นครพนม-สะเทือนใจชาวพุทธ พระธาตุโนนตาล พระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 121 ปี พังครืนทั้งองค์ ชาวบ้านท่าอุเทนสุดเศร้า เร่งประสานกรมศิลปากร เข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์ หวังฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรมและศูนย์รวมศรัทธา กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
วันนี้ (12 ต.ค. ) เกิดเหตุ “พระธาตุโนนตาล” โบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองท่าอุเทน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลโนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นพระธาตุเก่าแก่ อายุกว่า 121 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร เกิดเหตุล้มพังทลายลงมาทั้งองค์ สร้างความโศกเศร้ากับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งพระธาตุโนนตาล ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและที่พึ่งทางใจมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณที่เกิดเหตุ ณ วัดพระธาตุโนนตาล อำเภอท่าอุเทน ทันที โดยพบองค์พระธาตุโนนตาล ได้พังลงมากองกับพื้น เสียหายทั้งองค์
ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาร่วมดูเหตุการณ์ด้วยความโศกเศร้า หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตา ระบุว่า พระธาตุโนนตาลอยู่คู่หมู่บ้านมาหลายชั่วอายุคน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพและมากราบไหว้ขอพร ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของชุมชน
พระครูอุดมกิจพิพัฒน์ รองเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน และรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุโนนตาล กล่าวว่า พระธาตุองค์นี้เปรียบเสมือนหัวใจของวัดและของชุมชน การที่พระธาตุล้มลง สร้างความสะเทือนใจอย่างมากแก่พุทธศาสนิกชนทุกคน ยืนยันจะร่วมใจฟื้นฟูให้กลับมาสง่างามดังเดิม
เบื้องต้น จังหวัดนครพนมได้สั่งการให้ลงบันทึกประจำวัน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบทรัพย์สินของมีค่าภายในองค์พระธาตุโนนตาล พร้อมกับเร่งประสานไปยังกรมศิลปากร เพื่อให้เข้าดำเนินการ บูรณะปฏิสังขรณ์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้มรดกทางวัฒนธรรมและศูนย์รวมศรัทธาอันล้ำค่าแห่งนี้ กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
สำหรับประวัติ พระธาตุโนนตาล ศูนย์รวมศรัทธา 121 ปี องค์พระธาตุโนนตาล ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุ หมู่ 9 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถือเป็นพระธาตุเก่าแก่โบราณคู่บ้านคู่เมือง ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน
จุดเริ่มต้นของการค้นพบและก่อสร้าง เมื่อปี พ.ศ. 2420 ชาวบ้านที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่ ต.โนนตาล ประมาณปี 2420 ได้ค้นพบซากปรักหักพังของเจดีย์เก่าแก่ขนาดเล็กที่มีป่าไม้ล้อมรอบ โดยไม่ทราบที่มาว่าใครเป็นผู้สร้าง
พ.ศ. 2445 ตามหลักฐานที่กล่าวถึงประวัติการก่อสร้าง ระบุว่าเริ่มมีการบูรณะและก่อสร้างองค์พระธาตุเพิ่มเติมจากของเก่าให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากพลังศรัทธาของพระเกจิและชาวบ้าน แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ พ่อเฒ่าอั้งซึ่งเป็นผู้ริเริ่มได้หนีหายไป ทำให้ชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านธาตุ" ตั้งแต่นั้นมา
การบูรณะครั้งสำคัญ พ.ศ. 2480 - 2486: หลวงพ่อผง หลวงพ่อบน หลวงพ่อภู สามเณร ญาติโยม และชาวบ้านทั้งในบ้านธาตุและหมู่บ้านใกล้เคียง ได้พร้อมใจกันบูรณะก่อสร้างเจดีย์พระธาตุต่อ และสร้างพระอุโบสถเพิ่มเติมจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2486 องค์พระธาตุมีความสูง 36 เมตร ฐานองค์พระธาตุกว้างด้านละ 7 เมตร 50 เซนติเมตร ซึ่งเป็นรูปแบบที่ปรากฏมาจนถึงปัจจุบัน
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม เป็นเจดีย์ทรงมณฑป ยอดบัวเหลี่ยม คล้ายพระธาตุพนม ระยะก่อนที่จะบูรณะในปี 2483 ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและวัตถุโบราณไว้มากมาย ปีพ.ศ. 2536 มีพิธียกยอดฉัตรขึ้นสู่ยอดพระธาตุ เพื่อเปลี่ยนแทนยอดเดิมที่ผุพังเนื่องจากกาลเวลาสาเหตุการทรุดตัว องค์พระธาตุโนนตาลมีอายุถึง 121 ปี
สาเหตุของการพังทลายในครั้งนี้ คาดว่ามาจากสภาพเก่าแก่ตามกาลเวลา และเป็นโครงสร้างที่เป็นฐานแบบก่ออิฐถือปูนของช่างก่อสร้างในอดีต มีโอกาสทรุดตัวจนเกิดรอยร้าว แม้ว่าทางสำนักศิลปากรที่ 9 ได้จัดสรรงบประมาณมาซ่อมแซม และอยู่ระหว่างดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ล้มครืนลงมาก่อน