xs
xsm
sm
md
lg

ยายพิการหลังค่อมหมดหวังได้เงินคืน หลังเพื่อนบ้านมือฉก ATM ถอนเกลี้ยงบัญชีล่องหน ตร.จ่อหมายจับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์- คืบหน้ายายพิการวัย 80 ชาวบุรีรัมย์ ถูกเพื่อนบ้านฉก ATM แอบกดถอนเงินกว่า 1.5 แสนเกลี้ยงบัญชี หมดหวังได้เงินคืน หลังคนก่อเหตุหายจากบ้านญาติอ้างไปทำงานต่างจังหวัดหาเงินมาใช้คืน ยายเผยเศร้าเป็นเงินจากการหาบเร่ขายขนมเก็บออมไว้ใช้บั้นปลายชีวิตและจัดงานศพตัวเองเมื่อสิ้นลม ไม่อยากให้ลูกเดือดร้อน ตร.เตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุ

วันนี้ ( 24 ม.ค.68) ความคืบหน้ากรณี นางจวน จามมะเริง อายุ 80 ปี พิการหลังค่อม อาศัยอยู่บ้านศิลาชัย ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีอาชีพหาบเร่ขายขนมและกับข้าวถุง ตามสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อเลี้ยงชีพ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากถูกเพื่อนบ้านสุดแสบแอบขโมยบัตร ATM ไปกดถอนเงินที่คุณยายฝากเก็บสะสมวันละ 100 – 200 บาท มานานหลายปี รวมเป็นเงินกว่า 150,000 บาทหายเกลี้ยงบัญชี ได้นำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการถอนเงินออกมากกว่า 10 ครั้ง ภายในระยะเวลาครึ่งเดือนหมดเกลี้ยงบัญชีเหลือ 0 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

นางจวน จามมะเริง อายุ 80 ปี
ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านคุณยายจวน พบคุณยาย เพิ่งจะกลับจากไปเร่ขายขนมและกับข้าว ซึ่งปัจจุบันคุณยาย อาศัยที่บ้านลำพัง เนื่องจากสามีเสียชีวิต ส่วนลูกชายที่มีเพียงคนเดียว ก็มีครอบครัวแล้วและไปทำมาหากินที่ต่างจังหวัด จะมาเยี่ยมแม่เป็นระยะ

คุณยายจวน บอกว่า วันนี้หลังจากขายของเสร็จ ก็ได้นำเงินที่ได้จากการขายของไปฝากที่ธนาคารจำนวน 100 บาท ก็ต้องเริ่มเก็บสะสมใหม่ เพราะไม่รู้ว่าเงินที่เพื่อนบ้านขโมยบัตร ATM ไปถอนจนเกลี้ยงบัญชีจะได้คืนหรือไม่ ซึ่งเงินที่ถูกขโมยถอนไปเป็นเงินที่เก็บออมไว้ใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิตยามเจ็บป่วยและหมดเรี่ยวแรง และหากวันหนึ่งเสียชีวิต ลูกจะได้นำเงินจำนวนนี้จัดงานศพและทำบุญให้กับแม่ เพราะไม่อยากให้ลูกเดือดร้อนหรือเป็นภาระ เพราะลูกเองก็ต้องดิ้นรนทำมาหากินเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะถูกคนที่ไว้ใจแอบขโมยถอนจนเกลี้ยงบัญชี

นางจวน  จามมะเริง  อายุ 80 ปี  พิการหลังค่อม ผู้เสียหาย
ยายจวน บอกอีกว่า ที่ผ่านมาตนจะวานเพื่อนบ้านคนนี้ส่งไปขายของบ้าง หาหมอบ้าง บางครั้งก็ให้พาไปถอนเงินบ้าง ก็จะให้เงินเป็นน้ำใจตอบแทนครั้งละ 50 บาท จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ กระทั่งล่าสุดประมาณ เดือน ต.ค.67 วานให้พาไปโอนเงินให้ลูกชาย โดนให้เพื่อนบ้านคนดังกล่าวเป็นคนใช้บัตร ATM กดโอนให้ลูกชาย 2,000 บาท แต่พอเขาโอนเสร็จก็ไม่ได้คืนบัตร ATM ให้ ตนซึ่งแก่แล้วก็หลงลืมจำไม่ได้ว่าเขาคืนหรือยังไม่คืน


