลปวัฒนธรรม เรื่องสิ่งแวดล้อม และเรื่องผู้สูงอายุ ตามที่บริษัทมองว่ามีความสำคัญเพราะเป็นรากฐานของสังคม
“งานซีเอสอาร์ของเราก่อนหน้านี้มีมานาน แต่ไม่ได้ถูกจัดหมวดหมู่แบบนี้ มาเริ่มเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา เพราะเราอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมกับเรื่องที่เราคิดว่าสำคัญและเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่ในนามองค์กร ซึ่งพนักงานก็ให้ความสำคัญและมีส่วนร่วมด้วยตั้งแต่นานมาแล้ว”
“เรามองว่าเรื่องของซีเอสอาร์เป็นส่วนหนึ่ง เวลาเราทำอะไรหรือเราจะมุ่งเน้นทำอะไรที่มันยั่งยืนเป็นการปูรากฐาน อย่างที่เราทำเรื่องของสิ่งแวดล้อม เราก็ร่วมกับมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ FEED เราพานักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศประมาณ 10 แห่งให้เข้าไปเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติในสถานที่ธรรมชาติจริง ๆ อย่างปีที่แล้วก็ไปที่อุ้งผาง ปีนี้ก็ไปที่อ่างฤาไน ให้เขาไปกับนักอนุรักษ์ และให้เขาเห็นว่า ธรรมชาตินี่ดีแค่ไหน แล้วให้เขาเห็นว่าเขามีส่วนที่จะดูแลธรรมชาติได้อย่างไร”
“แต่ก่อนที่มีโครงการที่เป็นรูปธรรมมาก่อนหน้านี้ มีกิจกรรมที่บริษัทให้การสนับสนุนในการไปสร้างฝาย หรือไปทำเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมมีพนักงานไปร่วมอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็เวลามีบริษัทพันธมิตรอย่างกรุงเทพประกันภัย หรือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เราก็ออกไปทำกิจกรรมลักษณะนี้คล้ายๆ กันก็จะมาในแนวการศึกษา แนวสิ่งแวดล้อมเรื่อยๆ ทุกปี”