“กัน จอมพลัง” พาภรรยาจ่าพั้นซ์ติดตามคดีที่ สภ.หัวหิน หลังถูก กต.ตร.สภ.หัวหิน ยิงดับคาผับ ญาติหวั่นคดีไม่คืบ

ประจวบคีรีขันธ์ - กัน จอมพลัง พาภรรยาจ่าพั้นซ์ ไปติดตามความคืบหน้าคดีที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน ด้านรองผู้การประจวบฯ ชี้แจงล่าสุดสอบปากคำพยานและผู้บาดเจ็บไปแล้ว 13 ปาก ส่วนกรณีเมมโมรีของกล้องวงจรปิดนั้น พนักงานสอบสวนสั่งให้คนดูแลผับขึ้นไปเอาลงมาเอง

วันนี้ (22 ส.ค.) กัน จอมพลัง พร้อมด้วย น.ส.บัวบูชา โรจน์ชนะภานิจ ภรรยาจ่าพั้นซ์ จ.ส.อ.โรจนภณ โรจน์พานิช ทหารค่ายธนะรัชต์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตในผับ TINY ซอยหัวหิน 80 เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปสถานีตำรวจภูธรหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีนี้

เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุ คือ นายจักรกฤษ หรือเซน เคยเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน เป็นผู้มีอิทธิพล รวมทั้งภายหลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน และได้ประกันตัวในชั้นศาล โดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน 5 แสนบาท

วันนี้ กัน จอมพลัง และน้องชา ภรรยาจ่าพั้นซ์ ซึ่งสวมเสื้อยืดสีขาว ที่ด้านหน้าสกรีนภาพถ่ายของจ่าพั้นซ์ โดยได้เข้าพบ พ.ต.อ.กิตติเทพ ชมภูนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีนี้ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม สภ.หัวหิน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.หัวหิน และ พ.ต.ต.สุรพงษ์ ประทุมวัน สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหัวหิน นายทหารผู้แทนจากค่ายธนะรัชต์ นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน

พ.ต.อ.กิตติเทพ ชมภูนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าคดีนี้ ภายหลังเกิดเหตุและผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ได้ทำการตรวจคราบเขม่าดินปืน ตรวจอาวุธปืน และเสื้อผ้าของ นายจักกฤษ หรือเซน ซึ่งนายเซนได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง คดีนี้พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว แต่การประกันตัวอยู่ในดุลพินิจของศาล ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำพยาน และผู้บาดเจ็บไปแล้วทั้งสิ้น 13 ราย

ทั้งนี้ หากพบว่า นายเซน มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน สามารถยื่นถอนการประกันตัวได้ ขณะนี้ได้เร่งรัดสรุปสำนวนคดี ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ

ส่วนกรณีที่มีการถอดกล้องวงจรปิดหน้าทางเข้าผับ TINY ในวันเกิดเหตุนั้น พนักงานสอบสวนได้สั่งให้คนดูแลผับปีนขึ้นไปถอดเอาเมมโมรีของกล้องเพื่อนำภาพลงมาตรวจสอบ ซึ่งภาพว่าในเมมโมรีไม่มีภาพ จึงได้ส่งเมมโมรีดังกล่าวไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจดูว่ามีการลบภาพหรือไม่ ในส่วนของกล้องวงจรปิดมีทั้งหมด 4 จุด ด้านหน้า 2 จุด ข้างใน 2 จุด เป็นกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพบนคลาวด์ ไม่มีเมมโมรีหรือเซิร์ฟเวอร์ เปิดดูได้จากมือถือของเจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านแจ้งว่า เพิ่งติดตั้งใหม่ เนื่องจากมีภาพคมชัดกว่า แต่การสมัครคลาวด์ยังไม่สำเร็จ

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยืนยันว่า จากการตรวจสอบ TINY ผับ ไม่มีหุ้นส่วนเป็นตำรวจ เจ้าของเป็นบุคคลทั่วไป ในส่วนของผู้บาดเจ็บนั้น ตำรวจไม่ได้เพิกเฉย แต่ขณะนั้นผู้บาดเจ็บยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ตอนนี้เข้าไปสอบปากคำแล้ว ยืนยันว่าคดีมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน

รวมทั้งผู้ก่อเหตุออกมายอมรับด้วยตนเองด้วย พยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ โดยคดีนี้มีอัตราโทษสูงสุดอยู่ที่ประหารชีวิต แต่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งอัตราโทษขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล
ในส่วนของสถานบันเทิงผับ TINY ที่เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และเป็นสถานบันเทิงที่ไม่ได้รับอนุญาต ในเรื่องนี้อยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงนามในคำสั่งให้ปิดกิจการ 5 ปี

โดยปลัดอำเภอหัวหิน เปิดเผยว่า สถานบันเทิงผับTINY เคยถูกร้องเรียนเรื่องเสียงดังเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม และอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อมูลการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน

ด้าน น้องชา ภรรยาจ่าพั้นซ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ กัน จอมพลัง พามาพบตำรวจชุดคลี่คลายคดี ก็รู้สึกดีขึ้นอุ่นใจขึ้น

กัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้มาพบตำรวจมาหาคำตอบที่ยังเป็นข้อสงสัยในหลายประเด็น เช่น เรื่องอาวุธปืน ที่นายเซน อ้างนิทานขึ้นมาเล่า วันนี้ได้คำตอบว่า คดีนี้เจออาวุธปืนแค่เพียง 1 กระบอก ผู้เสียชีวิตไม่มีอาวุธปืน คนมือเปล่า กับคนมีปืน จะป้องกันตัวหรือคุยกันก็ลำบาก วันนี้หลังจากพูดคุยกัน ทางครอบครัวสบายในมากขึ้น แต่เรื่องนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง วันนี้ตำรวจมีการขยายผล ตรวจค้นอาวุธปืนที่บ้านนายเซนอีก เห็นถึงความจริงใจในการทำงานของตำรวจ ทางตำรวจก็ยืนยันดำเนินการในทุกส่วนไม่มีการอ่อนข้อให้ ในส่วนของประวัติ นายเซน ที่มีขุดคุ้ยว่า เคยก่อเหตุลักษณะคล้ายกันมาก่อนแต่ไม่ถูกดำเนินคดีนั้น ตรวจสอบไม่พบประวัติอาชญากรรม ซึ่งในเรื่องนี้อาจจะเป็นการคุยโม้โอ้อวดกันเอง

ขณะเดียวกัน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอหัวหิน ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนว่าผับดังกล่าวตอนต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีเสียงดัง และเปิดเกินเวลาแต่อยู่ระหว่างการสืบสวนเพราะการจะเข้าไปต้องระวังเพราะทางอำเภอหัวหิน ดำเนินการกับผับที่ผิดกฎหมายตลอดเวลา ส่วนกรณีผับดังกล่าวนั้นมาเกิดขึ้นเสียก่อน ซึ่งทางอำเภอหัวหิน มีภารกิจเยอะในช่วงเดือนสิงหาคม