ศูนย์ข่าวขอนแก่น-วิทยาลัยการบินฯ ม.ศรีปทุมวิทยาเขตขอนแก่น จับมือกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด-บ.สินไซโมเดล จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคมจัดเวิร์กชอปเข้ม การออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีตัวแทนจาก4ชุมชนใหญ่ของเทศบาลนครขอนแก่นกว่า 70 คนเข้าร่วมเรียนรู้นำไปวางแผนต่อยอดการจัดการท่องเที่ยวชุมชนของตนเองในอนาคต
ระหว่างวันที่ 20-22 สิงหาคมนี้ วิทยาลัยการบินการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุมวิทยาเขตขอนแก่น ร่วมมือกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น บริษัทสินไซโมเดล จำกัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) และบริษัทท็อปทีมโปรโมชั่นวิสาหกิจเพื่อสังคม เชิญชาวชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นจำนวน 4 ชุมชนพร้อมกับชุมชนในพื้นที่ตำบลบ้านทุ่มอีก 1 ชุมชน ร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในประเด็นออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
โดยมีอาจารย์วนิดา อ่อนละมัย ผู้ช่วยหัวหน้าวิทยาลัยการบินการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น เป็นหัวหน้าโครงการและมีนายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานเปิดงาน โดยมีชุมชนมาร่วมอบรมกว่า 70 คน จากชุมชนโนนชัย โนนทัน หนองใหญ่ และสีฐาน เทศบาลนครขอนแก่น และชุมชนบ้านแดงน้อย ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ตั้งแต่ตนมาทำงานที่จังหวัดขอนแก่นยังไม่เห็นชุมชนท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เลย ทั้งที่เมืองขอนแก่นเป็นเมือง MICE CITY หรือเมืองแห่งการประชุมสัมมนา แต่กลับยังไม่เห็นชุมชนที่จะรองรับการท่องเที่ยวในกลุ่มประชุมสัมมนาเลย มีเพียงชุมชนสาวะถีที่อยู่ในเขตตำบลสาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่นที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่ม MICE ได้ การมาวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะมีกระบวนการออกแบบการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่จะให้ชุมชนมีส่วนในการนำเสนออัตลักษณ์ของชุมชนตัวเองมานำเสนอและจัดอันดับความสำคัญพร้อมกับออกแบบการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือกลุ่มประชุมสัมมนาศึกษาดูงานได้อย่างมีอรรถรสพร้อมกับดึงดูดประสบการณ์ใหม่ของชุมชนให้ผู้มาพักได้รู้จัก
การออกแบบท่องเที่ยวชุมชนไม่ต้องนำเสนอการขายอะไรมากมาย เน้นเพียงว่ากลุ่ม MICE มาประชุมสัมมนาและไปเที่ยวชุมชนได้แค่ครึ่งวัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องนำเสนอหลายจุดเน้นแค่เสนอขายจุดน่าสนใจ 1-2 จุด จากนั้นออกแบบเรื่องการได้ลองลงมือทำ ลองสัมผัสจริง เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ความคิดความรู้ข้อมูลที่มีของชุมชนย่อลงให้กระชับที่สุด ไม่เน้นปริมาณ และต้องช่วยกันผลักดันให้ขายให้ได้ ให้ติดตลาด การถ่ายภาพจุดเช็คอินต้องมี
“ที่สำคัญต้องดึงคนรุ่นใหม่ในชุมชนมาร่วมบอกเล่าด้วย เพื่อส่งต่อและสืบสาน จากนั้นหาสินค้าที่น่าสนใจมาวางขาย เพื่อให้เกิดรายได้ควบคู่กับการทำท่องเที่ยวด้วย มีสินค้าแล้วต้องมีแพ็คเก็จที่ดี สวยงาม ออกแบบดี ๆ สินค้าก็ต้องมีคุณภาพด้วย ตอนนี้ขอนแก่นยังไม่ติดตลาดเรื่องท่องเที่ยวชุมชนเราต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้น”นายคงกริช กล่าว
ด้านนางสุมาลี สุวรรณกร ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสินไซโมเดล จำกัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ที่ได้ออกแบบการท่องเที่ยวชุมชนสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น จนเป็นที่รู้จักและรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ โดยดึงอัตลักษณ์ของชุมชนคือจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสังข์ศิลป์ชัยไปเป็นผลิตภัณฑ์และเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน กล่าวถึงการค้นหาอัตลักษณ์ของชุมชนเพื่อนำมาเป็นจุดขายในการท่องเที่ยวว่า ชุมชนในเทศบาลนครชอนแก่น ส่วนใหญ่เป็นชุมชนเมือง และจุดเด่นที่มีแตกต่างกัน คือสภาพพื้นที่และเรื่องเล่า ประวัติความเป็นมา รวมถึงสถานที่สำคัญในชุมชนที่คนในชุมชนมีและภาคภูมิใจ
“การนำเอาอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชนมาขาย คือสิ่งที่คนในชุมชนต้องร่วมกันสืบค้นให้เจอหาให้เจอ บางทีของดีอยู่ใกล้ตัวเรามากเกินไปอาจมองไม่เห็น ต้องช่วยกันสืบค้นดู เมื่อเจอแล้วก็เขียนเป็นเรื่องราวเอามาเล่าให้คนอื่นรู้และพานักท่องเที่ยวไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชุมชนของตนเอง”นางสุมาลีกล่าวและระบุอีกว่า
ทั้งเรื่องอาหาร สินค้า ของดี ของฝาก โดยแต่ละชุมชนต้องหาจุดเด่น ทั้งเป็นชุมชนแบบไหน เน้นสายมูไหม มาโนนทันต้องไหว้พระ ไปหนองใหญ่ต้องไปไหว้ศาลเจ้าปู่ญาครูเย็น ไปชุมชนโนนชัยต้องไปเรียนรู้เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมและขยะ ซึ่งแต่ละชุมชนจะเด่นคนละด้าน เราต้องหาให้เจอและหานักท่องเที่ยวศึกษาดูงานในกลุ่มของตัวเองให้เจอ
“ที่สำคัญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรู้จักเอาชุมชนตัวเองมาขาย พานักท่องเที่ยวที่มาศึกษาดูงานไปเที่ยวชุมชน เปิดโอกาสให้ชุมชนได้ร่วมต้อนรับและเรียนรู้ด้วย เม็ดเงินจะได้ลงชุมชน อย่าให้ผู้มาศึกษาดูงานอยู่แต่ในห้องประชุม หรือต้อนรับกันเฉพาะในโรงแรมที่จัดงาน มันขาดเสน่ห์ของการเป็นเมืองน่าอยู่”นางสุมาลีกล่าวย้ำ
ขณะที่นางสาววนิดา อ่อนละมัย ผู้ช่วยหัวหน้าวิทยาลัยการบิน การท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อต้องการให้นักศึกษาของวิทยาลัย ได้ร่วมทำงานกับชุมชนที่คัดสรรมา ในการออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชนเรียนรู้ตลอดชีวติเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะมีการจัดอบรมเป็นเวลา 4 วัน โดยวันที่ 20-22 สิงหาคม เป็นการค้นหาอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชนแล้วมาออกแบบการท่องเที่ยวเน้นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว
โดยมีตัวแทนชุมชนที่คัดสรรมาร่วมทำงานกับนักศึกษาของวิทยาลัย หลังจากนั้นวันที่ 30 สิงหาคม จะมีการฝึกปฏิบัติจริงโดยการไปที่ชุมชนท่องเที่ยวสาวะถี เพื่อดูรูปแบบการบริการและฝึกปฏิบัติในสถานที่จริงด้วย.