หนองคาย - เขื่อนห้วยหลวง ณ ประตูระบายน้ำห้วยหลวง โพนพิสัย หนองคาย จุดรับน้ำสุดท้ายก่อนลงน้ำโขง เตรียมรับมวลน้ำที่ปล่อยออกมาช่วง 4-7 ก.ย.นี้ คาดไม่กระทบประชาชนในพื้นที่ เหตุระดับน้ำโขงลดต่อเนื่อง ระบายตัวได้ดี เบื้องต้นมีพื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 5,000 ไร่
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี เป็นวันแรกที่เขื่อนห้วยหลวงจะระบายน้ำออกจากเขื่อน ช่วงระหว่างวันที่ 4-7 ก.ย.นี้ ซึ่งเขื่อนห้วยหลวงจะปล่อยน้ำทำให้น้ำไหลไปตามลำห้วยหลวงในหลายพื้นที่ทั้ง อ.เมืองอุดรธานี อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ไหลเข้าพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งจะมีประตูระบายน้ำห้วยหลวงเป็นจุดควบคุมน้ำจุดสุดท้าย ซึ่งทางเขื่อนห้วยหลวงมีการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ใกล้ลำห้วยหลวงและลำน้ำสาขา เก็บของมีค่าขึ้นที่สูงและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
นายวาที สีแสนตอ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 ประตูระบายน้ำห้วยหลวง ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โครงการชลประทานหนองคาย กล่าวว่า มวลน้ำที่จะถูกปล่อยออกจากเขื่อนห้วยหลวงจะเป็นลักษณะขั้นบันได คือ 0.5 ล้านลูกบาศก์เมตร 1 ล้านลูกบาศก์เมตร 2 ล้านลูกบาศก์เมตร และ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ตอนนี้ทำการยกบานประตูทั้ง 3 บาน 6 ช่อง เพื่อรองรับน้ำมวลบนที่จะไหลมาที่หนองคาย โดยจะสามารถรับได้ที่ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
น้ำที่ไหลมาจะไม่มีผลมากนัก มีเพียงการระบายน้ำได้ช้าลงจากปกติเท่านั้น ขณะนี้น้ำโขงมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ส่วนน้ำห้วยหลวงหน้าประตูระบายน้ำกับระดับน้ำโขง ห่างกันที่ 35 เซนติเมตร เป็นการระบายได้ดีไม่น่าเป็นห่วง จากการประเมินสถานการณ์ระดับน้ำในลำห้วยหลวงจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 เซนติเมตรจากจุดที่อยู่ในตอนนี้ เมื่อระบายน้ำได้ดี จึงไม่น่าวิตกประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก แค่เฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่คอยผลักน้ำลงสู่แม่น้ำโขง น้ำจากเขื่อนห้วยหลวงจะไหลมาถึงโพนพิสัยหนองคายใช้เวลา 3 วัน จากระยะทางน้ำ 230 กิโลเมตร
ขณะเดียวกัน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหลายวันต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรในตำบลนาหนัง และตำบลชุมช้าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ระดับน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ซึ่งต้นข้าวถูกน้ำท่วมนานเกิน 3 วัน เน่าตายหมดแล้ว บางจุดน้ำท่วมถนน รถยนต์เล็กต้องใช้ความระมัดระวัง ซึ่งเกษตรจังหวัดหนองคายได้ออกสำรวจความเสียหาย ให้การช่วยเหลือประชาชนในลำดับต่อไป