ลพบุรี - ปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางเป็นประธานวันสถาปนาศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร ครบรอบ 45 ปี ศููนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ค่ายจิรวิชิตสงคราม ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานในการประกอบพิธีสงฆ์ เนื่องในวันสถาปนาศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร ครบรอบปีที่ 45 ของการก่อตั้งหน่วย ณ กองบัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ค่ายจิรวิชิตสงคราม ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
ทั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงาน กำลังพล ครอบครัว ตลอดจนอุทิศส่วนกุศลให้แก่กำลังพลของหน่วยที่ได้เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติในสมรภูมิต่างๆ ทั่วประเทศในอดีตที่ผ่านมา โดยมี พล.ท.ปวริศ ปั้นทอง เป็นผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ท่านปัจจุบัน
ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ถือกำนิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2518 ซึ่งขณะนั้นกองทัพบกต้องประสบปัญหาการขาดแคลนอาวุธและกระสุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสหรัฐอเมริกาลดการช่วยเหลือทางทหาร ประกอบกับกองทัพมีภารกิจสำคัญในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ดังนั้น พล.ต.สัมผัส พาสนยงภิญโญ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ในขณะนั้น จึงได้ริเริ่มออกแบบและสร้างต้นแบบปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร และเครื่องยิงลูกระเบิดขนาดต่างๆ ขึ้นใช้เองจนได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชาชั้นสูง กองทัพบกจึงได้อนุมัติงบประมาณ ทำการก่อสร้างอาคารโรงงาน พร้อมทั้งจัดหาเครื่องจักรกล และเครื่องมือสำหรับการสร้างต้นแบบที่สมบูรณ์ เพื่อนำเข้าสู่สายการผลิตในปีพุทธศักราช 2521 เรียกว่า โรงงานต้นแบบการวิจัยพัฒนาอาวุธ
โดยฝากการบังคับบัญชาไว้กับศูนย์การทหารปืนใหญ่ ต่อมา กองทัพบกเห็นความสำคัญในการผลิตอาวุธขึ้นใช้เอง จึงอนุมัติให้จัดตั้งโรงงานสร้างปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด กองบัญชาการ และโรงงานผลิตกระสุนปืนใหญ่และลูกระเบิดยิงขึ้นตามลำดับ เพื่อเป็นหลักประกันในความมั่นคงด้านการทหารที่สามารถพึ่งตนเองได้ในภาวะไม่ปกติ เพื่อลดการสูญเสียงบประมาณให้แก่ต่างประเทศให้มากที่สุด ในการที่จะต้องจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศตลอดจนเพื่อเป็นแหล่งหารายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง หากอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธได้พัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยพัฒนาและผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2543 ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO 9001 จากสถาบัน RWTUV ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นการรับรองในเรื่องการออกแบบ การวิจัย การผลิต การติดตั้ง และการให้บริการ โดยมีนโยบายคุณภาพ ดังนี้ "เทคโนโลยีทันสมัย พัฒนาก้าวไกล วิจัยสร้างสรรค์ บริหารเป็นระบบ"
ในปีพุทธศักราช 2545 ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธได้รับการปรับโอนจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เป็นหน่วยขึ้นตรงศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ตามแผนการปฏิรูปกระทรวงกลาโหม และการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพไทย และให้ใช้ชื่อว่า ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ตั้งแต่พุทธศักราช 2545 เป็นต้นมา