xs
xsm
sm
md
lg

เขื่อนแม่กลองลดการระบาย พร้อมแจ้งเตือนประชาชน 3 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำเร่งขนย้ายของ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรึ - เขื่อนแม่กลองลดการระบายน้ำ จาก 1,166 ลบ.ม./วินาที เหลือ 735 ลบ.ม./วินาที พร้อมแจ้งเตือนประชาชน 3 จังหวัดที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำให้ขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินขึ้นที่สูงเพื่อลดความเสียหาย
 
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ข้อมูลวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ดังนี้
 
1.สถานการณ์สาธารณภัยเกิดเหตุน้ำบ่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์รวมถึงพื้นที่และทรัพย์สินทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี และอำเภอไทรโยค โดยเมื่อวันที่ 25-29กรกฎาคม 2567 เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินสไลด์ สาเหตุเกิดจากร่องมรสุมและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านภาคเหนือเขื่อนวชิราลงกรณลดการระบายน้ำจาก 13.84 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันไม่มีการะบายน้ำจากเขื่อน
 
2.สถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย อำเภอทองผาภูมิ ตำบลท่าขนุน น้ำท่วมถนนหน้า นพค.11 สาย 323 ความสูงของน้ำประมาณ 30 ซม. ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ อำเภอสังขละบุรี ตำบลไลโว่ หมู่ที่ 1 น้ำท่วมพื้นที่นาข้าว ประมาณ 40 ไร่ ตำบลปรังเผล บ้านวังขยาย น้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ได้รับผลกระทบจำนวน 100 หลังคาเรือน และมีดินสไลด์บนถนสาย 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) ช่วงทางโค้ง ก่อนถึงน้ำตกเกริงกะเวีย ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
 
อำเภอไทรโยค ตำบลท่าเสา หมู่ที่ 3 น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนท่าน้ำบ้านปากแซง ระดับน้ำสูง 4 เมตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอไทรโยค เข้าทำการตัดกระแสไฟฟ้า มีผู้ประสบอุทกภัยรวม 17 หลังคาเรือน และทำการอพยพผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์อพยพวัดน้ำตก ตำบลท่าเสา เป็นการชั่วคราว ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ
 
อำเภอเมืองกาญจนบุรี มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมีมวลน้ำจากทางอำเภอไทรโยค และอำเภอทองผาภูมิ ไหลลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้น โดยสถานการณ์ในพื้นพื้นที่ ตำบลบ้านเก่า ระดับน้ำเพิ่มขึ้น บริเวณหมู่ที่ 1, 3, 8, 9 และ 13 น้ำไหลเข้าท่วมสถานประกอบการโรงแรมรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่ม
 
ตำบลหนองหญ้า ระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1-1.5 เมตร ยังไม่ล้นตลิ่ง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ ตำบลเกาะสำโรง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1-1.5 เมตร ยังไม่ล้นตลิ่ง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ ตำบลวังเย็น หมู่ที่ 3 น้ำเอ่อท่วมบ้านจำนวน 1 หลัง
 
อำเภอศรีสวัสดิ์ ตำบลนาสวน มีน้ำบ่าไหลหลาก ประกอบกับมีต้นไม้ล้ม เศษหินและเศษดินสไลด์กีดขวางการจราจร หมวดการทางศรีสวัสดิ์ได้นำเครื่องจักรปรับพื้นที่ ตำบลแม่กระบุง บ้านปากเหมือง (ห้วยแม่ขมิ้น) ถนนภายในหมู่บ้านได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม
 
ด้านการดำเนินการและการให้ความช่วยเหลือ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอไทรโยค นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอสังขละบุรี นายอำเภอศรีสวัสดิ์ หน่วยทหารในพื้นที่ แขวงทางหลวงกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกาญจนบุรี จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขนย้ายสิ่งของไปศูนย์อพยพ สำรวจความเสียหาย มอบถุงยังชีพ จัดตั้งโรงครัวที่วัดน้ำตก ตำบลท่าเสา อ.ไทรโยค เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตัดต้นไม้และดำเนินการแก้ไขสิ่งกีดขวางทางถนนเพื่อให้การสัญจรมีความปลอดภัย
 
