ชัยนาท - “ภูมิธรรม” ชี้ถึงเวลาคุยสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น แก้ปัญหาลำน้ำยม หลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
วันนี้ (31 ส.ค.) เวลา 15.50 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปที่สนามเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อตรวจและติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา
โดยรองนายกรัฐมนตรี และคณะได้รับฟังรายงานสรุปสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จากนายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ตรงจุดประตูเรือท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพียงจุดเดียว โดยได้ยกเลิกการประชุมแนวทางบริหารจัดการน้ำ ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12 ตามกำหนดการเดิม
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ เมื่อเวลา 17.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นเป็น 1,434 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท มีปริมาณ 1,593 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยา 194 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเพิ่มระบายน้ำท้ายเขื่อนเป็น 1,399 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้น 36 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 12.46 เมตร(รทก.) ต่ำกว่าตลิ่ง 3.88 เมตร
หลังติดตามสถานการณ์น้ำ นายภูมิธรรม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ โดยตอนหนึ่งได้พูดถึงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า สําหรับสุโขทัยซึ่งเป็นจังหวัดที่น่าเห็นใจ ถึงเวลาที่ต้องมาคุยเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้นกันอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาทําอะไรไม่ได้ สร้างอะไรไม่ได้เพราะยังมีความเห็นที่แตกต่าง สองฝ่ายระหว่างพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทุกข์ร้อนกับสภาพนี้ต้องจมอยู่กับน้ำหลากน้ำขังอยู่ เป็นปัญหาที่ยาวนาน
แต่ขณะเดียวกัน มันมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสภาพแวดล้อมเรื่องอะไรต่างๆ เราเข้าใจความแตกต่างนี้แต่คิดว่าไม่มีสิ่งใดทําได้และทําได้อย่างเดียวมันควรจะต้องคํานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วดูแลการจัดการทั้งหมดให้มีครบถ้วน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้เป็นประเด็นสาธารณะที่จะพิจารณา และคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอย่างเห็นถ่องแท้ ได้มีการประสานงานกับทางเวิลด์แบงก์ ซึ่งเขาขอเข้ามาศึกษา เราจะให้เวิลด์แบงก์ไปศึกษาผลกระทบต่างๆ แล้วอยากจะลงไปถึงตัวพี่น้องประชาชนที่อยู่ในจุดที่เผชิญภัยทั้งหมด
โดยอยากให้สื่อมวลชนได้ไปดูตรงนี้ว่าพี่น้องประชาชนทุกข์ร้อนจริงหรือเปล่า เขาเจออย่างนี้มากี่สิบปีแล้ว แล้วปัญหาเคยมีอะไรที่เยียวยาให้เขาได้หรือเปล่า แล้วดูสิ่งที่ยังขาดตกบกพร่องแล้วยังไม่อยากให้เห็นการทําเขื่อนเกิดขึ้น มีอยู่อย่างไรมีเหตุผลมีจํานวนอยู่เท่าไหร่ ตนคิดว่าถ้าเป็นปัญหาทางกายภาพปัญหาในการจัดการดูแลปัญหาในการชดเชยเยียวยา สามารถทําให้เป็นธรรมกับพวกเขาได้ โดยไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถ้าตรงนี้เป็นที่ยุติสําหรับสาธารณะโดยเร็วที่สุด ตนอยากให้เกิดขึ้นภายในปีนี้ ถ้าสามารถจัดการจบได้ใน ครม. สามารถสร้างได้เลยเพราะต้องใช้เวลาสร้างอีกหลายปี แล้วเงินที่จะใช้แก้ปัญหามันจะแก้อยู่ในระบบที่จะสามารถจัดการได้อย่างเต็มที่
