มหาสารคาม - “แมงป่อง” หรือ “แมงเงา” สัตว์มีพิษ กลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังนิยมเลี้ยงแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อว่ามีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ส.ท.ตั๋ง แห่งเทศบาลตำบลเชียงยืน มหาสารคาม เป็นอีกคนหนึ่งที่ทำฟาร์มเลี้ยงแมงป่องเป็นอาชีพเสริม ส่งขายลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ แต่ละเดือนสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท
"แมงป่องช้าง" หรือภาษาอีสานเรียกว่า “แมงเงา” เป็นสัตว์มีพิษ โดยพิษจะอยู่ที่ปล้องสุดท้ายของหาง หากถูกพิษแมงเงา จะมีอาการปวด แต่พิษก็ไม่ได้รุนแรงทำอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่ง แมงป่อง ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจอีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามอง เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งใน และต่างประทศ ปัจจุบันการเลี้ยงแมงป่องเชิงพาณิชย์เริ่มแพร่หลายพอสมควร
นายยรรยง ฤทธิ์ทรงเมือง หรือ ส.ท.ตั๋ง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เล่าว่า ได้เลี้ยงแมงป่องช้างเมื่อ 3-4 ปีก่อน เริ่มจากเงินทุน 300 บาท ซื้อแมงป่องช้าง หรือแมงเงา มาจากชาวบ้านที่ไปขุดหามาจากป่า โดยทดลองเลี้ยงในวงท่อบ้าง ในโอ่งบ้าง ก่อนที่จะรู้จักพฤติกรรมของเขามากขึ้น จึงได้ใช้พื้นที่บริเวณข้างบ้านต่อเติมเป็นโรงเรือน ทำคอกด้วยปูนซีเมนต์ ขนาดความกว้าง 1.5 เมตร ยาว 3 เมตร สูง 60 ซม. มีบ่อเลี้ยงอยู่ราว 20 บ่อ แมงป่องช้างเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบแสง ช่วงกลางวัน จะหลบอยู่ใต้ใบไม้ ต้องหาวัสดุมาคลุมไม่ให้ถูกแสง ปล่อยจิ้งหรีด ซึ่งเป็นอาหารของแมงป่องไว้ในบ่อ แมงป่องจะออกจากที่ซ่อนมากินจิ้งหรีดในตอนกลางคืน
ในบ่อจะนำดินมาใส่ไว้ ทำบรรยากาศให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพราะแมงป่องสามารถขุดลงไปอาศัยอยู่ใต้ดินได้ นำใบไม้แห้งมาโรย วางไม้ไผ่ผ่าครึ่ง หรือวางแผงไข่เอาไว้ เพื่อเอาไว้เป็นที่หลบซ่อนตัวของแมงป่อง ที่สำคัญ ควรวางจอมปลวกเอาไว้ในบ่อด้วยให้ปลวกสร้างรังใหม่ขึ้นมา แมงป่องก็จะได้จับปลวกกิน เป็นห่วงโซ่อาหารของเขา ส่วนที่ขอบบนของบ่อก็จะติดสกอตเทปเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้แมงป่องปีนออกมาได้
แต่ละบ่อจะมีแมงป่องประมาณ 200 ตัว ปล่อยจิ้งหรีดไว้ประมาณครึ่งกิโลกรัม หมั่นคอยสังเกต หากจิ้งหรีดเหลือน้อยก็ค่อยๆ ทยอยเติมลงไป ส่วนน้ำ ก็ต้องใส่ไว้ในถาดที่แบนเพื่อให้แมงป่องสามารถลงมากินน้ำได้ นอกจากนี้ยังต้องคอยสังเกตว่าในบ่อมีตัวแมงป่องที่ตายหรือไม่ หากตายแล้วให้รีบเอาออก เพราะไม่อย่างนั้นก็จะทำให้เกิดกลิ่น
ภาพรวมการเลี้ยงแมงป่องช้าง หรือแมงเงานั้นไม่ยุ่งยาก แต่ศัตรูที่สำคัญของแมงป่องที่ใครๆ ไม่คาดคิดก็คือ “มด” ที่จะมากินซากแมงป่องที่ตายแล้วในบ่อ ถ้ามดกินซากไม่พอ ก็จะมารุมกัดแมงป่องที่มีชีวิต ทำให้ต้องหมั่นสำรวจบ่อว่ามีมดหรือไม่
แมงป่องออกลูกเป็นตัว ครั้งละประมาณ 20-28 ตัว ลูกแมงป่องจะลอกคราบบนหลังแม่ 1 ครั้ง และภายใน 1 ปีจะลอกคราบอีก 2 ครั้ง ถึงจะสามารถขายเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ การจับควรที่จะใช้ที่คีบ แต่หากชำนาญก็สามารถจับด้วยมือได้ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้แมงป่องตกใจ หากแมงป่องตกใจก็อาจต่อยเราได้
แมงป่องสามารถจับขายได้ทุกไซส์ คือ เล็ก กลาง และใหญ่ ราคาจะอยู่ที่ตัวละ 10-30 บาท จะส่งขายให้ลูกค้าประจำ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากลุ่มร้านแมลงทอดในจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี อยุธยา และเชียงใหม่ เป็นต้น ส่วนลูกค้าจากต่างประเทศก็จะมีทั้งจีน และเวียดนาม หากมีออเดอร์เข้ามาก็พร้อมที่จะส่งสินค้าให้ สำหรับลูกค้าในประเทศ จะคัดแมงป่องใส่ถุงตาข่ายเอาไว้ ถุงละ 100 ตัว ราคาก็จะอยู่ที่ถุงละ 1,000-3,000 บาท แล้วแต่ขนาด ก่อนที่จะไปน็อก และแช่แข็ง นำส่งขนส่งรถห้องเย็นให้ลูกค้า นอกจากจะมีแมงป่องช้างแล้ว บางช่วงก็จะมีตะขาบส่งขายให้ลูกค้าด้วย ขึ้นอยู่กับออเดอร์ของลูกค้าที่จะสั่งเข้ามา รายได้ในแต่ละเดือนประมาณหลักหมื่นบาทขึ้น
ทั้งนี้ หากสนใจหรืออยากเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ก็สามารถสอบถามได้ที่ 08-3458-3683 หรือติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ตั๋ง Scorpion King บ้านฤทธิ์ทรงเมือง ฟาร์มแมงป่องช้าง
