xs
xsm
sm
md
lg

ผ้าเหลืองเป็นเรื่องอีก! พระครูดังเชียงคำใช้ไม้ไผ่กระหน่ำฟาดเณรวัย 13 ช้ำทั้งตัว-เตะ/ถีบซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พะเยา - ญาติหอบหลักฐานแจ้งความพระครูดังเชียงคำ พะเยา เพิ่มเติม..หลังลงโทษสามเณรวัย 13 ปีสองรายช้ำทั้งตัว มีทั้งใช้ไม้ไผ่ฟาด-เตะ-ถีบ ต่อหน้าแม่ไม่พอ ยังกักบริเวณอีก 7 วัน ทำให้ไม่ได้รับการรักษาตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น จนเณรทนไม่ไหวสึกแล้ว 1 ย้ายวัดอีก 1


ญาติ 1 ใน 2 สามเณรอายุ 13 ปี ที่บวชอยู่วัดแห่งหนึ่งใน ต.บ้านหย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้นำหลักฐานถูกพระผู้ใหญ่ภายในวัดใช้กำลังทุบตีบริเวณศีรษะและร่างกายต่อหน้าแม่ หลังจากมีการสารภาพว่าทำผิดกฎระเบียบของวัด เข้าร้องทุกข์เพิ่มเติมต่อ ร.ต.อ.พสิษฐ์ เถาวัลยา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงคำ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา

โดยระบุว่าเหตุการณ์ทุบตีทำร้ายเณรดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และ 2 สิงหาคม 2568 พระผู้ใหญ่ในวัดได้ใช้ทั้งไม้ไผ่ ท่อน้ำพีวีซี และมือเปล่า-เท้า ตี เตะ และถีบ จนเณรได้รับบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย แม้จะมีอาการเจ็บปวดอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมในทันที

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 สามเณรถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงคำ แพทย์ตรวจพบกล้ามเนื้อแขนขวาอักเสบ และมีร่องรอยการถูกทำร้ายชัดเจน โดยไม่มีการสอบถามตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น อีกทั้งยังมีคำสั่งห้ามเณรออกจากที่พักเป็นเวลา 7 วัน ทั้งที่มีบาดแผล แต่ไม่ได้รับการพาไปพบแพทย์

ต่อมาครอบครัวได้ขอพบเณร แต่ถูกปฏิเสธและเข้าใจว่ามีการปกปิด จนกระทั่งต้องพาญาติผู้ใหญ่ไปเจรจาจึงสามารถพบเณรได้ และพบว่ามีบาดแผลชัดเจนบริเวณร่างกาย เมื่อย้ายเณรออกจากวัด กลับพบร่องรอยคราบเลือดบนที่นอนและหมอน สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ปกครอง

ครอบครัวจึงตัดสินใจพาเณรกลับมาพักที่บ้าน พร้อมทั้งหารือกับผู้ใหญ่ในตำบลเพื่อดำเนินการย้ายวัดอย่างเงียบๆ เนื่องจากยังเกรงใจ แต่ยืนยันว่า “การกระทำดังกล่าวเกินกว่าเหตุ” แม้เด็กจะทำผิดกฎวัดก็ควรมีการลงโทษตามลำดับขั้นตอน ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง ขณะที่เณรอีกรายทนไม่ไหวได้ลาสิกขาไป

ผู้ปกครองย้ำว่าตนไม่ได้ปกป้องเด็กจนเสียคน แต่ต้องการความชัดเจนและความยุติธรรม หากปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอาจสร้างบาดแผลทั้งร่างกายและจิตใจแก่เด็ก พร้อมฝากถึงสังคมว่าหากเป็นลูกหลานของใครต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้จะมีความรู้สึกอย่างไร

ด้าน ร.ต.อ.พสิษฐ์ เถาวัลยา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงคำ แจ้งว่า คดีดังกล่าวมีบันทึกตามรายงานประจำวัน รับแจ้งเป็นหลักฐาน ข้อ 3 เวลา 19.19 น. ลงวันที่ 10 ส.ค. 2568 กรณีสามเณรปกรณ์ ถูก พระครูกิตติชัยโชติ ทำร้ายร่างกาย และจากหลักฐานเพิ่มเติมที่ญาตินำแจ้งความร้องทุกข์ เพราะเชื่อว่ามีการกระทำความผิดอาญา

ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และรับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จิตใจของผู้อื่น” เพื่อทำการสอบสวนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น