กาญจนบุรี - สคทช.ร่วมกับ อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ นิคมสหกรณ์ ประชุม "kick off" หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาออกเอกสารสิทธิ (โฉนด) ที่ดินของผู้ที่ได้รับผลการะทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ
บ่ายวันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเขาแหลม 1 ชั้น 2 อาคารที่ทำการเขื่อนวชิราลงกรณ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รอง ผอ.สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาออกเอกสารสิทธิ (โฉนด) ที่ดินของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี
โดยมีนายพนม โพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 ร่วมเป็นประธาน มีนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี นางศุภวรรณ วงษ์ประยูร ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ น.ส.ภทรกช เหนือเกตุ ผู้อำนวยการศูนย์บริการจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ด้านที่ดินและทรัพยากร
พระมหาสุชาติ สิริปัญฺโญ เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี/เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม นายรักษิต ต้วมศรี หัวหน้ากองบำรุงรักษาโยธาเขื่อนวชิราลงกรณ นายนิติธร พุทธธรรมนโม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิ ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ผู้แทน สนง.ทสจ.กาญจนบุรี ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
โดยก่อนมีการประชุมอย่างเป็นทางการนั้น นายชัชชัย อุดมสถาพจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ ได้ขออนุญาตในที่ประชุมเพื่อยื่นหนังสือที่เป็นเอกสารข้อมูลรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบและยังไม่ได้รับการออกเอกสารสิทธิ (โฉนด) ที่ดินจนถึงปัจจุบัน จำนวน 1,565 รายชื่อ โดยมีนายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบหนังสือ
สำหรับบรรยากาศในที่ประชุมมีอดีตผู้นำในหลายท้องที่ออกมาแสดงความคิดเห็นตั้งแต่อดีตที่เริ่มมีการสร้างเขื่อนจนถึงปัจจุบันผ่านมากว่า 40 ปี ยังไม่มีการออกโฉนดให้ประชาชนที่เสียสละที่ดินทำกินที่เคยทำมาตั้งแต่ในอดีตที่ยังไม่มีการสร้างเขื่อน รวมถึงในยุคสมัยที่ยังไม่มีกรมอุทยาน โดยมีนิคมสหกรณ์มาตั้งแต่ปี 2518 ต่อมาปี 2534 กรมอุทยานได้ประกาศทับซ้อนพื้นที่นิคมสหกรณ์ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาจนถึงทุกวันนี้ และที่ผ่านมามีชาวบ้านหลายรายเสียชีวิตไปแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถออกโฉนดให้ประชาชนได้ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 เปิดเผยภายหลังว่า การประชุมในวันนี้ในเรื่องที่ดินไม่ว่าจะเป็นโครงการ One Map หรือเรื่องผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณที่ยังมีประชาชนเกินครึ่งที่ยังออกโฉนดไม่ได้ อาจจะเป็นเรื่องของการทับซ้อนของที่อุทยานกับนิคมสหกรณ์หรืออาจจะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเพราะว่าชาวบ้านเวลาได้ที่ดินจัดสรรที่ดินแล้ว ระหว่างรอราชการในการออกโฉนดที่ดินมีกระบวนการขั้นตอนที่ใช้เวลา
ด้วยงบประมาณ ด้วยบุคลากรที่จำกัด เลยทำให้ชาวบ้านบางรายรอไม่ไหว เลยมีการซื้อขายเปลี่ยนมือไป ทำให้แปลงที่ดินแปลงนั้นยังไม่สามารถออกโฉนดได้ ซึ่งในการประชุมได้สรุปประเด็นปัญหาและได้ตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยแก้ปัญหา เบื้องต้นนายสุริยน รอง ผอ.สคทช.ให้เวลาไว้ 180 วันในการให้นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอสังขละบุรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ได้รวบรวมข้อมูลและนำข้อมูลไปนำเสนอต่อ สคทช.เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป และวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ได้ "kick off" ในการเริ่มแก้ปัญหาที่ดินของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีมาอย่างยาวนานถึง 50 ปี
ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่าวันนี้จากการทำงานของ สคทช.ที่ผ่านมา จากผลงานการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและการพูดคุยวันนี้ที่สรุปรายละเอียดและข้อมูลเป็นแนวทางที่สดใส คิดว่าการบริหารที่ดินทำกินของจังหวัดกาญจนบุรีถึงจะมีรายละเอียดที่ซับซ้อนแต่คาดว่าน่าจะแก้ไขได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเพราะปัญหานี้สะสมมานานร่วม 50 ปีแล้ว