อุดรธานี - ระทึก! หนุ่มใหญ่ชาวบ้านจั่น ออกหาเห็ดในป่าไม่ไกลจากหมู่บ้าน โชคร้ายพลาดพลัดตกบ่อน้ำท่อซีเมนต์ลึก 14 เมตร ร้องขอความช่วยเหลือระงม ก่อนกู้ภัยเร่งช่วย รอดหวุดหวิด
วันนี้ (24 ส.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานีรับแจ้งเหตุจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านจั่น ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ว่ามีคนพลัดตกลงไปในบ่อน้ำท่อซีเมนต์ที่กำลังก่อสร้าง มีความลึกกว่า 14 เมตร เหตุเกิดบริเวณหมู่ 6 บ้านวังปลาฝา ต.บ้านจั่น เจ้าหน้าที่จึงรีบจัดกำลังพร้อมอุปกรณ์เชือกและบันไดรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังยืนล้อมบ่อน้ำด้วยความแตกตื่น ทราบชื่อผู้ประสบเหตุคือ นายอ๊อด ทักษิณ อายุ 49 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุออกหาเห็ดในป่าข้างหมู่บ้าน แต่เผลอเดินพลาดตกลงไปในบ่อซีเมนต์ที่เจ้าของที่ดินขุดไว้เพื่อทำแหล่งเก็บน้ำใต้ดิน
ขณะพบตัวนายอ๊อดอยู่ในสภาพตกใจ อ่อนแรง หายใจถี่ เนื่องจากอากาศในบ่อน้อย และร้องขอความช่วยเหลือตลอดเวลา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เชือกโรยถังออกซิเจนลงไปให้ ก่อนโรยตัวลงไปประคองร่าง แล้วช่วยกันดึงขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงสำเร็จ ท่ามกลางเสียงปรบมือโล่งอกของชาวบ้านที่มุงดูอยู่ หลังช่วยขึ้นมาได้เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อตรวจอาการเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าปลอดภัยแล้ว
นายแดง อายุ 50 ปี เพื่อนของผู้ประสบเหตุ เล่าว่า จุดที่นายอ๊อดตกลงไปเป็นที่ดินเอกชนรกร้าง ติดกับป่าสาธารณะของชุมชน ช่วงนี้เป็นฤดูกาลเห็ดปลวกและเห็ดโคน ทำให้ชาวบ้านพากันออกมาหาเห็ดกันบ่อยๆ นายอ๊อดเองก็เป็นคนชอบหาเห็ดอยู่แล้ว พอว่างจากงานก็ออกมาหาเห็ดตามปกติ แต่พื้นที่ดังกล่าวมีต้นไม้รกทึบ ทำให้ยากต่อการมองเห็นหลุมบ่อ จึงเป็นสาเหตุให้พลัดตกลงไป
ด้าน นางสาวภคนันท์ ทักษิณ อายุ 48 ปี น้องสาวของผู้ประสบเหตุ เล่าว่า “ช่วงนี้เห็ดออกเยอะ พี่ชายเลยออกมาหาเห็ดตามพื้นที่ป่าสาธารณะของชุมชน เท่าที่ทราบพี่ชายออกมาตั้งแต่เช้า แต่ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ พี่ชายทำงานรับจ้างทั่วไป เป็นคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง และมักออกหาเห็ดประจำในช่วงฤดูเห็ด เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พี่ชายตกลงไปในบ่อรกร้างเช่นนี้ โชคดีที่ปลอดภัยไม่บาดเจ็บรุนแรง”
ขณะที่ นางวนิดา บุญกว้าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุครั้งนี้หมู่บ้านจะรีบดำเนินการนำฝามาปิดบริเวณปากบ่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายซ้ำอีก เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินเอกชนที่ถูกปล่อยรกร้าง ไม่มีการดูแล และอยู่ติดกับป่าสาธารณะของชุมชน “เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่คนออกมาหาเห็ดกันมาก หากไม่รีบแก้ไข เกรงว่าจะมีคนพลัดตกลงไปอีก” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว พร้อมย้ำว่าจะประสานกับเจ้าของที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการดูแลพื้นที่รกร้างใกล้ป่าสาธารณะให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในอนาคต