วันนี้(31 ก.ค.)จากเหตุวิกฤตชายแดนไทย–กัมพูชา ส.ส. และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามศูนย์พักพิงในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี นำโดย นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รองหัวหน้าพรรค, นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรค, นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรค และ นางสาวพิมพฤดา ตันจรารักษ์ รองเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส. พรรคในทุกพื้นที่
นายไชยชนก กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน หรือประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยชี้ให้เห็นว่าคนไทยเมื่อเผชิญวิกฤตจะพร้อมใจกันแสดงออกถึงความรักและความสามัคคี แม้ขณะนี้ยังมีบางจุดที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม แต่เพียงเอ่ยปาก ก็มีทุกฝ่ายเร่งจัดส่งสิ่งของและความช่วยเหลือมายังพื้นที่ทันที
“ทั่วประเทศร่วมระดมช่วยเหลือพี่น้องชายแดน ส่วนตัวผมในฐานะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปัญหา ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครคิดว่าจะต้องอยู่ในศูนย์พักพิงระยะยาว แต่มาถึงตอนนี้ต้องยอมรับความจริง และภาครัฐต้องคำนึงถึงสภาพของศูนย์พักพิง อย่าคิดว่าเป็นเพียงการอยู่ 1–2 วัน เพราะสถานการณ์อาจยืดเยื้อไปเป็นหลักสัปดาห์หรือหลักเดือน”
นายไชยชนก ยังกล่าวถึงประเด็นสำคัญด้าน สุขภาพจิตของผู้อพยพ ซึ่งต้องจากบ้านมาอยู่กับคนแปลกหน้านานหลายวัน ความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นจนพบกรณีการพยายามทำร้ายตนเอง จึงจำเป็นต้องมีการส่งทีมดูแลสุขภาพจิตเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
“เราต้องเข้าใจว่า ก่อนที่เขาจะมาอยู่ตรงนี้ เขาพบกับแรงกดดันมหาศาลจากสถานการณ์ชายแดน เมื่อมาอยู่ในศูนย์พักพิง แม้จะปลอดภัย แต่ต้องอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าในสภาพแวดล้อมใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งอาจเพิ่มภาวะเครียดได้ รัฐจึงต้องเร่งเข้าไปดูแลและเยียวยาจิตใจควบคู่กับการดูแลด้านความเป็นอยู่” นายไชยชนก กล่าว