น่าน - ตามพิสูจน์ให้เห็นกับตา..ทัวร์เส้นทางแห่งอัตลักษณ์ “น่าน-หลวงพระบาง” soft Power ที่ยั่งยืน จากวัดภูมินทร์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน-วิถีไทลื้อท่าวังผา-เส้นทางเครื่องเงินสุดวิจิตร ก่อนข้ามแดนสัมผัสอาหาร/ผ้าทอ เอกลักษณ์ลาว-กลุ่มชาติพันธุ์
ยุคที่การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่คือการเรียนรู้ ซึมซับ และส่งต่อพลังสร้างสรรค์จากผู้คนและวัฒนธรรมในท้องถิ่น หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญอย่าง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เดินหน้ายกระดับการท่องเที่ยวโดยใช้พลัง Soft Power ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดน่าน ประเทศไทย และหลวงพระบาง สปป.ลาว โดยนำทุนวัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ พร้อมเชื่อมโยงตลาดคุณภาพสูง และสามารถพัฒนาไปจนถึงระดับนานาชาติได้
ในปีงบประมาณ 2568 อพท. ได้ริเริ่ม โครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว Soft Power เชื่อมโยงจังหวัดน่านของไทย กับหลวงพระบางของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งไม่ใช่แค่การข้ามแดนทางภูมิศาสตร์ แต่คือการเดินทางข้ามแดนวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น ให้สามารถต่อยอดทุนวัฒนธรรมเป็นพลังเชิงเศรษฐกิจที่แข่งขันได้ในระดับโลก การยกระดับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ให้มีความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคและสากล สร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ที่มาจากอัตลักษณ์แท้ ๆ ของพื้นที่
กิจกรรมประกอบด้วยการประชุมระดมความคิดเห็น การสำรวจเส้นทาง
และที่สำคัญคือ การทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยว ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16–19 กรกฎาคม 2568 โดยมีกลุ่มเป้าหมายทั้งผู้ประกอบการภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ร้านอาหาร และชมรมมัคคุเทศก์จังหวัดน่าน เป้าหมายสำคัญคือการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์จังหวัดน่านกับเมืองหลวงพระบางที่เป็นแหล่งมรดกโลกของ สปป.ลาว
เริ่มต้นเส้นทางจากเมืองเก่าน่าน เยี่ยมชมวัดภูมินทร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน และสัมผัสอาหารพื้นถิ่นไทลื้อ ชุมชนบ้านหนองบัว อำเภอท่าวังผา การทำดอกไม้ปันโดง (ดอกไม้พันดวง) ของชุมชนไทลื้อ บ้านร้องแง ที่ผูกพันกับคติความเชื่อทางพุทธศาสนา และเส้นทางเครื่องเงินที่ดอยซิลเวอร์ แฟคทอรี่ อำเภอปัว จากนั้นได้ข้ามแดน ณ จุดผ่านแดนสากลห้วยโก๋น-น้ำเงิน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางไปยังเมืองเงิน เมืองหงสา เมืองไชยบุรีได้ จากนั้นได้เดินทางจากเมืองหงสาไปยังบ้านเชียงแมน เมืองจอมเพชร แขวงหลวงพระบาง
การทดสอบเส้นทางในหลวงพระบาง เริ่มที่เยี่ยมชมวัดเชียงแมนอันทรงคุณค่าที่มีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์กับประเทศไทย ซึ่งมัคคุเทศก์ชาวลาว เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวสะท้อนความผูกพันของชาวลาวและไทยได้อย่างน่าประทับใจ
คณะผู้เข้าร่วมการทดสอบเส้นทางยังได้ร่วมหารือกับหัวหน้าแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว แขวงหลวงพระบาง เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว Soft Power เชื่อมโยงน่าน – หลวงพระบาง
นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชม ตลาดเช้า และการตักบาตรข้าวเหนียว และตลาดมืด หรือถนนคนเดินของลาว เยี่ยมศูนย์ศิลปะและชาติพันธุ์วรรณนา ซึ่งมีการจัดแสดงเครื่องแต่งกาย เครื่องมือเครื่องใช้ และงานหัตถกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในลาว กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอาหาร ณ ครัวหม้อดินหลวงพระบาง ที่ชุมชนบ้านหนองซ่าย และเยี่ยมชม Ock Pop Tok (ออกพบตก) สถานที่ทรงคุณค่าที่ให้ความรู้ในเรื่องของสิ่งทอ และผ้าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของลาว
หลังจากการทดสอบเส้นทางแล้ว ได้มีการประชุมหารือรวบรวมและสรุปความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาเส้นทาง โดยพบว่า จังหวัดน่าน และหลวงพระบาง มีความเหมือนและใกล้เคียงกันมาก ทั้งด้านวิถีชีวิต ภาษา วัฒนธรรม และอัตลักษณ์พื้นถิ่น
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ วัฒนธรรมด้านอาหารและงานหัตถกรรม ซึ่งความเชื่อมโยงของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของทั้งสองเมืองนี้ ถือเป็นโอกาสที่จะพัฒนาให้เป็นเส้นทางแห่งอัตลักษณ์ และสนับสนุนการสร้าง Soft Power ของชาติ ให้กลายเป็นพลังสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน