xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) น่าสะพรึง! ไม่ถึงปีภาค 5 จับยา 188 ล้านเม็ด ล่าสุดแกะรอยแก๊ง“ม้งป๋อลี”สกัดยานรกร่วม 14 ล้านเม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ไม่ถึงปี ภาค 5 สกัดยาบ้าได้ถึง 188 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 1.6 ตัน ไม่รวมเคตามีน เฮโรอีน ฝิ่น อีกอื้อ ยึดทรัพย์แล้วกว่า 2,000 ล้าน..ล่าสุด ผบ.ตร.-ผบช.ภ.5 แถลงผลการระดมชุดสืบ-สรรพกำลังทุกหน่วย พร้อมงัด AI สนับสนุนแกะรอยเครือข่ายม้งป๋อลี สกัดได้อีก 3 ล็อต เกือบ 14 ล้านเม็ด



วันนี้ (15 ส.ค.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ก.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ทหาร นบ.ยส.35 ฝ่ายปกครองเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง และ ป.ป.ส.ภาค 5 แถลงผลการจับกุมและตรวจยึดคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ยึดของกลางยาบ้า 3 ล็อต รวมทั้งสิ้นถึง 13,980,000 เม็ด

จากการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดของ นายป๋อลี หรือนายบุญชัย แซ่มัว ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ซึ่งเป็นกลุ่มม้งใช้พื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา, อ.เทิง และ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เป็นแหล่งพื้นที่พักยาเสพติด เพื่อรอการลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้ใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีในการสืบสวน รวมถึงการประสานการทำงานร่วมกันเป็นทีมงาน ระหว่างกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัด ทั้ง 8 แห่งในสังกัด รวมถึงการเฝ้าระวัง ณ ด่านตรวจ/จุดตรวจยาเสพติด โดยมีการนำระบบเทคโนโลยี AI และกล้องที่ติดตั้งในจุดต่างๆ มาร่วมในการวิเคราะห์ ติดตามเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้

คดีแรก ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยจะใช้รถยนต์ในการลำเลียงจากเชียงรายเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้สืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมาย กระทั่ง 13 ส.ค. 67 พบรถยนต์คันที่กำหนดไว้เป็นเป้าหมายการสืบสวน 3 คัน ได้ขับออกจากเชียงราย จึงได้เฝ้าติดตามโดยแบ่งหน้าที่สะกดรอยจำนวน 3 ชุด

วันที่ 14 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 23.54 น. รถยนต์เป้าหมาย รถนำคันที่ 1 ขับมาถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกตรวจค้น ซึ่งไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ปล่อยรถไป ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามรถยนต์อีก 2 คัน ว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันกลับรถที่จุดกลับรถบ้านท่าชุม ก่อนถึงด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ประมาณ 3 กม.


เมื่อนำกำลังเข้าตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 2 คัน พบรถอีซูซุ สีขาว จอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าข้างถนนหลโยธิน บ้านท่าชุม ม.2 ต.พระบาทวังตวง ส่วนคนขับหลบหนีไป ตรวจสอบภายในรถ พบกระสอบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะ 25 กระสอบ รวมยาบ้าจำนวน 5,000,0000 เม็ด และรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา รถนำคันที่ 2 บริเวณข้างถนนพหลโยธิน บ้านท่าชุม ม.2.ต.พระบาทวังตวง จอดห่างกันประมาณ 1 กม. ตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถนำคันที่ 1 จนสามารถจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจแม่สลิด ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ก่อนสืบสวนหาข่าว กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. วันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะสี่ประตูมีโครงหลังคา ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน งย 4193 เชียงใหม่ ตรงกันกับที่ได้รับแจ้ง ขับมาตามถนนสายหลังอำเภอ หมู่ 2 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย จึงได้ร่วมกันติดตามและสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้

พบนายวีรพล เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นพบบรรทุกยาบ้ามาในห้องโดยสาร 17 กระสอบ ท้ายกระบะอีก 18 กระสอบ รวมทั้งหมด 35 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 8,750,000 เม็ด จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ ดำเนินคดี


คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดที่ซุกช่อนอยู่ในพัสดุ ณ ศูนย์กระจายสินค้าบริษัทขนส่งเอกชนสาขาเชียงใหม่ จำนวน 120,000 เม็ด ได้ทำการตรวจยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบพบว่ายังมีพัสดุที่มีผู้ส่งเป็นบุคคลคนเดียวกัน คือนายนิพนธ์ ที่อยู่ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ถูกส่งไปยังปลายทางผู้รับชื่อนายฮาริส ตามที่อยู่ปลายทาง ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบพัสดุหมายเลขดังกล่าวอยู่ที่โกดังบริษัทขนส่งสาขาสันทราย ตรวจสอบพบพัสดุบรรจุยาบ้าอีก 110,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้ ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค. 66-13 ส.ค. 67 ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมและตรวจยึดยาเสพติด ทั้งสิ้น 21,927 คดี เป็นคดีรายสำคัญ 179 คดี ยึดยาบ้า 188 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,687 กก. เคตามีน 52 กก. เฮโรอีน 291 กก. ฝิ่น 253 กก. ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าประมาณ 2,049 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น