เพชรบูรณ์ - ฝนยังตกหนัก น้ำป่าหลากท่วมแยกศรีเทพ ทล.21 ถนนสระบุรี-หล่มสัก เส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อภาคเหนือตอนล่าง-ภาคกลาง จนท.ต้องระดมกำลังนำเครื่องจักรทุบเกาะกลางเปิดทางระบายน้ำ จนเย็นระดับน้ำถึงทรงตัวและเริ่มลดลง แต่คืนนี้ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อ
วันนี้(7 ก.ย.68) น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ กระทบการสัญจรบนเส้นทางสายหลัก โดยเฉพาะบริเวณ สี่แยกไฟแดงศรีเทพ ถนนสระบุรี–หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21) ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญของพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง
แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 2 (บึงสามพัน) รายงานว่าเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่ ทำให้น้ำป่าไหลหลากจากพื้นที่สูง เข้าท่วมทางหลวงหมายเลข 2219 ช่วงตอนหนองมะค่า–ศรีเทพน้อย ระหว่างกม.70+500 ถึง กม.70+800 ระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 20 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กและรถเก๋งไม่สามารถผ่านได้ จำเป็นต้องให้ใช้เส้นทางเลี่ยงชั่วคราว ตั้งแต่ 04.00 น.เศษ
จากนั้น เวลา 16.00 น. มวลน้ำจำนวนมากได้ไหลต่อเนื่องเข้าท่วมสี่แยกไฟแดงศรีเทพ จุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 21 (ถนนสระบุรี–หล่มสัก) กับทางหลวงหมายเลข 2219 บริเวณ กม.101+000 ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นระยะ รถบางประเภท โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็ก เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวและท่วมผิวถนน
นายวิทยา รัตนมณี นายอำเภอศรีเทพ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์และสั่งการ ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยมอบหมายให้ นายสมชาย คำแพง หัวหน้าหมวดทางหลวงศรีเทพ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทุบเกาะกลางถนน เพื่อเปิดช่องระบายน้ำออกจากผิวจราจร ทำให้น้ำที่ท่วมขังสามารถไหลออกไปได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและ รถทุกชนิดสามารถสัญจรได้ แต่ยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีความเสี่ยงสูงในการล้มลื่น
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ พวงทรัพย์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ได้นำกำลังสมาชิก อาสารักษาดินแดน (อส.) บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเทพ, ตำรวจทางหลวงศรีเทพ, กำนันตำบลสระกรวด, รวมทั้งทีมกู้ชีพและกู้ภัยในพื้นที่ จัดตั้งจุดเฝ้าระวังและคอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้รถให้ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนซึ่งทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 2 (บึงสามพัน) ได้จัดตั้ง ทีมเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถขุด รถบรรทุก และเครื่องสูบน้ำ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการกรณีที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ผู้ใช้รถได้รับทราบเป็นระยะ
ทั้งนี้ พื้นที่ อำเภอศรีเทพ นับเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมประจำทุกปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำจากหลายตำบลโดยรอบ โดยเฉพาะช่วงที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง มวลน้ำจากพื้นที่สูงจะไหลรวมลงมาบริเวณสี่แยกไฟแดงศรีเทพ ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่าง ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ทำให้ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม จะส่งผลกระทบต่อการจราจรและเศรษฐกิจในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นนี้ หลังการดำเนินการเปิดทางระบายน้ำ ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนรองรับกรณีฝนตกซ้ำหรือมีมวลน้ำใหม่ไหลบ่าเข้ามาอีกระลอก เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที และลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด.