พระนครศรีอยุธยา - สทบ.เดินหน้ากิจกรรมกองทุนหมู่บ้านพื้นที่ภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มศักยภาพครัวเรือนผ่านกองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
วันนี้ (19 ส.ค.) สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ได้จัดกิจกรรม “กองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” และการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ภาคกลาง โดยมีนายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุเนตร วังกานต์ ประธานกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ภาคกลาง และนายประกาศิต ตั้งสกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขาเขต 13 ที่เดอะฮอลล์ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า การจัดกิจกรรม "กองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน" และการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัญหาหนี้นอกระบบเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ครัวเรือนไม่สามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ต่อยอดความสำเร็จจากการประชุมเชิงปฏิบัติการตั้งแต่ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้
โดยภาคกลางนับเป็นครั้งสุดท้ายของการจัดกิจกรรม เน้นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในพื้นที่ภาคกลาง ผ่านการอบรมและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางการเงิน การประกอบอาชีพหลักและอาชีพเสริม เพื่อลดภาระหนี้นอกระบบที่สะท้อนปมปัญหาต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้ครัวเรือนมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
กองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เป็นนโยบายของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้ชุมชนทั่วประเทศให้สามารถจัดการปัญหาภายในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครัวเรือน โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของการจัดงานในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อขยายการสร้างชุมชนต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการจัดการปัญหาเศรษฐกิจและสังคมในระดับท้องถิ่น อันจะเป็นการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันกองทุนได้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2544 และก้าวสู่ปีที่ 23 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ที่มีเป้าหมายการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ทั้งในด้านกฎหมาย ระบบบัญชีการเงิน พัฒนาธุรกิจ และเทคโนโลยี รวมถึงความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ ผ่านการร่วมกันคิด ร่วมกันทำด้วยความสุจริต ที่ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ เช่น การเสวนาในหัวข้อ “สถานการณ์และการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน” และ หัวข้อ “ไขกลยุทธ์ สู่อิสระทางการเงิน โดยกองทุนหมู่บ้านต้นแบบ” โดยผู้แทนสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น คุณอาจิน จุ้งลก ที่ปรึกษาโครงการและประธานมูลนิธิเพื่อการปฏิรูปสิทธิลูกหนี้ คุณอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนาศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามหนี้นอกระบบ และอำนวยความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และผู้เชี่ยวชาญด้านการให้สินเชื่อ
นอกจากนี้ ยังมีการออกบูทจากกองทุนต่างๆ เพื่อให้บริการคำปรึกษาแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ บูทคลินิกแก้หนี้ บูทจากสถาบันการเงินต่างๆ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร และธนาคารออมสิน และยังมีโซนการจัดนิทรรศการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความสำเร็จของการดำเนินการของกองทุนตลอด 22 ปีที่ผ่านมา