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ อำเภอศรีสวัสดิ์ มีถนนได้รับความเสียหาย บ้านปากเหมือง (ห้วยแม่ขมิ้น) ตำบลแม่กระบุง ส่วนอำเภอทองผาภูมิ  อำเภอสังขละบุรี และอำเภอไทรโยค ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
 
ซึ่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งเตือนและเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี นำรถประกอบอาหารที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี เข้าดำเนินการ
 
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 13 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า สำนักงานชลประทานที่ 13 ได้รายงานสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำแม่กลอง ถึงสาเหตุการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีเนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ อ.สังขละ ทองผาภูมิ และไทรโยค ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.67 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย เป็นจำนวนมาก เกิดอุทกภัยระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยล้นตลิ่ง
 
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากมีฝนตกลงอย่างต่อเนื่องท้ายเขื่อนวชิราลงกรณ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่แควน้อยสูงกว่าตลิ่ง เอ่อล้นเข้าท่วม ต.ท่าเสา และ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค มีผู้ประสบอุทกภัยเป็นพื้นที่ชุมชนประมาณ 30 หลังคาเรือน รีสอร์ต 13 แห่ง และหน่วยงานราชการ จังหวัดอำเภอ ท้องถิ่น และภาคส่วนต่างๆ ได้อพยพผู้ประสบอุทกภัยไปศูนย์อพยพวัดน้ำตก ต.ท่าเสา เป็นการชั่วคราว ปัจจุบันระดับน้ำแควน้อยลดลงอย่างต่อเนื่อง
 
แนวโน้มและการคาดการณ์ ข้อมูลสถานีวัดน้ำของกรมชลประทาน ปริมาณน้ำและระดับในแม่น้ำแควน้อย มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณฝนที่ตกลดลง การให้ความช่วยเหลือ สำนักงานชลประทานที่ 13 มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ดำเนินการประสานการกับหน่วยราชการต่างๆ จังหวัดอำเภอ ท้องถิ่น และภาคส่วนต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือ พร้อมเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ประกอบด้วยรถขุด รถตัก รถบรรทุกน้ำ รวม 20 คัน เรือกำจัดวัชพืช 2 ลำ  และเครื่องสูบน้ำอีก 91 เครื่อง
 
ในส่วนของการระบายน้ำท้ายเขื่อนแม่กลอง สำนักงานชลประทานที่ 13 ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบ จากอุทกภัยในพื้นที่ตอนบน เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ระบายน้ำผ่านเขื่อนแม่กลองจำนวน 1,166 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนวันนี้ (30 ก.ค.)ระบายน้ำลดลงเหลือ 735 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 13 ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนแม่กลอง ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม ให้แจ้งประชาชนที่มีที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้ขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพื่อลดความเสียหายจากการระบายน้ำที่เพิ่มมากขึ้น และขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
ด้านนายสกล อักษรธนาวัฒน์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า ทางเขื่อนวชิราลงกรณมีการสื่อสารข้อมูลสถานการณ์น้ำให้หน่วยงานในพื้นที่ได้รับทราบทั้งในที่ประชุมจังหวัด ที่ประชุมอำเภอ รวมถึงส่งข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ให้กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเฉพาะผู้ประกอบการตามลำน้ำ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน และขอเน้นย้ำให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ตามแนวริมแม่น้ำแควติดตามสถานการณ์น้ำจากช่องทางการสื่อสารของเขื่อนและกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด
 
หรือหากมีข้อสงสัย หรือได้รับข่าวต่างๆ ที่ผิดปกติ โปรดสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรงที่ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ หมายเลข 0-2436-8739 หรือ 0-3459-9077 ต่อ 3110, 3111 และติดตามเหตุการณ์ทางกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงที่ vrkdam.egat.co.thหรือ http://water.egat.co.th/และ Application : EGAT ONE ได้ทั้งระบบ IOS และ Android สำหรับลำน้ำแม่น้ำแควน้อยจากเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ ไปถึงอำเภอไทรโยค มีระยะทาง 120 กิโลเมตร และไปถึง อ.เมืองกาญจนบุรี ระยะทาง 250 กิโลเมตร








กำลังโหลดความคิดเห็น