จากนั้นกลับบ้านและใช้ชีวิตตามปกติ ไปเร่ขายของเหมือนเดิม ถ้าวันไหนเหนื่อยไม่สบายไปไม่ไหว ก็จะไม่มีเงินไปฝากธนาคาร กระทั่งเดือน พ.ย.67 ลูกชายกลับมาบ้านตนก็ให้ลูกชายพาไปธนาคารเพื่อจะถอนเงินให้ลูกเป็นค่ารถ แต่หาบัตร ATM ไม่เจอก็คิดว่าทำหาย จึงใช้สมุดบัญชีไปเบิกแทน แต่พอเจ้าหน้าที่ปรับสมุดบัญชีดู กลับพบว่าเงินในบัญชีเหลือ 0 บาท การกดถอนออกมากกว่า 10 ครั้ง ก็ตกใจ

พยายามนึกย้อนหลังว่าใครที่รู้รหัสบัตร ATM บ้าง ก็จะมีแค่ตัวเอง ลูกชาย และเพื่อนบ้านคนดังกล่าวเท่านั้น จึงมั่นใจว่าเป็นเพื่อนบ้านคนนี้จึงได้สอบถามเขาก็ยอมรับว่าแอบขโมยบัตร ATM ไปถอนเงินจริง เพราะเขาติดปั่นสล็อตออนไลน์ ลูกชายจึงพาไปแจ้งความ เขารับปากจะหาเงินมาทยอยคืนแต่ผ่านไปเกือบ 2 เดือน ยังไม่คืนสักบาท ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่


จากนั้นทีมข่าวได้ไปที่บ้านของนายหลุยส์ เพื่อนบ้านคนที่ยอมรับว่าแอบถอนเงินยายไป เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงอีกด้าน แต่ไม่เจอนายหลุยส์ อยู่ที่บ้าน เจอเพียง น.ส.ยุทธนา พี่สาวนายหลุยส์ บอกว่า หลังเกิดเหตุน้องชายก็ไปทำงานกับพี่สาวอีกคนที่ จ.ชลบุรี เพื่อจะหาเงินมาทยอยคืนให้กับคุณยาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองและคนในครอบครัวก็รู้สึกเสียใจ และสงสารคุณยาย เข้าใจว่าเป็นเงินที่คุณยายหามาด้วยความลำบาก

ส่วนตัวในฐานะพี่สาวถ้ามีเงินก็อยากจะช่วยจ่ายคืนให้ แต่ลำพังจะหากินในครอบครัวตัวเองก็ยังไม่พอ ที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะทยอยหาเงินมาคืนให้ยาย แต่ก็ตกลงกันไม่ได้เพราะลูกชายเขาบอกจะเอาเป็นเงินก้อนเลย อย่างไรก็ตามมีตำรวจติดต่อไปตนก็อยากให้น้องมาพบตำรวจ และพูดคุยกับคุณยาย ว่าจะเอายังไง แต่หากน้องหาเงินมาคืนไม่ได้ตามที่รับปาก ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย


ขณะที่นายอุกฤช จงใจงาม ผู้ใหญ่บ้าน ม.15 บ้านศิลาชัย บอกว่า หลังเกิดเหตุคุณยาย กับลูกชายได้มาปรึกษาตนเอง ได้มีการพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายโดยฝั่งผู้ก่อเหตุบอกว่าจะทยอยหาเงินมาจ่ายคืนคุณยายเดือนละ 2,000 – 3,000 บาท โดยงวดแรกจะจ่ายให้คุณยายก่อน 2,000 บาท แต่ฝั่งลูกชายคุณยาย บอกว่าอย่างน้อยงวดแรกก็จะน่าจะเป็นก้อนสัก 50,000 บาท แล้วที่เหลือค่อยทยอยจ่าย แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่มีเงินก้อนให้ สุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้ ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนตัวเห็นใจคุณยาย เพราะกว่าจะได้เงินแต่ละบาทต้องเร่ขายของ ทั้งที่อายุมากแล้ว ส่วนตัวเองก็ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยเท่านั้น แต่หากตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย


ขณะที่พนักงานสอบสวน เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหาย และทำหนังสือขอรายการเบิกถอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย และภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ต้องหากดเงิน และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ผู้ต้องหายังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ตอนนี้อยู่ระหว่างรอครบกำหนดหมายเรียกครั้งที่ 2 และภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคาร จะทำการขออนุมัติศาลออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตามหากใครอยากจะช่วยเหลือคุณยายจวน สามารถบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี นางจวน จามมะเริง เลขที่บัญชี 308-3-29918-4 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบุรีรัมย์ หรืออยากอุดหนุนขนมและกับข้าวของคุณยาย ก็สามารถไปอุดหนุนคุณยายอยู่ที่ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์


กำลังโหลดความคิดเห็น