พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบขบวนการยาเสพติดรูปแบบใหม่ รับจ้างหิ้วยาเสพติดออกนอกประเทศพร้อมของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด เผยมูลค่าส่งออกสูงขึ้นนับ 10 เท่าตัว
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ห้องประชุม ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ “สอ ลำลูกกา” ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีที่ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผล ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สืบสวนติดตามผู้ค้ายาเสพติดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วพบว่ามีการรับยาเสพติดมาจากเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม จนกระทั่งทราบว่า มีการนำยาเสพติดไปเก็บไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณคลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ต่อมา ในวันที่ 19 ก.ย.2567 เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ชื่อนายชัยวุฒิ หรือแบงค์ อายุ 28 ปี เป็นชาว ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ด ที่ถูกแพกไว้ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ เตรียมส่งให้แก่ลูกค้า เพื่อนำจำหน่ายต่อที่ต่างประเทศ และพบว่า ผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการประสานความร่วมมือ ระหว่างตำรวจชายแดน กับตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีข้อมูลว่ามียาเสพติดจากประเทศไทยทะลักออกไปในต่างประเทศ โดยลักษณะการขนใส่กระเป๋าเดินทางโดยจะมีทีมขน จนเรามีการเฝ้าระวังและหาข่าวสืบสวนจนทราบว่ามีแก๊งอยู่แก๊งหนึ่งมีการนำกระเป๋าเดินทางบรรจุยาเสพติดเพื่อเตรียมส่ง ซึ่งยังไม่บอกว่าจะส่งออกไปไหน
แต่ในขณะนี้สืบทราบว่า ยาเสพติดจากไทยทะลักออกชายแดนในหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือถือใส่กระเป๋า แล้วลากออกนอกประเทศ วันนี้ตำรวจ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสืบภาค 1 และกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ไปจับได้ที่คลองหก พบว่าผู้ต้องหาไปรับกระเป๋าและรับยามา โดยบรรจุเรียบร้อยแล้วเตรียมไปส่ง จำนวน 2 แสนเม็ดในเซฟ ยังพบค่าจ้างจำนวน 25,000 บาท และยาเคอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหม่ เมื่อก่อนยาเสพติดจะลงจากภาคเหนือ ภาคต่างๆ มาพักยาในพื้นที่และกระจายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่อันนี้พักยาเสร็จจะแพกใส่กระเป๋าแล้วส่งนอก ซึ่งเป็นรูปแบบการค้าขายยาในอีกหนึ่งช่องทาง เพราะยา 2 แสนเม็ดถ้าหลุดรอดออกไปจะต้องมีคนเดือดร้อนอีกเท่าไหร่ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ น่าจะไปประเทศกัมพูชา มาเลเซีย แต่ว่าจะออกไปทางไหนต้องว่ากันอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำการสืบสวน มูลค่ายาเสพติดจะเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ถ้าประเมินเมืองไทย 2 แสนเม็ด เม็ดละ 10 บาท ประมาณ 2 ล้าน แต่ถ้าส่งออกจะเพิ่มมูลค่าเป็น 100 บาท จะสูงถึง 20 ล้านบาท