xs
xsm
sm
md
lg

ทลายแก๊ง “Boss กอล์ฟ” ผอ.ปปง.เก๊ หลอกเหยื่อ นศ.ป.เอก โคราช ได้ผู้ต้องหา 5 ราย เงินสด 2.8 ล้าน เผยเหยื่อเพียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทลายแก๊ง “Boss กอล์ฟ” ผอ.ปปง.เก๊ หลอกเหยื่อนักศึกษา ป.เอก แดนย่าโม สูญเงิน 2.5 แสน ได้ผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมเงินสด 2.8 ล้าน เผยทำกันเป็นขบวนการ มีเหยื่อถูกหลอกอีกเพียบ
วันนี้ (16 ก.ค. 68) ที่ห้องประชุม สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพ “SCAMMER” ตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ผอ.ศูนย์ปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) ตลอดจน ผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 3, ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และนักเรียนสืบสวน รุ่น 116


ได้สนธิกำลังและประสานข้อมูลร่วมกันสืบสวน แกะรอย กลุ่มมิจฉาชีพ SCAMMER ที่อ้างตนเป็น “ผอ.ปปง.เก๊” หลอกลวงนักศึกษา ป.เอก แดนย่าโม สูญเงินนับสองแสนกว่าบาท และยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายราย สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายต่อประชาชน และเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3)
โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 5 ราย ประกอบด้วย 1. นายศรัณย์ หรือ ผอ.กอล์ฟ กรรณสูต อายุ 41 ปี ที่อยู่ 48/254 ซ.หทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา โดยขณะจับกุมสวมชุดเจ้าหน้าที่ ปปง., 2. นายภมรเทพ เว้นบาป อายุ 24 ปี ที่อยู่ 187 ม.2 ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ขณะจับกุมสวมเสื้อคลุมเจ้าหน้าที่ทหารบกยศสิบเอก

3. นายศุภโชค ดำรงชุตินันท์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 168/592 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา, 4.  น.ส.ภิชญาดา ประกอบทอง อายุ 49 ปี ที่อยู่ 14/61 ถ.ปิยะบุตร ต.บ้านหมี่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี และ 5. น.ส.นรินทร์ ศรีวงษ์ชัย อายุ 35 ปี ที่อยู่ 281 หมู่ 6 ต.ห้วยยง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ


ผู้ต้องหาทั้งหมดกระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ฯ” ซึ่งได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินและของกลางในคดี ทั้งเงินสดมูลค่ารวมกว่า 2.8 ล้านบาท และเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน


พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มนี้ทำเป็นขบวนการแบ่งกันทำหน้าที่และมีผู้เสียหายในหลายพื้นที่ ปัจจุบันแก๊งนี้ถูกอายัดบัญชีเงินฝากมีเงินเหลือในบัญชี 2.8 ล้านบาท จึงฝากแจ้งให้ผู้เสียหายที่เคยถูกหลอกติดต่อมาที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อสืบหาเส้นทางการเงินด่วน ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนในการแก้ไข และปราบปรามองค์กร ขบวนการ เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมให้หมดไป สอดคล้องตามนโยบายสำคัญของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

สำหรับพฤติการณ์การก่อเหตุในคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2568 ผู้เสียหายที่เป็นนักศึกษา ป.เอก ชื่อดัง แดนย่าโม ได้ถูกกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่ายโทรศัพท์ชื่อดัง แจ้งว่าบัญชีของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องและพัวพันกับยาเสพติด โดยกลุ่มมิจฉาชีพได้อ้างว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจของผู้เสียหายและอาศัยความกลัวของผู้เสียหาย จึงได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายพูดคุยและติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอม โดยการวิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชันไลน์โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินของตนเองและพยายามข่มขู่รีดเอาทรัพย์จากบุคคลในครอบครัวมายังกลุ่มบัญชีม้าของมิจฉาชีพ


และมิจฉาชีพได้โอนสายต่อไปยัง “BOSS กอล์ฟ” ผอ.ปปง.เก๊ หนุ่มใหญ่ที่แต่งตัวภูมิฐาน หน้าตาและการพูดจาน้ำเสียงดูน่าเชื่อถือ อีกทั้งมีการแสดงเอกสารที่จัดทำเสมือนเอกสารทางราชการ จึงสร้างความเชื่อมั่น จนหนุ่ม ป.เอกหลงเชื่อจนสนิทใจ และมิจฉาชีพยังอ้างว่าเป็นขั้นตอนการตรวจสอบและยืนยันความบริสุทธิ์ใจของผู้เสียหาย ซึ่งท้ายที่สุดหนุ่ม ป.เอก ผู้เสียหาย หลงเชื่อโอนเงินดังกล่าวไปร่วม 250,000 บาท ภายหลังเมื่อหนุ่ม ป.เอก รู้ตัวว่าถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบสวนจนพบแผนผังเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมของกลุ่มแก๊งของ boss กอล์ฟ ผอ.ปปง.เก๊ ที่เป็นหัวหน้าสาย ทำหน้าที่กำกับ จัดการ ดูแล ควบคุมการกดเงินจากธนาคารของเหล่าบัญชีม้า และมีผู้ร่วมขบวนการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบัญชี ซึ่งหญิงสาวมือซ้ายทำหน้าที่ปรับยอดและวงเงินในการกดและการจัดเตรียมบัญชีให้พร้อมในการใช้งาน คอยจัดสรรความถี่ของการกดเงินของเหล่าบัญชีม้าให้เป็นธรรมชาติ ไม่ให้ตกเป็นเป้าตรวจสอบ และมีฝ่ายเลขานุการ (มือขวา) ทำหน้าที่สรุปรายงานยอดและจำนวนในการกดเงินของบัญชีม้าแต่ละกลุ่มแต่ละคอก เพื่อรายงานอัปเดตให้หัวหน้าใหญ่ได้ทราบในแต่ละวัน


ส่วนคนเลี้ยงม้าจะทำหน้าที่คอยจัดสรรหาบัญชีม้า โดยเน้นต่างจังหวัดที่มีบัญชีธนาคารจำนวนหลายธนาคาร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ม้าเดินทางมากดเงินนั้น หัวหน้าคอกม้าจะพาเหล่าบัญชีม้าตระเวนกดเงินตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ และจะพักกันเป็นกลุ่มตามโรงแรม อพาร์ตเมนต์ทั่วกรุงไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการจับกุมตรวจสอบ

ส่วนการ์ด/ผู้คุมม้า ซึ่งได้ยกระดับจากการเป็นเหล่าบัญชีม้าที่ถูกระงับการใช้บัญชีธนาคาร จะเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญ มีประสบการณ์ที่ช่ำชองในการกดเงินให้เป็นธรรมชาติ คอยทำหน้าที่ประกบเหล่าบัญชีม้าตลอดระยะเวลาการกดเงิน และรวบรวมเงินที่ได้จากการหลอกลวง ส่งให้ boss ตามห้องน้ำภายในห้างสรรพสินค้า เหล่าม้าศึกจะทำหน้าที่รอรับคำสั่ง หรือสัญญาณจาก boss ในการกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และ counter ธนาคารต่างๆ โดยแต่ละหน้าที่จะได้รับค่าดำเนินการที่แตกต่างกันไป เรียงตามลำดับความสำคัญ






กำลังโหลดความคิดเห็น