กาญจนบุรี - พ.อ.ซอ เอวัน นำสื่อลงพื้นที่ อ.พญาตองซู ตรวจสอบสถานที่ที่ฝ่ายความมั่นคงไทยได้ข้อมูลเป็นที่จีนเทาใช้เป็นแหล่งสแกมเมอร์ และคอลเซ็นเตอร์ ย้ำไม่มีทางปล่อยให้เมืองพญาตองซู เป็นแหล่งธุรกิจจีนเทา แทนเมืองชเวโก๊โกแน่นอนเนื่องจากที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน
วานนี้ (18 มี.ค.) พ.อ.ซอ เอวัน (เพียวลิน) ผู้บังคับการยุทธวิธี 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) ได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปพื้นที่เมืองพญาตองซู เพื่อตรวจสอบสถานที่ที่สื่อมวลชนไทยนำเสนอข่าว และฝ่ายความมั่นคงไทยได้รับข้อมูลว่าน่าจะเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจสแกมเมอร์ และคอลเซ็นเตอร์ ของกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาทำธุรกิจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จนเป็นเหตุให้ทางการไทยใช้มาตรการตัดกระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และการประกอบธุรกิจของประชาชนชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพญาตองซู เป็นอย่างมาก
โดยสถานที่แห่งแรกที่ พ.อ.ซอเอวัน นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงคือที่ตึก 88 ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับหน้าด่าน ตม.พม่า ห่างจากชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 150 เมตร ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ พ.อ.ซอเอวัน เป็นผู้พาดูสถานที่พร้อมกับเจ้าของตึก โดยชั้นที่ 1 พบโต๊ะบาคาร่า จำนวน 5-6 โต๊ะ ที่กลุ่มธุรกิจจีนเทาเป็นผู้เช่าตึก ยังขนอุปกรณ์ออกไปไม่หมด ขณะที่ชั้น 2-3 ของตึก พบว่าอยู่ในสภาพที่ว่างเปล่า พบว่าในอาคารมีการแบ่งพื้นที่เป็นห้องครัว และห้องทำงาน มีร่องรอยการรื้อสายไฟ เครื่องปรับอากาศออกจากห้อง
ขณะเดียวกัน พบว่าภายในอาคารมีการติดตั้งระบบไฟโซลาร์เซลล์ จากการสอบถามเจ้าของอาคารให้ข้อมูลว่าระบบโซลาร์เซลล์มีการติดตั้งหลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ซึ่งอาคารหลังนี้มีชาวจีนมาขอเช่าตนโดยทำสัญญาเช่าครั้งละ 6 เดือน โดยตนปล่อยให้เช่ามานานกว่า 6 ปีแล้ว ได้ค่าเช่าเดือนละ 1.8 ล้านบาท เข้าใจว่าชาวจีนที่มาเช่าเปิดเป็นบ่อนออนไลน์ ไม่เคยรู้ว่าเขาทำการหลอกลวงประชาชนหรือเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากเมื่อทำสัญญาเช่าแล้ว การก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่ผู้เช่าจะดำเนินการเอง โดยที่ผู้ให้เช่าไม่สามารถจะเข้าไปยุ่งหรือขอเข้าตรวจสอบได้ จนเมื่อปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาครบสัญญาเช่า 6 เดือน ตนจึงบอกเลิกการต่อสัญญา ส่งผลให้กลุ่มคนจีนและผู้เช่า มาทำการขนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมด คงเหลือเพียงโต๊ะบาคาร่า 5-6 โต๊ะตามที่เห็น
สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ติดกับรั้ว รพ.สต.บ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ปรากฏภาพ พ.อ.ซอเอวัน พร้อมทหาร DKBA เข้าจับกุมชาวจีนจำนวน 86 คน ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ พร้อมนำตัวส่งมอบให้ ทหาร BGF ของหม่องชิตตู่ เพื่อนำตัวส่งกลับประเทศต้นทาง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และสถานที่สุดท้ายเป็นอาคารหลังคาสีฟ้า ตั้งอยู่ด้านหลังรีสอร์ตแห่งหนึ่งฝั่งไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ของ พ.อ.ซอ เอวัน ที่ให้นักธุรกิจชาวจีนเช่า ประกอบธุรกิจการพนันออนไลน์ และธุรกิจบันเทิงครบวงจร (KTV)
