xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) 3 เจ๊พยานหลักคดีหวย 30 ล้าน "เจ๊เกียว เจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัช" ยันเบิกความตามข้อเท็จจริง "ครูปรีชา" ท่องคาถา "ความจริงคือความจริง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - พยานหลัก 3 เจ๊ฝ่ายครูปรีชา คดีหวย 30 ล้านอลเวง เจ๊เกียว เจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัช ขึ้นศาลคดี "หมวดจรูญ" ฟ้องฐานเบิกความเท็จ ยืนยันเบิกความตามข้อเท็จจริง หวยเป็นของพวกเรา พร้อมสู้ต่อ ด้าน "ครูปรีชา" พูดสั้นๆ “โลกนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นไปตามกรรมของมนุษย์และสัตว์โลก ความจริงก็คือความจริง” ด้านทนายตั้มเผยคดีนี้เรียกค่าเสียหายสูง 10 ล้านบาท

จากกรณีคดีหวย 30 ล้านอลเวง ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อสู้คดีในชั้นศาลกันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2560 นับถอยหลังอีกแค่ 1 เดินจะครบ 7 ปีเต็ม โดยคดีที่ อ.1558/67 กรณี ร.ต.ท.จรูญ ฟ้องครูปรีชากับพวกรวม 10 คน ในข้อหาเบิกความเท็จ ในคดีหลัก วันนี้ (23 ก.ย.67) ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดพร้อมสอบคำให้การ



เมื่อเวล่า 10.00 น.จำเลยจำนวน 10 คน ได้ทยอยเดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ตามที่ศาลนัดเอาไว้เพียงลำพัง ด้าน น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางปณัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว ได้เดินเข้ามาทักทายสื่อมวลชนตามปกติ โดยเจ๊บ้าบิ่น ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้เดินทางมาทำหน้าที่ปกติตามที่ศาลท่านได้นัดเอาไว้ โดยวันนี้เดินทางมากับทนายความส่วนตัว พร้อมบอกว่า ไม่ได้กังวลอะไร ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว


ขณะที่นางปณัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว กล่าวว่า วันนี้เจ๊เกียวเดินทางมาขึ้นศาลเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกที่เดินทางมาคือเมื่อปี 2562 การที่ตนตกเป็นจำเลยในคดีนี้นั้น เจ๊เกียวได้ยื่นประกันตัวไปแล้วเป็นเงิน จำนวน 5 หมื่นบาท ส่วนจำเลยคนอื่นเจ๊เกียวไม่ทราบ แต่ศาลท่านมีเมตตาลดให้แต่ขึ้นอยู่กับสภาพฐานะของจำเลยแต่ละคน ซึ่งไม่ได้รู้สึกกังวล หรือเครียดแต่อย่างใด เพราะเจ๊เกียว พูดเรื่องจริง พยานทุกคนพูดตามความจริงเท่านั้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหน่วยงานที่เชิญพยานไปสอบปากคำ และเราพูดความจริงตามที่เราได้เห็นและได้ยินโดยจะยืนยันเหมือนเดิมว่าหวยเป็นของพวกเราเหมือนเดิม ถามว่าวันนี้เครียดหรือกังวลใจอะไรหรือไม่ เจ๊เกียวตอบว่า ไม่เครียดและไม่กังวล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น.นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ได้เดินออกมาจากศาลเพื่อกลับบ้านพัก กล่าวว่า วันนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดพร้อมฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย ในคดีเบิกความเท็จ ส่วนกรณีที่มีพยานขอถอนตัว จำนวน 3 ราย นั้นเป็นสิทธิส่วนตัวของพยานตามกฎหมาย ซึ่งครูปรีชา ได้กล่าวเป็นคำสุภาษิตขึ้นมาว่า “โลกนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ซึ่งเป็นไปตามกรรมของมนุษย์และสัตว์โลก ความจริงก็คือความจริง” ฉะนั้นเหตุของเรื่องและทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว ครูปรีชา กล่าว

