กาญจนบุรี - ศาลจังหวัดกาญจนบุรี พิพากษาคดีลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา และทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความของครูปรีชา ในความผิดฐานร่วมกันฟ้องเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "ลุงจรูญ" เผยพอใจกับคำพิพากษา และขณะนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ใครทำกรรมอะไรเอาไว้ก็ย่อมรับกรรม ด้านทนายษิทรา ขอบคุณศาลในคำตัดสิน รู้สึกหายเหนื่อยหลังสู้กันมานาน ส่วนด้านเจ๊เกียว ขอครูปรีชาอย่าท้อ ให้สู้ๆ
จากกรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีหวย 30 ล้านอลเวง ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เอาคืนด้วยการฟ้องกลับนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา รวม 3 คดี คดีแรก ร.ต.ท.จรูญ ยื่นฟ้อง ครูปรีชา ใคร่ครวญ รวมทั้งนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช คดีหมายเลขดำที่ อ.2185/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ.3355/2561 ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันเบิกความเท็จ”
คดีที่ที่สองหมวดจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา ใคร่ครวญ กับพวกรวม 10 คน คดีหมายเลขดำที่ อ.1558/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2707/2566 ในข้อหา “ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม” ศาลนัดไต่สวนในวันที่ 1 เม.ย.2567
และคดีที่สาม ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว คดีหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.2461/2564 ในข้อหาหรือฐานความผิด "ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา" หลังจากศาลพิจารณาแล้วเสร็จ โดยเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2567 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาฟังคำพิพากษา แต่สุดท้ายต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 20 มี.ค.2567 เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนส่งคำพิพากษาไปยังอธิบดีตรวจคำพิพากษาให้แล้วเสร็จก่อน
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (20 มี.ค.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2461/2564 ในข้อหาหรือฐานความผิด "ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา" กรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว
โดยครั้งนี้นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง โดยมีทนายความคนใหม่ร่วมเดินทางมาด้วย ขณะที่นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ที่ปัจจุบันไม่ได้เป็นทนายความให้ครูปรีชาแล้ว เมื่อมาถึงได้เดินเข้าไปภายในศาลทันที ส่วนนายปรีชา ใคร่ครวญ ยังคงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตามปกติ โดยที่สีหน้าไม่มีความกังวลใดๆ พร้อมกับกล่าวว่าความจริงก็คือความจริง
เวลาไล่เลี่ยกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ก็เดินทางมาถึงศาล โดยมีนางลาวัลย์ วิมูล (ภรรยา ร.ต.ท.จรูญ ) ลูกสาวและญาติจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ
ศาลจังหวัดกาญจนบุรีใช้เวลาอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นประมาณ 45 นาทีก็แล้วเสร็จ โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม รวมทั้ง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เดินออกมาจากศาลเพื่อมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
ทั้งนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ให้ความเป็นธรรมกับทางคุณลุงจรูญ อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณลุงจรูญ ต้องลำบากเพราะว่าครูปรีชา กับพรรคพวกมาฟ้องลุงจรูญในหลายเรื่อง และวันนี้เป็นคดีแรกที่เราได้มีการฟ้องกลับครูปรีชา ซึ่งวันนี้ศาลได้มีคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุกครูปรีชา 3 ปี แต่เนื่องจากว่าคำให้การของครูปรีชาบางอย่างพอมีประโยชน์อยู่บ้างศาลท่านจึงลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี
ที่จริงแล้วคดีแบบนี้ศาลสามารถมีคำสั่งให้รอลงอาญาได้ แต่คดีนี้ศาลไม่รอลงอาญาให้ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากการกระทำของครูปรีชานั้นมีลักษณะทำเป็นขบวนการ เป็นสาเหตุทำให้ความยุติธรรมเกิดความเสียหาย ท่านจึงตัดสินจำคุกครูปรีชา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา
ตอนนี้ครูปรีชา ถูกใส่กุญแจมือแล้วนำตัวลงไปที่ห้องควบคุมตัวใต้ถุนศาล ซึ่งต้องรอลุ้นทำเรื่องการประกันตัวว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ ถ้าเกิดศาลพิจารณาแล้วไม่ให้ประกันตัว ครูปรีชาต้องเข้าเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรีในวันนี้เลย ผมที่ไปปลูกมาก็ต้องโกน
ส่วนกรณีของนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความของครูปรีชาที่ถูกฟ้องไปด้วยนั้น ศาลท่านมองข้อเท็จจริงทุกสิ่งทุกอย่างที่ทนายความดำเนินการได้มาจากครูปรีชา ทนายความได้ทำเพียงแค่เรียงคำฟ้อง ตามที่ครูปรีชาบอกเท่านั้นเอง ศาลจึงยกฟ้องทนายวรยุทธ
