เชียงราย - รอง ผบ.ตร.ยกคณะเปิดห้องประชุมหารือลาวร่วมปราบ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์คิงส์โรมัน" ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลังลุยตัดสัญญาณเน็ต-ปิดเบอร์มือถือแล้วกว่า 2,000,000 เลขหมาย ขณะที่ สปป.ลาวขีดเส้น 25 สิงหาฯ หากพบโดนปราบหนัก
วันนี้ (15 ส.ค.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) ตร.มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผช.ผบ.ตร.เดินทางไปประชุมบูรณาการร่วมหน่วยงานความมั่นคงชายแดน แก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไทย-สปป.ลาว-เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ที่ห้องประชุม สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย
การประชุมครั้งนี้ นอกจากจะมีนายตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฝ่ายปกครอง ทหาร คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ฯลฯ เข้าร่วมแล้ว ยังมีท่านคำเพ็ง กุมพัน หัวหน้าห้องวาการเมืองต้นผึ้ง ท่านบุญถี ยัดทะวง รองหัวหน้ากองบัญชาการ ปกส.(ตำรวจ) เมืองต้นผึ้ง ท่านอุ่นเรือน วิไซพัน หัวหน้าห้องการเทคโนโลยีและการสื่อสารเมืองต้นผึ้ง และท่านดาวเพ็ด วันมะแสง หัวหน้าหน่วยงานประสานชายแดนเมืองต้นผึ้ง เข้าร่วมด้วย
ที่ประชุมมีการหารือเรื่องเดียวคือ การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง ร่วมกัน และมีมติร่วม 2 ข้อ คือ 1. ทางการ สปป.ลาวจะไม่ยินยอมให้มีแก๊งคอลเซ็นเตอ์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำโดยเด็ดขาด โดยหลังจากวันที่ 25 ส.ค.เป็นต้นไปหากพบการลักลอบตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมถึงคนไทยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของ สปป.ลาว อย่างเข้มงวด
และ 2. เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องจึงจะมีการศึกษาและกำหนดแนวทางในการตั้ง "คณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามเขตแนวชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว" ซึ่งในส่วนของฝ่ายไทย พล.ต.ท.ธัชชัยได้มอบหมายให้ตำรวจไซเบอร์และ ภ.5 ดำเนินการ โดยหากมีการแจ้งความดำเนินคดีในฝ่ายไทยก็จะมีการแจ้งข้อมูลต่อให้กับคณะกรรมการฯ ถ้าเป็นคนไทยก็นำมาลงโทษในประเทศไทยหรือหากมีหมายจับก็จะควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ธัชชัยกล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีเพียงเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เรื่องเดียว เพราะถือเป็นปัญหาใหม่สำหรับการพูดคุยหารือกันระหว่างประเทศ เพราะเราต้องการความมั่นใจว่าต่อไปนี้จะต้องไม่มีพื้นที่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนและมาหลอกลวงคนไทยอีก
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยได้มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผลก็คือมีการใช้สัญญาณโทรศัพท์จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น จนเกิดการใช้โทรศัพท์ที่มีหมายเลขจำนวนมากโทร.หาคนไทย แสดงให้เห็นว่าแก๊งนี้ทำไม่ได้เหมือนเดิม และในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแก๊งที่ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชาหลบหนีเข้ามายังฝั่งไทยที่ จ.ชลบุรี ซึ่งก็ถูกตำรวจไทยจับกุมดำเนินคดีได้แล้วที่ อ.ศรีราชา
รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงปลายเดือน ก.ค. 2567 ศปอส.ตร.ร่วมกับ กสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ-ตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบส่งสัญญาณให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือมากกว่า 2 ล้านเลขหมาย ระงับการส่งสัญญาณโทรคมนาคมและถอดสายสัญญาณ-อุปกรณ์ (ล้มเสา) จำนวน 179 จุด ใน 11 อำเภอ 9 จังหวัด รวมถึงสามเหลี่ยมทองคำด้วย โดยเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "ระเบิดสะพานโจร" กระทั่งร่วมมือกับทางการ สปป.ลาว เพื่อหวังจะปราบปรามอย่างเด็ดขาด