ศูนย์ข่าวศรีราชา - สช. ร่วม กขป.6 จัดโครงการพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารสุขภาวะในสถาบันการศึกษาภาคตะวันออก พร้อมจัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือหวังสร้างนักเรียน นักศึกษาให้สามารถผลิตเครื่องมือการสื่อสารที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่
วันนี้ (7 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเรื่อง การพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารสุขภาวะในสถาบันการศึกษาภาคตะวันออก ณ ห้องประชุม The Ballroom ชั้น 6 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เป็นประธานในพิธี
และมีนายประชา เตรัตน์ ประธานกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ 6 รศ.ดร.สุชาดา พงศ์กิตติวิบูลย์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นายภูริพัฒน์ แก้วตาธนวัฒนา คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผศ.ดร.สุเทพ อุสาหะ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี ผศ.ดร.สุรกิจ ทองสุก รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ นางฐาณิษา สุขเกษม ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสร้างสรรค์ภาคตะวันออก และนายแพทย์ปรีดา แต้อารักษ์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ คณาจารย์และนักศึกษากว่า 100 คนเข้าร่วม
โดยโครงการพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารสุขภาวะในสถาบันการศึกษาภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการสื่อสารด้านสุขภาวะของนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ให้สามารถผลิตเครื่องมือการสื่อสารรูปแบบใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในสถาบันการศึกษาและชุมชนรอบสถาบันได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้จัดมาตั้งแต่วันที่ 5-7 ก.ย.2567
นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เผยว่า สช. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพการสื่อสารด้านสุขภาวะในสถาบันการศึกษา เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาและนโยบายด้านสุขภาวะในประเด็นต่างๆ ที่เกิดผลกระทบกับตนเองและสังคม
เช่น ประเด็นสิ่งแวดล้อมในพื้นที่และชุมชนของตนเอง ปัญหาเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เป็นผลกระทบด้านสุขภาวะ เช่น กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สังคมสูงวัย สิทธิการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ ความหลากหลายทางเพศ ความมั่นคงทางอาหาร และสุขภาวะทางจิตเพื่อสังคมไทยไร้ความรุนแรง
ขณะที่มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมบันทึกข้อตกลง ยังจะได้นำความรู้ความเข้าใจที่ได้จากโครงการไปผลิตเครื่องมือสื่อสารด้านสุขภาวะได้อย่างถูกต้อง และสามารถสื่อสารสร้างการรับรู้ในประเด็นต่างๆ ทั้งในสถาบันการศึกษาและพื้นที่รอบสถาบันการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป