กาญจนบุรี - ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ เผยระดับน้ำสูงขึ้น ส่งผลคดีภาคเกษตรช่วงแล้งปีหน้า ส่วนเมืองบาดาลกลับมาเป็น UNSEEN อีกครั้ง ด้านประชาชนเตรียมพร้อมขนทรัพย์สินขึ้นที่สูง
วันนี้ (10 ต.ค.) จากกรณีฝนตกลงมาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีติดต่อกันมานานหลายวัน ส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณเป็นจำนวนมาก ระดับน้ำสูงขึ้นจนเอ่อล้นท่วมริมตลิ่ง ทำให้ชาวชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนวชิราลงกรณ ใกล้กับสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเริ่มมีความวิตก เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะเก็บทรัพย์สินขึ้นไปอยู่ที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย
นอกจากชาวบ้านที่ปลูกบ้านอยู่ริมฝั่งแล้ว ยังมีผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวมทั้งผู้ประกอบการรีสอร์ตและโฮมสเตย์ ต้องเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน เนื่องจากหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร จะได้รับผลกระทบทันที ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการที่พักบางรายเริ่มได้จัดเตรียมกระสอบทรายเอาไว้แล้ว ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าหากเกิดน้ำท่วมบ้านพักอาศัยจำเป็นต้องทำใจ เพราะมีประสบการณ์มาเกือบทุกปี และที่สำคัญพื้นที่ที่ใช้ปลูกบ้านพักอาศัยนั้น เป็นเขตพื้นที่กันน้ำท่วมของ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ
ทั้งนี้ นายชวลิต กันคำ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 7,548 ล้าน ลบ.ม. 80.14% มากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ระดับน้ำยังคงมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนจากอิทธิพลพายุ ที่ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก
ซึ่งระดับน้ำที่มีอยู่ในตอนนี้จะส่งผลดีต่อการรับมือภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 ที่จะถึงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องขอความร่วมมือประชาชนและเกษตรกรให้ร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด และวางแผนในการเพาะปลูกพืชอายุสั้น ที่ใช้น้ำน้อย เพื่อรับมือภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ สูงขึ้นนั้นทำให้ส่งผลดีสำหรับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวทางน้ำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านท้ายเขื่อนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ที่ปัจจุบันโบสถ์จมน้ำ และหอระฆัง หรือที่นิยมเรียกกันว่าเมืองบาดาล ที่เคยเป็นวัดวังก์วิเวการามเดิม บรรยากาศสวยงามเหมาะสำหรับการนั่งเรือไปชมบรรยากาศโดยรอบเป็นอย่างมาก สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นจุดเช็กอินที่เป็น UNSEEN ของอำเภอสังขละบุรี เลยทีเดียว