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และนางลาวัลย์ วิมูล หรือป้าลาวัลย์ ภรรยา ได้ออกมาจากศาล โดยนายษิทรา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ศาลได้นัดพร้อมในคดีที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชา พร้อมพวกรวม 10 คนในข้อหาเบิกพยานเท็จ และศาลได้นัดสืบคดีในระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2568


สำหรับจำเลยที่ถูกลุงจรูญฟ้อง จำนวน 3 ราย เป็นแม่ค้าในตลาดได้ออกมาไหว้ขอโทษลุงจรูญ ซึ่งลุงจรูญมีเมตตายกโทษและได้ถอนฟ้องจำเลยทั้ง 3 ไปแล้ว ส่วนจำเลยชื่อนางวาสนา ที่ลุงจรูญถอนฟ้องให้นั้น เคยมีชื่อยื่นฟ้องลุงจรูญมาก่อน โดยนางวาสนา เล่าให้ฟังว่าขณะนั้นตนนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ต่อมาเจ๊เกียวได้นำเอกสารมาให้เซ็น ครั้งแรกนั้นนางวาสนาเข้าใจว่าจะนำมาต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยไม่รู้มาก่อนว่าเอกสารที่ให้เซ็นนั้นเป็นเอกสารที่นำมายื่นฟ้องลุงจรูญ ซึ่งลุงจรูญเข้าใจจึงยอมยกโทษและถอนฟ้องให้

ขณะที่ ร.ต.จรูญ กล่าวว่า จากการที่ได้เจอหน้าครูปรีชา ดูแล้วน่าจะยอมรับสภาพของตนเอง ส่วนการที่ครูปรีชายังมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่นั้น คงเป็นเพราะอยู่ต่อหน้าคนภายนอกที่อยู่หน้าบัลลังก์ แต่ถ้าเห็นหน้าภายในบัลลังก์จะรู้ว่าหน้าจะเป็นคนละสีกันเลย 

ขณะที่อยู่ภายในบัลลังก์ครูปรีชา ได้เข้ามาพูดคุยและสอบถามว่าคดีทุกคดีจะจบอย่างไร ซึ่งลุงได้แต่ยืนฟังอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่พูดตอบโต้แต่อย่างใด ถามว่าหากครูปรีชาต้องการขอโทษจะให้อภัยหรือไม่นั้น เรื่องนี้มันคงจบยาก เพราะผ่านมานานถึง 7 ปีแล้ว แต่จะมาขอโทษเพียงแค่นาทีเดียวมันคงยาก เพราะที่ผ่านมาลุงเคยเปิดโอกาสให้มาแล้วหลายครั้งแต่ครูปรีชาไม่เคยใช้โอกาสนั้นเลย ถามว่าคดีจะจบลงเมื่อไหร่เรื่องนี้ต้องต่อสู้กันต่อไปเพราะผมไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว

ขณะที่นายษิทรา  กล่าวเสริมขึ้นมาว่าเรื่องคดีทุกคดีขณะนี้ลุงสบายใจได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาลุงจรูญชนะมาทุกคดี ส่วนจำเลยคดีฟ้องเท็จหากจำเลยแพ้คดีจะต้องถูกลงโทษจำคุกถึง 7 ปี แต่มีแค่ 2 อย่างคือรอดคุกกับติดคุกมีแค่สองทางเท่านั้นเอง ทางเราไม่มีอะไรจะต้องเสีย ส่วนฝ่ายครูปรีชาจะต้องรับกรรมในสิ่งที่เขาทำเท่านั้นเอง สำหรับคดีนี้เราฟ้องเรียกค่าเสียหายไป จำนวน 10 ล้านบาท หากจำเลยแพ้คดีต้องร่วมกันชดใช้ทุกคน
กำลังโหลดความคิดเห็น