ลำปาง - เผยคลิปนาทีอุทาหรณ์หวิดดับหมู่สังเวย..หนุ่มแม่เมาะขับรถข้ามเลนย้อนศรชน จยย.เด็ก 11 ขวบซ้อนพี่สาวล้มคาถนนไม่พอ เลี้ยวไล่ชน จยย.สามพ่อแม่ลูกจนต้องวิ่งหนีตายหลบบังเสา-เข้าร้านข้างทางสุดระทึก ตร.ตามตัวจนเจออาการยังเบลอ พ่อเผยลูกเคยป่วยจิตเวช เพิ่งพ้นเกณฑ์ทหารมาได้ 2 เดือน คาดช่วงที่ฝึกน่าจะไม่ได้กินยาจนอาการกำเริบ
คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านค้าบริเวณปากซอย 11 ในตลาดสด ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง บันทึกภาพรถยนต์เก๋งคันหนึ่งวิ่งข้ามเลนชน จยย.ที่ขี่มาตามปกติจนล้มลงกลางถนน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันยังมี จยย.ที่ขี่มาด้วยกัน 3 คนเป็นพ่อแม่ลูก โดยพ่อเป็นคนขี่ลูกนั่งกลางแม่นั่งซ้อนท้าย ต้องเบรกอย่างกะทันหันทำให้รถเกือบล้ม แม่ต้องลงจากรถก่อนที่พ่อจะพยุงรถขึ้นและขี่ออกมาจากที่เกิดเหตุโดยมีแม่วิ่งตามรถมา
แต่รถยนต์คันดังกล่าวไม่หยุด แต่กลับขับเลี้ยวอ้อมรถ จยย.ที่ล้มแล้วขับตามไล่รถ จยย.ของพ่อแม่ลูกที่ขี่ออกมา จนผู้เป็นแม่ต้องวิ่งหนี พ่อต้องรีบหยุดรถไว้ข้างทางแล้วรีบอุ้มลูกลงจากรถ วิ่งหนีตายเข้าไปหลบซอกตึกเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่รีบวิ่งหลบเข้าซอกตึก ได้เพียงเสี้ยวนาที รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวที่ตามมาได้ขับพุ่งชนถังน้ำแข็ง รถ จยย.แล้วขับหนีไป
ต่อมาได้มีการนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.50 น. (5 ก.ค. 2568) มาเผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ ของลำปาง 6 ก.ค. 68 เพื่อให้สังคมออนไลน์ช่วยกันติดตามหารถและผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้บาดเจ็บและได้รับความเสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่เมาะ แล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณปากซอย 11 ในตลาดสด ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ พบกับนางเกตุแก้ว แก้วคำงาม อายุ 42 ปี แม่ของน้องฟาง อายุ 11 ขวบ ซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวชนล้มกลางถนน โดยน้องฟางและแม่ได้นำดูจุดที่ถูกรถเก๋งคู่กรณีพุ่งชน จุดที่ต้องวิ่งหนีตายเข้าไปหลบในซอย และจุดที่รถเก๋งพุ่งไปชนรถของสามพ่อแม่ลูก
น้องฟางเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ซ้อนรถ จยย.พี่สาวไปซื้อของร้านสะดวกซื้อที่ตลาด เมื่อถึงบริเวณปากซอย 11 รถยนต์เก๋งคู่กรณีขับสวนเลน พุ่งมาชน จนทั้งรถและตนเองกับพี่สาวล้มลงกลางถนน เมื่อพี่สาวลุกขึ้นมาได้เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวกลับรถและดูเหมือนจะพุ่งมาชน จึงรีบหนีตายกันเข้าไปหลบในซอย ก่อนที่จะเห็นรถคันดังกล่าวขับตามรถ จยย.ของสามพ่อแม่ลูกที่ต้องหนีตายด้วย ไปพุ่งชนรถ จยย. แล้วยังขับไปชนป้ายร้านหม่าล่าที่อยู่ใกล้ๆ และก็ขับหนีไป
ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านเวียงสวรรค์ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามกรณีดังกล่าวเพื่อรายงานให้อำเภอแม่เมาะ โดยพบกับนายชาย อายุ 53 ปี พ่อคนก่อเหตุ และ นายนุ อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุ เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา (6 ก.ค.)
นายชายเล่าว่า ช่วงค่ำ 5 ก.ค. ลูกบอกจะออกไปซื้อของ และขับรถเก๋งออกไป พอกลับมาก็เห็นด้านหน้ารถเก๋งได้รับความเสียหาย แต่ลูกบอกรถไปชนถังขยะ ตนก็ไม่ติดใจอะไร จนกระทั่ง 6 ก.ค.มีตำรวจตามมาถึงบ้านและพาไป สภ.แม่เมาะ จึงทราบว่าลูกขับรถชนคน-ชนรถ จยย. พอมาเห็นภาพวงจรปิดเข่าแทบทรุดไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนี้ ตนก็ไม่ได้มีเงินอะไรแต่ก็จะขอรับผิดชอบซ่อมรถ จยย.ให้กับผู้เสียหายและจะเยียวยาให้กับเด็กๆ บ้างตามสมควร ซึ่งจะต้องเจรจากับผู้เสียหายและครอบครัวต่อไป
ทั้งนี้ ยอมรับว่าลูกเคยป่วยจิตเวชตั้งแต่อายุ 18 ปี ต่อมาก็เป็นทหารเกณฑ์ เพิ่งปลดประจำการเมื่อเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาและชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุมีอาการเหม่อลอยบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายหรือเอะอะโวยวาย คาดว่าระหว่างอยู่ในค่ายน่าจะไม่ได้กินยา จึงทำให้อาการกำเริบ
ส่วนนายนุ ผู้ก่อเหตุ ยังอยู่ในอาการที่ดูคล้ายคนไม่ปกติยังคงเบลอๆ บอกว่าป่วยเป็นไทรอยด์ระหว่างอยู่ในค่ายกำลังรักษาเมื่อถามว่าตอนชนรถ จยย.รู้ตัวไหม เจ้าตัวบอกว่ารู้ แต่เมื่อถามเรื่องอื่นๆ เหมือนกับว่าเจ้าตัวจะเริ่มสับสน
ด้านผู้เสียหายพ่อแม่ลูกที่ถูกขับรถไล่และชน จยย.ได้รับความเสียหายนั้น นายเฉลิมพล มาลาทอง อายุ 25 ปี ได้พาดูรถ จยย.ที่เสียหาย พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังไปตลาด โดยขี่ตามหลังรถ จยย.ของเด็ก 11 ขวบที่ซ้อนท้ายพี่สาวมา และถูกรถเก๋งชนล้มลงกลางถนน รถตัวเองตามหลังมาเห็นท่าไม่ดี แฟนสาวได้กระโดดลงจากรถ จยย.แล้วก็บอกให้คนเจ็บที่รถล้มกลางถนนรีบวิ่งหนี ส่วนตนก็ขี่รถ จยย.มาจอดที่หน้าร้านขายของชำแล้วก็อุ้มลูกสาวลงจากรถวิ่งไปหลบหลังเสา ไม่กี่วินาทีคู่กรณีก็ขับรถพุ่งชนตามภาพกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะหนีไปและยังขับไปชนป้ายร้านหม่าล่าอีก
“ตกใจมากโดยเฉพาะลูกสาวเสียขวัญมาก จนกระทั่งตำรวจตามตัวได้ และได้ไปพบตัวผู้ก่อเหตุที่ สภ.แม่เมาะมาแล้ว ผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่มีเงินโดยจะขอยอมติดคุกแทน”