นครสวรรค์ – ชุดสืบภาค 1-ตร.สภ.ปากคลองรังสิต ร่วมแกะรอยตามซิวตัว “ต้นกล้าเก๋งแดง” หลังซิ่งท้านรกแข่งกระบะ พุ่งชน “ครูแม็ก-ครูเกษียณวัย 82 ปี” เสียชีวิตคาที่ แล้วหนีได้นานเกือบครึ่งเดือน ประสาน ตร.นครสวรรค์ รับตัวดำเนินคดีขับรถชนคนตาย ก่อนขยายผลคดียาเสพติดต่อ
วันนี้(24 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.นครสวรรค์ ร่วมกันควบคุมตัวนายต้นกล้า หรือนายภาณุพงศ์ บุญมา อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีขับรถโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ครูแม็ก หรือนางรัตนา บุตรประดิษฐ์ อายุ 82 ปี ถึงแก่ความตาย ขณะกำลังยืนรอตักบาตรหน้าบ้าน นำตัวจากโรงพัก สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี กลับมาดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังเจ้าตัวหลบหนีการจับกุมตัวมานานเกือบครึ่งเดือน
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 ร่วมกับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เข้าจับกุมตัวนายต้นกล้าตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ จ.224/2568 ได้ที่บริเวณถนนใต้ทางด่วน ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา จากนั้นจึงควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่โรงพักก่อนจะประสานให้ตำรวจ ภ.จว.นครสวรรค์ เดินทางมารับไปดำเนินคดีในพื้นที่
ตำรวจให้ข้อมูล ยอมรับว่า การจับกุมตัวนายต้นกล้าเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวไม่ใช้โทรศัพท์ จึงทำให้ยากต่อการติดตามจับกุมตัว เลยต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีการแกะรอยจากอีเมลล์ และเส้นทางการเงิน พร้อมกับดำเนินการออกหมายจับในเข้าระบบตำรวจทั่วประเทศ จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ในที่สุด
เบื้องต้น นายต้นกล้า ได้ให้การอ้างว่า เนื่องจากมีหมายจับในคดียาเสพติดด้วย จึงได้รีบพาแฟนสาว ซื่อ น.ส.น้ำ อายุ 30 ปี หลบหนีไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ส่วนชนวนเหตุที่ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนั้น นายต้นกล้า ระบุว่า ขณะขับรถมากับแฟนสาว จู่ๆ ก็ถูกรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ ของนายศุภลักษณ์ พูลเขตกัน อายุ 28 ปี ขับปาดหน้า จึงเกิดความโมโห ขับไล่บี้แข่งกัน โดยไม่คาดคิดว่าจะทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และไม่รู้ด้วยว่า ตอนเกิดอุบัติเหตุ รถได้พุ่งไปชนครูแม็กจนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ เพิ่งจะมารู้จากข่าว หลังจากหลบหนีออกนอกพื้นที่มาแล้ว โดยได้แยกกับแฟนสาวแล้วพากันแยกย้ายหลบหนีมารับจ้างทำงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว
ต่อมา น.ส.น้ำ แฟนสาวของนายต้นกล้า ได้เดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อขอมอบตัว ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำ และอาจถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติด เนื่องจากตำรวจตรวจพบว่ามียาบ้าร่วงอยู่ภายในรถเก๋งของนายต้นกล้าถึง 10 เม็ด
แต่ในเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหากับนายต้นกล้า ในคดีจราจรเอาไว้ก่อน ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย หนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที และชับรถโดยไม่คำนึงถึงปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งต่อไปจะมีการสอบขยายผลในเรื่องของยาเสพติดด้วยเช่นกัน
ส่วนแม่ของนายต้นกล้า ที่เดินทางมาเฝ้าดูลูกชายที่โรงพักตลอดทั้งวัน ได้กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบข่าวว่าลูกถูกจับตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จึงเดินทางมาเฝ้าลูกชายแต่เช้า และยอมรับว่า เพิ่งจะเจอหน้าลูกชายวันนี้เป็นวันแรก หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันมานานหลายปี และพอได้เจอก็ได้มีการพูดคุยกับลูกชายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าตัวว่า ที่ต้องหนีเพราะยังมีหมายจับเก่าติดตัวอยู่ แต่หลังจากหลบหนีไปแล้ว ก็พยายามจะติดต่อกลับมาหาครอบครัวของผู้ตาย เพื่อจะขอเยียวยาชดใช้ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะไม่มีเบอร์ และไม่กล้าจะใช้โทรศัพท์ด้วย เพราะกลัวจะถูกตามจับ
