นครปฐม - สองผัวเมียสุดโหด หลอกสาววัย 22 โอนเงินให้หลายครั้งอ้างจะฝากเข้าทำงาน รพ.ศูนย์นครปฐม จนเงินหมดยังไม่ได้ทำงาน ติดตามทวงถามถึงบ้าน กลับฆ่าแยกชิ้นส่วน นำไปเผาและฝัง ส่วนหนึ่งโยนทิ้งน้ำ ก่อนหลบหนีไปกบดานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตามจับกุมไว้ได้ ฝ่ายเมียโยนให้ผัวทำคนเดียว แต่ผัวยันร่วมกันฆ่า
วันนี้ (22 มี.ค.) ร.ต.อ.สมภพ เนียมจำเริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ดอนตูม จังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งมีผู้พบศพถูกฆ่าฝังทิ้งอยู่ที่หลังบ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ตำบลดอนรวก อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ยงลิต ศุภผล ผกก.สภ.ดอนตูม และประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ดอนตูม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม แพทย์โรงพยาบาลดอนตูม กองพิสูจน์หลักฐาน 7 เพื่อเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ที่หลังบ้านห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ช่วยกันขุดดินออก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนตูม และเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 7 เจ้าหน้าที่สืบสวนจังหวัดนครปฐม ศพฐ.ภ.7 และแพทย์โรงพยาบาลดอนตูม พร้อม พนักงานสอบสวน สภ.ดอนตูม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนตูมร่วมชันสูตรอัตลักษณ์ศพดังกล่าว
เบื้องต้น พบชิ้นส่วนมนุษย์ ได้แก่ กะโหลก กระดูกและเส้นผมบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงเก็บทุกอย่างไว้เป็นหลักฐานและรวบรวมส่งกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมกั้นพื้นที่เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าในบริเวณดังกล่าว
เบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ปิยะวรรณ พงษ์เภา อายุ 22 ปี หรือแอน บ้านอยู่ 58/1 หมู่ 1 ต.บางระกำ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งสามีได้แจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ขณะเดียวกันทราบว่าชิ้นเนื้อบางส่วนนั้นถูกคนร้ายนำไปโยนทิ้งน้ำที่ประตูน้ำใกล้วัดพะเนียงแตก อ.เมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานชุดประดาน้ำจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ช่วยการระดมค้นหา
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุม น.ส.ภัทราภรณ์ ลำจวน อายุ 21 ปี หรือมิ้ลค์ บ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ต. ดอนรวก อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และนายณรงค์ชัย สุวรรณแก้ว หรือเลย์ อายุ 26 ปี สามี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 3 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม ซึ่งได้หลบหนีไปกบดานที่จังหวัดเชียงใหม่ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง
น ส.ณัฐฏวี ดิษฐ์แช่ม อายุ 43 ปี พี่สาวของผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 59/4 หมู่ 1 ต.บางระกำ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย เจอล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ซึ่งผู้ตายออกจากบ้านเวลา 16.00 น. จากบ้านพักในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี โดยบอกว่าจะมาทวงเงินจาก น.ส.ภัทราภรณ์ ลำจวน อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ
โดยฝากให้ดูแลลูกแล้วจะกลับมา เนื่องจากจะไปทวงเงินจาก น.ส.ภัทราภรณ์ และยังบ่นอีกว่า หากวันนี้ทวงเงินไม่ได้จะมาด่าให้แตกหัก เพราะถูกหลอกให้โอนครั้งละ 2,000 บาท ถึง 5,000 บาท อ้างว่าจะฝากงานให้ทำที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โอนแล้วโอนอีกจนไม่มีเงิน งานไม่ได้ทำ จึงโมโหและจะเอาเรื่องน.ส.ภัทราภรณ์ ให้รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ หลังจากนั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
โดยในระหว่างที่หายตัวไปนานกว่า 10 วันแต่แชตของผู้ตายนั้นสามารถพูดคุยติดต่อได้ปกติกับทางญาติซึ่งเป็นที่ผิดสังเกตเพราะว่าไม่ยอม video call หรือโทรศัพท์กลับมาและยังไม่ยอมกลับบ้าน สามีของผู้ตายจึงได้ใช้แชตติดต่อกัน พบว่ามีพิรุธในคำพูดจาที่ติดต่อกันทางแชตซึ่งผิดปกติ
ต่อมา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 สามีผู้ตาย ได้ไปแจ้งความคนหายที่ สภ.นครชัยศรี โดยสงสัยว่า นายณรงค์ชัย หรือเลย์ สุวรรณแก้ว และ น.ส.ภัทราภรณ์ หรือมิ้ลค์ ลำจวน น่าจะเป็นต้นเหตุในการหายตัวไปเนื่องจากภรรยาแจ้งว่าจะมาทวงหนี้ที่ 2 คนนี้ หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ แต่ได้ใช้ไลน์ติดต่อมาหาตนให้ตนโอนเงินให้หลายครั้ง ครั้งแรกให้โอนให้ 5,000 บาท อ้างว่าเป็นเงินค่าซื้อชุดผู้ช่วยพยาบาล จากนั้นยังให้โอนอีก 6-7 ครั้ง ยอดเงินรวม 50,000-60,000 บาท ตนเอะใจว่าเหตุใดให้โอนเงินเข้าไปที่บัญชีนายณรงค์ชัย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.นครชัยศรี เพราะเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายกับภรรยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้เริ่มดำเนินการสืบสวนคดี เบื้องต้นพบว่าได้ทำการหลอกลวงการโอนเงิน จึงได้ออกหมายจับทั้งสองคนในคดีฉ้อโกงทรัพย์ และเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ทำการฆาตกรรมผู้เสียชีวิตแล้วหลบหนีไป
ภายหลังจากแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.นครชัยศรี เพียง 2 วัน พ่อของ น.ส.ปิยะวรรณ หรือแอน ผู้ตาย ได้ฝันว่า ลูกสาวตายแล้ว โดยนายเลย์ฆ่าฝังดินอยู่ที่หลังบ้าน จึงได้นำความฝันมาเล่าให้ญาติพี่น้องฟังก่อนจะไปแจ้งความที่ สภ.นครชัยศรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้ระดมกำลังมาทำการขุดค้นหาแต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไล่ล่าผู้ก่อเหตุซึ่งจับสัญญาณจากโทรศัพท์ ทราบว่าหลบหนีไปไกลถึงจังหวัดเชียงใหม่และจับกุมได้เมื่อเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงทำการสืบสวนขยายผลและได้รับสารภาพว่าร่วมกันฆ่า น.ส.ปิยะวรรณ พงษ์เภา แล้วทำการเผาและฝังศพไว้ที่หลังบ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ต.ดอนรวก อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
อย่างไรก็ตาม จากการให้การทางฝ่ายหญิงบอกว่าคนที่ลงมือก่อเหตุเป็นฝ่ายสามีของตนเองแต่ทางสามีได้ยันว่าได้ร่วมกันฆ่า โดยได้นำอวัยวะไปฝังไว้หลังบ้านและมีการแยกชิ้นส่วนไปทิ้งที่คลองชลประทาน ในพื้นที่ใกล้เคียงตอนนี้ได้มีการส่งทีมติดตามหาอวัยวะเพิ่มเติมแล้ว