ภายหลังจากที่ตนได้ประกาศให้ชาวจีนที่เข้ามาประกอบธุรกิจในเมืองพญาตองซู ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ตามประกาศออกไปนั้น ทำให้กลุ่มชาวจีนที่เช่าพื้นที่ได้ขนย้ายอุปกรณ์ออกจากเมืองพญาตองซูไปเป็นที่เรียบร้อย
ปัจจุบันนี้ไม่มีชาวจีนอาศัยอยู่ในเมืองพญาตองซู จะมีเพียงชาวพม่าเชื้อสายจีน ที่เข้ามาทำธุรกิจ ค้าขาย และกลุ่มชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจเหมืองแร่ในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งชาวจีนทั้ง 2 กลุ่มนี้เข้ามาอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจในเมืองพญาตองซูนานกว่า 20 ปีแล้ว
ในปี 2566-2567 เกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับโกก้างในพื้นที่ตอนเหนือ ส่งผลให้ทหารของโกก้าง 20-30 คน หลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในอำเภอพญาตองซู โดยผู้นำกลุ่มโกก้างแจ้งว่าเมื่อสถานการณ์การสู้รบสงบลง จะพากันเดินทางกลับถิ่นฐานเอง
หลังจากนั้นมีกลุ่มโกก้างอพยพลงมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหาร และสถานบันเทิงครบวงจร (KTV) จากข้อมูลของ KNU ที่ทำการสำรวจไว้ในช่วงปลายปี 2567 พบว่าในเมืองพญาตองซู มีชาวจีนเข้ามาอยู่อาศัยประมาณ 2,000 คน ซึ่งตนขอยืนยันว่าคนจีนที่เข้ามาอาศัยประกอบธุรกิจทั้งหมดมีแค่ประมาณ 2,000 คน ไม่ใช่ จำนวน 10,000-20,000 คน ตามที่ปรากฏตามข่าวแต่อย่างใด
พ.อ.ซอ เอวัน (เพียวลิน) ผู้บังคับการยุทธวิธี 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) อธิบายผ่านสื่อมวลชนอีกว่า สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่าจะกลายเป็นสถานที่รองรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ จากเมืองชเวโก๊โก นั้น ตนขอยืนยันได้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากอำเภอพญาตองซู นั้นมีสภาพที่แตกต่างกับเมืองชเวโก๊โก เป็นอย่างมาก เพราะอำเภอพญาตองซู ไม่ใช่พื้นที่ทางการเกษตรที่มีเจ้าของเป็นคนคนเดียวกัน
อำเภอพญาตองซูเป็นชุมชนที่มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น ทุกคนเป็นเจ้าของที่ดิน มีสถานที่ราชการ มีศาสนสถาน มีการจัดวางผังเมืองเอาไว้เพื่อรองรับการเติบโตด้านการค้าชายแดนในอนาคต ที่ดินมีราคาสูง ที่สำคัญทั้ง KNU และ DKBA ไม่สนับสนุนกิจกรรมหรือธุรกิจใดๆ ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม จึงไม่มีทางที่จะปล่อยให้เมืองพญาตองซู เป็นแบบเมืองชเวโก๊โกได้อย่างแน่นอน
"ทั้งนี้ หากฝ่ายความมั่นคงไทย หรือสื่อมวลชนไทยต้องการลงดูพื้นที่อำเภอพญาตองซู ตนพร้อมอำนวยความสะดวก และพร้อมตอบข้อซักถามทุกเรื่อง และในเร็วๆ นี้ตั้งใจจะพาสื่อมวลชนลงพื้นที่เซเนปิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเสนอข่าวว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่จะรองรับการย้ายธุรกิจของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีข่าวว่าย้ายมาจากเมืองชเวโก๊โก ที่เป็นพื้นที่ดูแลของตน เมื่อเกิดข้อสงสัยขึ้นมา ตนจึงต้องการพาสื่อมวลชนของไทยเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้คลายข้อสงสัย” พ.อ.ซอ เอวัน (เพียวลิน) กล่าว