บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์สั่งทุกพื้นที่ตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าและรถต้องสงสัยเข้ม หลังโดรนหลายสิบลำบินป่วนในหลายอำเภอช่วงกลางคืน ป้องกันฝั่งกัมพูชาบินสอดแนมหรือจับพิกัด หากพบให้รายงานฝ่ายความมั่นคง ยันยังไม่ให้ ปชช.อพยพกลับเข้าพื้นที่ เหตุสถานการณ์ยังไม่ปกติ ยังพบกระสุนปืนใหญ่เขมรตกในพื้นที่กว่า 240 ลูก บางลูกยังไม่ระเบิดหวั่นเสี่ยงอันตราย
วันนี้ (2 ส.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในทุกอำเภอ ทำการตรวจสอบบุคคลแปลกหน้า และรถต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวด หลังได้รับรายงานพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน หลายสิบลำบินป่วนหลายอำเภอในช่วงกลางคืน แม้กระทั่งอำเภอที่ไม่ได้ติดแนวชายแดน ก็ยังพบโดรนบินเหนือท้องฟ้าในยามค่ำคืน
ตามรายงานอำเภอที่พบโดรนบินเหนือท้องฟ้าประกอบด้วย อ.บ้านกรวด ละหานทราย ประโคนชัย นางรอง และ อ.โนนสุวรรณ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชัดเจนว่าโดรนที่บินจำนวนหลายสิบลำตลอดสองคืนที่ผ่านมาเป็นของฝ่ายไหน แต่เพื่อความปลอดภัยก็ได้กำชับให้ทุกพื้นที่ตรวจสอบเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องบุคคลแปลกหน้าและโดรนด้วยเช่นกัน หากพบมีคนแปลกหน้าหรือโดรนบินในพื้นที่ไหนให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามมาตรการต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ยังระบุอีกว่า สถานการณ์ภาพรวมตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ถือว่ายังไม่ปกติ แม้จะไม่มีเหตุการณ์สู้รบกันแต่ยังมีโดรนไม่ทราบฝ่ายบินป่วนในหลายพื้นที่ ประกอบกับในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด และ อ.ละหานทราย มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามี 2 ลูกที่ยังไม่ระเบิด โดยลูกแรกชุด EOD ได้ปฏิบัติการทำลายไปแล้ว ส่วนอีก 1 ลูกยังอยู่ระหว่างการทำลาย
ดังนั้น ทางจังหวัดจึงยังไม่มีประกาศให้ประชาชนใน อ.บ้านกรวด อ.ละหานทราย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ บางส่วนที่อพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ศูนย์พักพิง และบ้านญาติทั้งในจังหวัด และต่างจังหวัดกว่า 70,000 คน กลับเข้าในพื้นที่ในช่วงนี้ เนื่องจากยังเสี่ยงอันตราย
จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนผู้อพยพให้ชะลอการกลับเข้าพื้นที่ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและเจ้าหน้าที่เคลียร์กระสุนปืนใหญ่ที่อาจจะตกค้างให้เรียบร้อย และรอประกาศจากทางการอย่างชัดเจนก่อนแล้วค่อยกลับเข้าพื้นที่
ส่วนการดูแลผู้อพยพก็มีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามเป็นอย่างดี