เชียงใหม่-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 นำแถลงผลงานศูนย์ปฏิบัติการ แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ออนไลน์ ช่วยอาจารย์สอนภาษาและนักศึกษาสาวเชียงใหม่ 2ราย รอดหวุดหวิดจากการตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกดูดเงิน โชคดีสามารถอายัดเงินคืนได้ ย้ำเตือนประชาชน "ของฟรีไม่มีในโลก"
วันนี้(6ต.ค.68) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ แถลงผลการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภ.5 (ศปอส.ภ.5) ที่สามารถช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ถึง 2 รายในพื้นที่เชียงใหม่
โดยรายแรกเป็น อาจารย์สอนภาษา ถูกหลอกลงทุนออนไลน์ผ่านเพจชาเขียวปลอม เริ่มจากลงทุนเพียง 500 บาท ได้ผลตอบแทนกลับมาจริง ทำให้หลงเชื่อเพิ่มเงินลงทุนเป็น 1.2 ล้านบาท ก่อนถูกชักชวนให้โอนเพิ่มอีก 3.6 ล้านบาท จึงเริ่มสงสัยและโทรสายด่วน 1441 ขอความช่วยเหลือทันที ตำรวจ พีซีที ภาค 5 ประสานธนาคารไทยพาณิชย์อายัดเงินไว้ได้ 900,000 บาท ก่อนถูกโยกย้ายออกจากระบบ เจ้าตัวเผยถือเป็นบทเรียนสำคัญ ย้ำ “ของฟรีไม่มีในโลก ความโลภทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย”
ส่วนอีกรายเป็น นักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยชื่อดังในเชียงใหม่ ถูกโทรหลอกโดยคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่ายมือถือและตำรวจ สภ.บ้านลาด กล่าวหาว่าเบอร์โทรเกี่ยวข้องคดีฟอกเงิน จึงให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนไป 2 ครั้ง รวม 500,000 บาท ขณะกำลังจะโอนเพิ่มอีก 300,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ที่ได้รับแจ้งจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรว่าเกิดธุรกรรมผิดปกติ ได้เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือได้ทันก่อนเสียหายเพิ่ม พร้อมอายัดเงินที่โอนไปแล้วไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ภาค 5 มีคดีหลอกลวงออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์กว่า 1 แสนคดี ขณะที่ทั่วประเทศมีมากกว่า 1 ล้านคดี แล้ว ยืนยันตำรวจและธนาคารทุกแห่งทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสกัดเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพให้ได้เร็วที่สุด พร้อมเน้นย้ำฝากเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันกลโกงทุกรูปแบบ เพราะมิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนวิธีหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา หากพบความผิดปกติ หรือสงสัยว่าถูกหลอกให้รีบโทร สายด่วน 1441 ทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยอายัดธุรกรรมก่อนความเสียหายจะขยายวงกว้าง
นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ชมห้องปฏิบัติการของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งภายในเต็มไปด้วยเอกสารคดีหลอกลวงออนไลน์กองสูงเต็มโต๊ะเจ้าหน้าที่ สะท้อนปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยุคดิจิทัล