ผู้ว่าฯ สั่งเร่งแก้ปัญหาช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต “บ้านหุบปลากั้ง”

ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบฯ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหาช้างป่าทำร้ายชาวบ้านหุบปลากั้ง เป็นรายที่ 3 ในรอบปีนี้ ล่าสุด รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ พร้อม ทสจ. อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อุทยานแก่งกระจาน ลงพื้นที่บ้านหุบปลากั้ง พร้อมถกปัญหาหา

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยว่า ได้สั่งการให้ นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมการหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่า ในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เร่งด่วน เนื่องจากเกิดกรณีช้างป่าแก่งกระจาน ที่อาศัยหากินอยู่บริเวณหมู่ 5 บ้านหุบปลากั้ง ได้ทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิตในช่วงกลางคืน ซึ่งในรอบปีนี้ หมู่บ้านแห่งนี้มีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตมา 3 รายแล้ว และทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความหวาดกลัวและเกรงไม่ปลอดภัยในการสัญจร จึงเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ และต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วน จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประชุมลงพื้นที่ดูสภาพของบ้านหุบปลากั้งว่าสภาพพื้นที่เป็นอย่างไร เพื่อเร่งหาแนวทางป้องกันแก้ปัญหาดังกล่าว

วานนี้ (24 ส.ค.) มอบหมายให้นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมการหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ โดยมีนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ศูนย์ประสานงานโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ปลัดอำเภอหัวหิน สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (wcs) ประเทศไทย คณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างป่า เข้าร่วมประชุมและลงพื้นที่บริเวณบ้านหุบปลากั้ง ซึ่งเป็นจุดที่ช้างป่าอาศัยอยู่เกิดเหตุทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต ณ ปัจจุบัน 3 ราย

นายคมกริช กล่าวภายหลังลงพื้นที่บ้านหุบปลากั้ง ซึ่งข้อมูลพบว่าบริเวณนี้มีโขลงช้างป่า อาศัยยู่ทั้งฝั่งเขาหุบปลากั้ง และฝั่งเขาของป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งบริเวณเขาลูกดังกล่าว ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และชาวบ้านแจ้งว่า เป็นที่อยู่อาศัยของโขลงช้างป่า กลางวันหลบอยู่ในนี้ ส่วนกลางคืนลงมาหากิน บริเวณริมถนน 2 ข้างทางเข้าหมู่บ้าน และเป็นจุดอับ ถึงแม้จะมีไฟตามทางก็ตาม แต่โอกาสชาวบ้านที่ขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ออกมาหรือเดินในเวลาค่ำคืนอาจเจอช้างป่าในระยะกระชั้นชิด ดังนั้น ในที่ประชุมลงความเห็นว่า 1.จุดนี้ต้องทำการปรับพื้นที่บนเขาดังกล่าวซึ่งมีพุ่มไม้ต้นไม้ขนาดเล็กให้มองดูโปร่งเพื่อไม่ให้ช้างเข้ามาอาศัยอยู่

โดยหากปรับแล้วทางอุทยานฯ แก่งกระจาน เชื่อว่าช้างน่าจะเคลื่อนที่กลับเข้าช่องทางเดิมป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีกด้านหนึ่งเข้าไป 2.ให้ทางอุทยานแห่งชาติใช้อากาศยานไร้คนขับบินสำรวจพื้นที่ 3 จุดที่พบว่ามีโขลงช้างป่าอาศัยอยู่บริเวณบ้านหุบปากั้ง ทั้งบริเวณเขาหุบปลากั้ง บริเวณหลังวัดป่าเฉลิมพร และทางเข้าอ่างหุบปลากั้ง ก่อนเข้าดำเนินการปรับพื้นที่ โดยจะสรุปแผนการเข้าดำเนินการเร่งด่วนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบในวันพรุ่งนี้

รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่รับผิดชอบติดตามดูกล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ เพื่อจะได้ทราบว่ามีช้างป่าเข้ามาหมู่บ้าน ต้องติดตามตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเครือข่ายไปยัง 11 หมู่บ้านที่ตั้งขึ้น ทั้งแจ้งผ่านทางโทรศัพท์ และระบบกลุ่มไลน์ให้ ตชด. ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อบต.ได้แจ้งเตือนให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบเพื่อระวัง ถือว่าเป็นเป็นส่วนสำคัญลดการสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สินและพืชไร่ และสิ่งสำคัญคือไม่อยากให้เกิดกรณีช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตขึ้นอีก

ด้านนายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตสร้างความหวดกลัวให้ชาวบ้านหุบปลากั้งเป็นอย่างมาก โดยบริเวณรอบหมู่บ้านหุบปลากั้ง จากข้อมูลพบว่าเป็นที่อยู่อาศัยของโขลงช้างป่าแก่งกระจาน ที่มาอาศัยหากินอยู่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีความสมบูรณ์ทั้งอาหาร และแหล่งน้ำ โดยช้างป่าจะออกมาจากแนวป่าเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และออกมาในช่วงกลางคืนและจะกลับเข้าป่าไปเป็นลักษณะเช่นนี้ และหมู่บ้านหุบปลากั้งต้องบอกว่าเป็นจุดอันตรายหรือจุดเสี่ยง ดังนั้น จึงต้องร่วมกันบูรณาการป้องกันในพื้นที่จุดนี้เป็นจุดแรก ซึ่งทั้ง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และหน่วยงานต่างๆมีความพร้อมอยู่แล้ว

ป้ากำพร้า หุ่นชื่น อายุ 66 ปี ชาวบ้านหุบปลากั้ง ยอมรับว่า ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวอย่างมากกับปัญหาช้างป่า นับวันมีการสูญเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเนื่องจากมีบ้านพักอาศัย ทำพืชผลทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์อยู่ที่นี่มานานแล้ว ซึ่งจุดที่ตาพล เสียชีวิตล่าสุดจุดนั้นช้างป่าออกมาเยอะ เมื่อคืนส่งเสียงร้องกัน ชาวบ้านไม่ค่อยได้นอน ต้องเฝ้าไร่และทรัพย์สินกั บางวัน 6 โมงถึง 7 โมงเช้า ช้างยังเดินอยู่บนถนน เด็กๆ ไปโรงเรียนพ่อแม่ต้องตามไปส่งไปรับกัน ปัญหาช้างป่ามีนานมาแล้วแต่ยังแก้ไม่ได้