xs
xsm
sm
md
lg

แฉให้สุดก่อนตาย!ครูบำนาญฟื้นจากป่วยเนื้องอกในสมอง ตามร้อง ปปท.เปิดโปงทุจริตโรงเรียนดังเชียงราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ขอแฉให้สุดก่อนตาย..ครูบำนาญป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ขึ้นป้ายเปิดโปงทุจริตโรงเรียนดังเชียงราย ไม่พอ หอบข้อมูลร้อง ปปท.เขต 5 เปิดโปงพฤติกรรมอดีต ผอ.ทั้งจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส สวมรายชื่อนักเรียน/นักกีฬาเบิกงบ งุบเงินทุจริตสารพัด



วันนี้(15 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวความคืบหน้า กรณีนายบุญธัน ธรรมปัญญา อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการครู เกษียณอายุราชการชาวจังหวัดเชียงราย ที่เคยขึ้นป้ายไวนิลหราหน้าบ้าน ระบุข้อความว่า.. "พร้อม!! แฉก่อนตาย อดีต ผอ.ดัง ทุจริตวินาศสันตะโร มันเป็นความวิบัติที่สุดในองค์กรบุคลากรทางการศึกษาไทยที่รวมหัวกันปล้นเงินแผ่นดินอย่างมหาศาล"

ล่าสุดได้นำป้ายไวนิลดังกล่าว มาชูที่หน้าอาคาร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 5 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ก่อนจะนำหลักฐานเอกสาร ซึ่งระบุว่าเป็นข้อมูลการทุจริต ของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังแห่ง ในจังหวัดเชียงราย

นายบุญธัน เล่าว่า ตนเป็นอดีตข้าราชการครู เกษียณอายุราชการมาได้ 2 ปี ก่อนหน้านี้เคยป่วยหนักด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ขณะป่วยอยู่ก็รู้สึกว่ามีเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ในใจ คิดว่าจะต้องออกมาเปิดโปงให้สังคมได้รับรู้ถึงพฤติกรรมการทุจริตของอดีต ผอ.โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะตายวันตายพรุ่ง

เมื่อรักษาตัวจนอาการดีขึ้นตนจึงรวบรวมหลักฐานขึ้นเครื่องบินไป กทม. เพื่อร้องเรียนทั้ง ปปช. ปปท. และ รมว.มหาดไทย จนถึงตอนนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวก็ได้ลาออกจากโรงเรียนไปแล้ว แต่เรื่องร้องเรียนยังไม่ไปถึงไหน จึงได้เดินทางจากจังหวัดเชียงราย เพื่อมาสอบถามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 5

นายบุญธัน อดีตครู กล่าวอีกว่า เมื่อครั้งที่ ผอ.คนดังกล่าวยังอยู่ในตำแหน่ง ได้ให้คนสนิทไปเปิดร้านจดทะเบียนธุรกิจการค้า เพื่อนำมาทำสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์กับทางโรงเรียน ซึ่งตนได้ไปหาร้านดังกล่าวตามที่อยู่ที่ระบุในเอกสาร พบว่าร้านที่ถูกนำที่อยู่มาอ้างว่าเป็นร้ายจำหน่ายครุภัณฑ์ ในความเป็นจริงคือร้านซ่อมรถที่เปิดดำเนินการมากว่า 10 ปี

โดยตนได้สอบถามกับทางผู้ใหญ่บ้านซึ่งก็ได้ยืนยันกับตนว่าไม่เคยมีร้านจำหน่ายครุภัณฑ์ในพื้นที่แต่อย่างใด และร้านค้าที่ยื่นเสนอราคากับโรงเรียนซึ่งมีทั้งหมด 3 ร้าน ต่างก็ใช้เบอร์ติดต่อเบอร์เดียวกันทั้งหมดอีกด้วยซึ่งบุคคลที่ระบุว่าเป็นเจ้าของร้านเป็นแฟน เพื่อนและพ่อของครูคนหนึ่งในโรงเรียนที่มีความสนิทสนมกับ ผอ.โรงเรียน


นอกจากนี้ยังมีการทุจริตอีกอย่างก็คือในโรงเรียนมีนักเรียนผี ซึ่งก็คือนักเรียนที่มีแค่ชื่อ แต่ตัวนักเรียนไม่ได้เรียนอยู่ในสถานศึกษาดังกล่าว โดยรายชื่อนักเรียนเหล่านี้ได้มาจากตอนที่นักเรียนมาสมัครเรียน ทางโรงเรียนก็ได้เก็บหลักฐานการสมัครเรียนของคนที่มายื่นเรียนเอาไว้ แต่ในเวลาต่อมามีนักเรียนบางส่วนที่เลือกไปเรียนโรงเรียนอื่น แต่ทางโรงเรียนยังคงเอารายชื่อนักเรียนที่ไม่มีอยู่จริงเหล่านี้ไปตั้งเบิกงบประมาณรายหัวต่อเนื่องมาหลายปี นับว่ามีความผิดตั้งแต่ตัว ผอ. และบุคลากรที่รู้เห็นร่วมกัน

