สมุทรสงคราม - สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม เป็นห่วง “พริกบางช้าง” จะสูญหายไป จัดโครงการอนุรักษ์และขยายพันธุ์พริกบางช้างขึ้นเพื่อให้พริกบางช้างคงอยู่ในพื้นถิ่นดั้งเดิมตลอดไป ขณะที่เกษตรกรแห่ลงทะเบียนขอรับกว่า 4 หมื่นต้น
นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงครามกล่าวถึง “พริกบางช้าง” ว่าเป็นพริกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อาหารชาววังสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ส่วนใหญ่จะใช้พริกบางช้างเป็นส่วนประกอบ เพราะมีกลิ่นหอม สีสวยสดชวนรับประทาน อีกทั้งไม่เผ็ดมาก ส่วนประวัติและความเป็นมาของพริกบางช้างนั้น เป็นพืชที่ปลูกอยู่ในแถบทวีปแอฟริกา และได้เข้ามาในประเทศไทยสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อมีการค้าขายกับชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะโปรตุเกสและฮอลลันดา พริกพันธุ์นี้จึงแพร่เข้ามาใน จ.สมุทรสงคราม พบครั้งแรกที่ ต.บางช้าง อ.อัมพวา จึงเรียกพริกพันธุ์นี้ว่า "พริกพันธุ์บางช้าง" ตามชื่อตำบลที่พบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พริกบางช้างได้หายไปจากท้องตลาดนับสิบปี สาเหตุที่เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่นิยมปลูก ต่างให้เหตุผลคล้ายกันว่า พริกบางช้างดูแลรักษายากกว่าพริกทั่วไป ด้วยเหตุนี้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงเป็นห่วงว่าพริกบางช้างจะสูญพันธุ์ จึงมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวบรวมพริกบางช้างจากหลายพื้นที่ ทั้งใน จ.สมุทรสงคราม นครปฐม และราชบุรี ตั้งแต่ปี 2525 แล้วนำมาคัดเลือกเพื่อทดสอบจนได้ต้นพันธุ์พริกบางช้างที่มีคุณภาพดีกลับคืนมาอีกครั้งและปลูกได้ตลอดปี เหมาะที่จะนำไปใช้ได้ทั้งพริกสด พริกแห้งในการประกอบอาหาร และในอุตสาหกรรมน้ำพริกแกงสำเร็จรูป
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม และผู้บริหารกรมส่งเสริมการเกษตมีความเป็นห่วงเกรงว่าพริกบางช้างจะหายไปอีก จึงได้จัดโครงการอนุรักษ์และขยายพันธุ์พริกบางช้างขึ้นเพื่อให้พริกคงอยู่ในพื้นถิ่นดั้งเดิมตลอดต่อไป จึงประสานและได้รับการสนับสนุนต้นพันธุ์พริกบางช้างที่ได้รับรองพันธุ์แท้ DNA 100% โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเพาะพันธุ์โดยศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 9 จ.สุพรรณบุรี จำนวน 5,500 ต้น มาแจกผู้สนใจนำไปปลูกคนละ 10 ต้น เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 ปรากฏว่ามีผู้สนใจทั้งในและนอกพื้นที่จากจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ขับรถมาขอรับกันมากกว่าต้นพริกที่เตรียมไว้ จนต้องขอลดเหลือแจกคนละ 2 ต้น แต่ยังไม่ทั่วถึงจึงให้ลงชื่อความต้องการไว้อีกกว่า 4 หมื่นต้น ซึ่งสำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม จะประสานศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 9 จ.สุพรรณบุรี และกรมส่งเสริมการเกษตร จัดสรรงบประมาณมาเพาะพันธุ์พริกบางช้างเพื่อแจกอีกในรุ่นต่อไปเร็วๆ นี้
ส่วนพริกบางช้างที่ทุกท่านได้รับแจกไปแล้ว นายประสิทธิ์ บอกว่า ขอให้นำไปอนุบาลในถุงดำขนาด 4-6 นิ้วในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไรก่อน พร้อมกับเด็ดยอดยาวประมาณ 1 นิ้วทิ้งเพื่อลำต้นจะได้แตกกิ่งเป็นพุ่ม และเมื่อปลูกได้ประมาณ 60 วัน พริกบางช้างจะออกดอกชุดแรก ให้เด็ดดอกทิ้งทั้งหมดเพื่อให้รากส่งอาหารไปเลี้ยงลำต้นให้สมบูรณ์เต็มที่ หากไม่เด็ดทิ้ง พริกจะให้ผลผลิตน้อยและลำต้นจะไม่โตเท่าที่ควร
จากนั้นประมาณ 90 วัน พริกบางช้างจะออกดอกชุดที่ 2 ให้ปล่อยติดผลได้เลย อย่างไรก็ตาม ต้นพริกบางช้างมีอายุขัยประมาณ 150 วัน หรือ 5 เดือน เมื่อต้นใกล้ตายให้นำเมล็ดแก่สีแดงไปเพาะพันธุ์ต่อ ที่ต้องระวังคือพริกบางช้างมีความอ่อนแอต่อโรคพอสมควร ดังนั้นเมื่อปลูกแล้วให้หมั่นตรวจดูลำต้นและใบว่าถูกแมลงรบกวนหรือไม่ หากพบโรคหรือแมลงรบกวนให้ติดต่อสอบถามขอคำปรึกษาวิธีกำจัดได้ที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ถนนเอกชัย ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงครามโทรศัพท์ 0-3471-1711 หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งที่ใกล้บ้านก็ได้