จากการสังเกตหลังจากที่ครูปรีชา ทราบคำพิพากษาดูแล้วเครียด โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดตั้งแต่ตอนที่ศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว เพราะว่าศาลท่านอ่านย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่คดีเก่าที่มีคำพิพากษา และมีพยานต่างๆ มาเบิกความที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ขัดกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแนวโน้มมันออกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วเพราะว่าคดีหลักที่เราได้มีการสู้คดีกันไป ศาลได้นำมาเป็นหลักฐานสำคัญและเขียนลงในคำพิพากษาทุกคำ
ถามว่าหลังจากศาลพิพากษาจำคุกครูปรีชา มีญาติของครูปรีชามายื่นประกันตัวหรือไม่ นายษิทรา ตอบว่า เบื้องต้นไม่ทราบว่าญาติของครูปรีชามีใครมาบ้าง แต่วันนี้มีทนายคนใหม่มาด้วยอีก 1 คน เพราะครูปรีชาไม่ได้ใช้ทนายวรยุทธมานานแล้ว
หลังจากที่ศาลพิพากษาในวันนี้ยังคงเหลืออยู่อีก 2 คดี ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของพยาน คดีแรกเกี่ยวกับเรื่องการเบิกความเท็จ ที่มีการอายัดเงินของคุณลุงจรูญ คดีนี้มีครูปรีชา รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และเจพัช รวม 3 คนเป็นจำเลย อีกหนึ่งคดีคือคดีที่ลุงจรูญฟ้องนั้น เป็นพยานที่มีจำนวนมากอาจจะถึงครึ่งตลาดเรดซิตี้ก็เป็นได้ ซึ่งพยานเหล่านี้มาให้การในลักษณะที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เราจึงต้องดำเนินคดีให้หมด เพราะมาเบิกความเป็นพยานเท็จ ซึ่งทั้งสองคดีที่เหลือจะต้องทำการไต่สวนมูลฟ้องก่อน
ส่วนกรณีคดีที่ฟ้องเกี่ยวกับการอายัดเงินลุงจรูญนั้น ครูปรีชาได้ยอมรับสารภาพไปแล้ว แต่เราต้องสืบพยานอยู่ดีเพราะว่าเจ๊พัชกับเจ๊บ้าบิ่น เขายังสู้คดีอยู่ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าวันนี้ตน และลุงจรูญรู้สึกหายเหนื่อย เพราะสู้กับครอบครัวคุณลุงจรูญมานานหลายปี เวลาที่มาทำคดี ตนได้ไปนอนบ้านคุณลุงจรูญและคุณป้าลาวัลย์ก็ทำกับข้าวให้กิน กับทีมทนายมาโดยตลอด
"หลังจากนี้ครูปรีชาคงจะให้ทนายความยื่นเรื่องเพื่อขอประกันตัว คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 บาท จากนั้นคงจะยื่นอุทธรณ์เพื่อให้ศาลเมตรตาพิจารณาให้รอลงอาญา” ทนายตั้ม กล่าว
ด้านลุงจรูญ กล่าวว่า หลังจากมีคำพิพากษาออกมาขณะนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ และรู้สึกพอใจกับคำพิพากษา ถามว่าถึงตรงนี้แล้วอยากจะพูดอะไรฝากไปถึงครูปรีชาหรือไม่นั้น คงไม่มี แต่ขอบอกว่าใครทำกรรมอะไรเอาไว้ก็ย่อมรับกรรมกันไปเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งความก็คือความจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศที่ตลาดเรดซิตี้ ค่อนข้างเงียบเหงา โดยพบว่ามีแผงขายลอตเตอรี่อยู่เพียงแค่ 2 แผง ซึ่ง 1ในนั้นมีนางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว พยานคนสำคัญของ นายปรีชา ใคร่ครวญ คู่กรณีของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อยู่ด้วย ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปพบเพื่อสอบถามถึงความรู้สึกกรณีศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกครูปรีชา โดยไม่รอลงอาญา
โดยเจ๊เกียว ตอบว่าเรื่องนี้ตนเพิ่งรู้จากสื่อมวลชนว่าครูปรีชาถูกศาลพิพากษาจำคุก ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลท่าน เจ๊เกียวไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่เจ๊เกียวรู้สึกแปลกใจในประเด็นที่ว่าแม่ค้าเขาขายหวยให้ใครเขาก็ยืนยันมาโดยตลอด แต่อีกฝ่ายหนึ่งไปซื้อลอตเตอรี่มาจากใครก็ยังจำไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เจ๊เกียวรู้สึกแปลกใจ เพราะแม่ค้ายังยืนยันอยู่ว่าเขาขายหวยให้กับใคร
ส่วนการที่ศาลพิพากษาออกมาในลักษณะนี้ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจครูปรีชา ที่เห็นใจก็เพราะว่าหวยนั้นเป็นของครูปรีชา แต่เรื่องกลับมาเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้จะไปโทษอะไร ก็ขอให้ครูปรีชาสู้ๆ และอย่าท้อ ขอให้มีสติกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
ส่วนคดีของเจ๊เกียวที่ถูกฟ้องในข้อหาให้การเท็จนั้น เจ๊เกียวก็จะตั้งทนายขึ้นมาเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งพยานทุกคนต่างก็ตั้งทนายเพื่อต่อสู้กันทุกคน เพราะพวกเรามองว่าพยานไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับใคร ซึ่งครูปรีชาก็ไม่ใช่ญาติกับพยาน ฝ่ายครอบครัวของหมวดจรูญก็ไม่ใช่ศัตรูของพยาน ตำรวจแต่ละหน่วยมาเชิญพยานไปให้ปากคำ ซึ่งพยานทุกคนพูดตามความจริงตามที่ได้เห็นกับได้ยินเท่านั้น
เจ๊เกียวถามว่าในเมื่อทุกคนเป็นพลเมืองดี เจ้าหน้าที่ที่เอาเขาไปแต่ต้องมาทำให้พยานเดือดร้อน คุณคิดว่าเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยแต่ละฝ่ายจะต้องทำอย่างไร