จนกระทั่งปี 2564 ที่มีวิกฤตโควิด-19 ซึ่งตอนนั้นทางรัฐบาลจะมีงบช่วยเหลือมาให้ โดยจะจ่ายหัวละ 2,000 บาท ซึ่งต้องนำเอาเลขประจำตัวประชาชนไปคีย์เข้าระบบ ปรากฏว่ามีรายชื่อนักเรียนผีเกินมากว่า 173 คน การแก้ปัญหาของทางโรงเรียนก็คือการจำหน่ายชื่อนักเรียนออกจากระบบของทางโรงเรียน

ซึ่งในความเป็นจริงการจำหน่ายชื่อนักเรียนจะต้องทำทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน เช่น นักเรียนลาออก ถูกไล่ออก เสียชีวิต ย้ายโรงเรียน เป็นต้น แต่ในปี 2564 มีการจำหน่ายรายชื่อนักเรียนออกจากระบบภายในวันเดียว 173 คน ซึ่งถือเป็นความผิดปกติส่อไปในทางทุจริต แล้วการตั้งเบิกที่ผ่านก็ต้องถือว่าผิดไปด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าแต่ละปีจะมีงบประมาณที่ได้เกินจากรายชื่อนักเรียนผีเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน

นายบุญธัน กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงก่อนปิดงบประมาณปีที่ผ่านมา มีงบประมาณเหลือ แต่ทางโรงเรียนไม่อยากส่งคืนคลัง จึงออกเช็คสั่งจ่ายให้ครูในโรงเรียนรวม 24 คน ในวันที่ 28 กันยายน โดยให้ครูนำเช็คไปขึ้นเงินและนำเงินสดมาคืนให้กับการเงินโรงเรียน ซึ่งเงินที่นำมาคืนนั้นจะถูกนำไปใช้อย่างไรต่อนั้นตนก็ไม่รู้ แต่ตนมองว่าการทำแบบนั้นมันไม่ถูก เพราะงบประมาณเหล่านี้เป็นเงินภาษีของประชาชน โดยเฉพาะชาวเชียงราย ซึ่งการทุจริตดังกล่าวเป็นเรื่องที่ตนทนไม่ได้ ตนจึงต้องร้องเรียนขอความเป็นธรรมดังกล่าวก่อนตัวเองจะตาย

นายบุญธัน ยังเผยอีกว่านอกจากการทุจริตตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ทั้งกรณีที่ครูประจำชั้นยักยอกเงินออมทรัพย์สหกรณ์นักเรียน รายชื่อนักกีฬาในโรงเรียนที่ไม่มีตัวตนหรือนักกีฬาผี ซึ่งตามรายชื่อมีนักกีฬาทั้งหมด 200 คน แต่ในความเป็นจริงมีนักกีฬาเพียง 125 คน ทำให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเกินไป 75 คน

นอกจากนี้ยังมีกรณีการจัดตั้งร้านค้าและการก่อสร้างร้านค้าในโรงเรียนโดยไม่ได้ขออนุญาตจากต้นสังกัดซึ่งมีการโอนค่าหุ้นร้านค้าแห่งนี้เข้าบัญชีของผู้อำนวยการฯ เป็นต้น

ซึ่งหลังจากตนได้ไปร้องเรียนและมีหน่วยงานต่างๆได้เข้าไปตรวจสอบ ทำให้ขณะนี้มีครู ที่ร่วมทุจริตหลายคนในโรงเรียนต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาคืน บางส่วนก็ทำเรื่องย้ายไปทำงานที่อื่นและลาออก แต่ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว หากมีหน่วยงานไหนที่ต้องการข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมก็ยินดีจะให้ข้อมูลการทุจริตเรื่องดังกล่าว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 5 ถึงความคืบหน้ากรณีที่นายบุญธัน ได้ร้องเรียน ผอ.โรงเรียนแห่งนี้ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานซึ่งกำลังอยู่ในชั้นไต่สวนของเจ้าหน้าที่และจะมีการลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานอื่นเร็วๆนี้ ก่อนที่จะมีการสรุปข้อเท็จจริงเบื้องต้นหากพบว่ามีการทุจริตก็จะดำเนินการขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น