xs
xsm
sm
md
lg

พิษพายุวิภาทำวิกฤตซ้ำ!น้ำท่วมไม่พอ พบกระแสน้ำน่านซัดบ้านพัง-ที่ดินหายทั้งแปลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น่าน – พิษพายุวิภา ทำชาวทุ่งช้างเจอวิกฤตซ้ำ..หลังน้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ กระแสน้ำน่านเชี่ยวกรากเซาะตลิ่งเป็นแถบไม่พอ บางรายบ้านพังทั้งหลัง-บางรายที่ดินหายทั้งแปลงกลายเป็นแม่น้ำ เหลือแต่โฉนดในมือ วอนรัฐสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งด่วน



นายสุพงศ์ ขะจาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านปอน หมู่6 และ ผู้ใหญ่บ้านป่าเปือย หมู่ 7 และตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา ซึ่งทำให้กระแสน้ำในแม่น้ำน่าน ได้กัดเซาะตลิ่งจนบ้านเรือนประชาชนกว่า 28 หลังคาเรือนได้รับความเสียหายและมีความเสี่ยงมาก ได้พากันเดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

เพื่อยื่นหนังสือต่อนายสัญญา กามินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน และ นางสาวระรินธร เพ็ชรเจริญ ประธานชมรมสื่อสารสาธารณะภาคเหนือ สื่อมวลชนจังหวัดน่าน เพื่อขอให้ทางจังหวัด เร่งดำเนินการสำรวจออกแบบและก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในพื้นที่ตำบลปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน

นายวิชิต เรศมณเฑียร หรือ อาจารย์ชิต อดีตหัวหน้าวงดนตรีวงแม่น้ำ ซึ่งมีบ้านเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและเป็นศูนย์สอนเด็กและเยาวชนด้านดนตรี บริเวณโค้งน้ำ เปิดเผยว่า ทุกๆปี กระแสน้ำก็กัดเซาะตลิ่งจนเนื้อที่ดินหายไปกว่าครึ่ง

ล่าสุดจากพายุวิภา กระแสน้ำเชี่ยวกรากได้กัดเซาะตลิ่งจนบ้านหายไปทั้งหลัง และเหลือเนื้อที่ดินน้อยกว่าในโฉนด นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง ซึ่งจากเนื้อที่ตามโฉนด 8 ไร่ ตอนนี้กลายเป็นแม่น้ำไปทั้งหมด เหลือแต่เพียงโฉนดแต่ไม่มีที่ดินแล้ว

นายสุพงศ์ ขะจาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปอน กล่าวว่า พื้นที่ตำบลปอน ได้รับผลกระทบเรื่องปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งมาตลอด แต่อุทกภัยจากพายุวิภา นอกจากจะทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร และพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ทั้งโรงเรียนบ้านปอน อาคารสำนักงาน อบต.ปอน และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.2 ปอน ทุ่งช้าง ยังทำให้ปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งครั้งนี้มีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

โดยเฉพาะพื้นที่บ้านปอน หมู่ 6 และ บ้านป่าเปือย หมู่ 7 มีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบและเสี่ยงอย่างหนัก รวมกว่า 28 หลังคาเรือน ซึ่งหากยังไม่มีการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง หมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงตามแนวตลิ่งจำเป็นต้องอพยพย้ายออกทั้งหมด

“เรามายื่นหนังสือ เพราะต้องการให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ทำการสำรวจและออกแบบเขื่อนป้องกันตลิ่ง ระยะทางกว่า 1,000 เมตร เนื่องจากเกินศักยภาพของนายช่าง อบต.ปอน รวมถึงด้านงบประมาณการก่อสร้างด้วย”

นายสัญญา กามินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน กล่าวภายหลังรับหนังสือและรับฟังปัญหาความต้องการของผู้นำชุมชนแล้ว ว่า จะเร่งดำเนินการทำบันทึกเสนอถึง นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน เพื่อพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป พร้อมทั้งจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลปอนทราบความคืบหน้าเป็นระยะ




กำลังโหลดความคิดเห็น