ศรีสะเกษ- รื้อถอนแล้ว ร้านเซเว่นฯ ปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ หลังครบ 30 วัน จรวด BM- 21 ทหารเขมรยิงถล่ม ดับ 7 ศพ คาดรื้อถอนและสร้างใหม่กว่า 3-4 เดือน เจ้าของวอนรัฐมีคำตอบช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบอย่างชัดเจนไม่ใช่เงียบหายเช่นนี้ โอดแบกรับภาระหนัก ยันปั๊มสูญรวมกว่า 25 ล้าน ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐเลย
วันนี้ ( 22 ส.ค.68) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านผือ ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 13 อุบลราชธานี ได้นำเครื่องจักรกล ประกอบด้วย รถแบคโฮ จำนวน 1 คัน และ รถบรรทุกจำนวน 1 คัน เพื่อดำเนินการรื้อถอนร้านเซเว่นฯ ภายในปั๊ม ปตท. ซึ่งถูกจรวด BM-21 ฝ่ายกัมพูชา ยิงตกใส่เกิดระเบิดไฟลุกท่วมเสียหายทั้งหมดและ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำรวน 7 ราย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.67 ที่ผ่านมา
โดยในวันนี้มีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสนับสนุนการรื้อถอน ทั้ง ทหารพราน จาก กรมทหารพรานที่ 23 จำนวน 30 นาย เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ตลอดจนจิตอาสาในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่วางแผนจะใช้เครื่องตัดเหล็กตัดเหล็กโครงหลังคาออกเป็นส่วน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับโครงสร้าง และห้องแถวอื่นๆ ก่อนขนย้ายเอาชั้นเหล็ก และ ส่วนอื่นๆที่อยู่ภายในร้านสะดวกซื้อออกไปทิ้งที่วัดป่าไม้พัฒนา ตำบลหนองหญ้าลาด อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ซึ่ง ได้ขออนุญาตทางวัดไว้แล้ว
ก่อนเริ่มการรื้อถอน เวลา 08.00 น. นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท. ได้จุดธูปและนำพวงมาลัยมาไหว้เจ้าที่ บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งจุดธูปเพื่อบอกกล่าวดวงวิญญาณทั้ง 7 ราย ที่เสียชีวิตในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้
นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ กล่าวว่า วันนี้ครบ 30 วันแล้ว หลังจากที่เกิดเหตุจรวดลงเซเว่นฯ ปตท. บ้านผือ ก่อนการรื้อถอน ตนได้นำดอกไม้ หมากพลู ยาสูบ ธูป และเทียน มาบอกกล่าวเจ้าที่ รวมถึงบอกกล่าวดวงวิญญาณทั้ง 7 คนที่เสียชีวิตในร้านเซเว่นฯ ขอให้การรื้อถอนลุล่วงไปด้วยดี วันนี้มีหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยรื้อถอนคือ ปภ. และทหาร ซึ่งตนต้องรีบตัดสินใจรื้อถอนร้านเซเว่นฯ เพราะความปลอดภัย เนื่องจากโครงสร้างที่โดนแรงระเบิดบางส่วนถล่มลงแล้ว และส่วนที่กำลังจะถล่มก็เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงต้องรีบดำเนินการรื้อถอน
ในส่วนของธุรกิจที่ต้องดำเนินการต่อ ตนจึงต้องรีบรื้อถอนและเตรียมสร้างใหม่ โดยในวันนี้จะเริ่มรื้อถอนบางส่วนก่อน ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาในการดำเนินงานหลายเดือน พนักงานที่ทำงานในเซเว่นฯ ก็ต้องหยุดงาน ตนจึงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายรายเดือนเอง เฉลี่ยวันละ 50,000 บาท หากต้องใช้เวลาในการดำเนินงานถึง 4 เดือน ตนก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทั้งหมด
ส่วนของประกันภัย ทั้ง CP และกรุงเทพประกันภัย ยังตกลงกันไม่ได้ ขณะที่ ปตท. และทิพยประกันภัยก็ช่วยเหลือได้ไม่เต็ม 100% เราจึงต้องรอต่อไป ที่สำคัญคือภาครัฐยังไม่ได้ให้คำตอบหรือแนวทางใด ๆ ว่าจะช่วยเหลือในส่วนไหน ซึ่งไม่ใช่เพียงตน แต่รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ภาครัฐควรให้ความชัดเจนบ้าง ไม่ใช่เงียบหายไปเช่นนี้
สำหรับประเด็นที่มีข่าวว่าปั๊มน้ำมันได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ 25 ล้านนั้น ไม่เป็นความจริง อาจเป็นเพียงความเข้าใจผิดจากวันที่คุณพ่อไปชี้แจงที่ประชุม อบต. โดยกล่าวว่าในส่วนของปั๊มน้ำมันมีความเสียหาย 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพียงการประเมินค่าเสียหายรวมทั้งหมด ทั้งสิ่งของและเงินสดที่ถูกไฟไหม้ไป ยืนยันว่าภาครัฐยังไม่ได้ช่วยเหลือใด ๆ เลยในตอนนี้
ในส่วนของการเปิดให้บริการปั๊มน้ำมัน หากปรับปรุงแล้วเสร็จก็น่าจะเปิดได้ภายในอาทิตย์หน้า แต่ต้องรอการประเมินจากหน่วยงานด้านพลังงานก่อน ส่วนร้านเซเว่นฯ คาดว่าการรื้อถอนและสร้างใหม่จะใช้เวลา 3 เดือน แต่หากภาครัฐไม่ช่วยเหลือเลย อาจยืดเยื้อถึง 4 เดือน ซึ่งตนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงานเอง เพราะทุกคนต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ สำหรับผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่ในปั๊มน้ำมัน จำนวน 7 ร้าน ตนยังไม่ได้เก็บค่าเช่า เพราะเข้าใจว่าแต่ละร้านก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด และเช่นเดียวกัน ภาครัฐยังไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการเหล่านี้
“อยากฝากถึงภาครัฐว่า ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งด้านจิตใจและค่าใช้จ่ายประจำวัน ไม่ใช่ปล่อยให้เงียบเช่นนี้ ทุกคนในพื้นที่ชายแดนอยู่กันอย่างหวาดผวา ได้ยินเสียงฟ้าร้องก็คิดว่าเป็นเสียงระเบิด ใช้ชีวิตไม่ปกติและนอนไม่หลับ จึงอยากให้ภาครัฐเห็นใจและออกมาให้ความชัดเจนกับประชาชนมากกว่านี้” นางกมลรัตน์ กล่าวในตอนท้าย
“อยากฝากถึงภาครัฐว่า ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งด้านจิตใจและค่าใช้จ่ายประจำวัน ไม่ใช่ปล่อยให้เงียบเช่นนี้ ทุกคนในพื้นที่ชายแดนอยู่กันอย่างหวาดผวา ได้ยินเสียงฟ้าร้องก็คิดว่าเป็นเสียงระเบิด ใช้ชีวิตไม่ปกติและนอนไม่หลับ จึงอยากให้ภาครัฐเห็นใจและออกมาให้ความชัดเจนกับประชาชนมากกว่านี้” นางกมลรัตน์ กล่าวในตอนท้าย