กาญจนบุรี - ปภ.สรุปสถานการณ์อุทกภัย จ.กาญจน์ น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินสไลด์ ทางเขื่อนวชิราลงกรณได้ลดการระบายน้ำจาก 13.84 ล้าน ลบ.ม. แต่ปัจจุบันไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณแล้ว ส่วนโลกโซเชียลสามัคคีโพสต์ภาพสถานการณ์ช่วยประชาสัมพันธ์
วันนี้ (27 ก.ค.) นายชำนาญ แตงจุด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับ สถานการณ์สาธารณภัยเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์ รวมถึงพื้นที่ และทรัพย์สินทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี และอำเภอไทรโยค ที่เกิดขึ้นระหว่างที่ 25-26 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินสไลด์ ทางเขื่อนวชิราลงกรณได้ลดการระบายน้ำจาก 13.84 ล้าน ลบ.ม. แต่ปัจจุบันไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณแล้ว
ส่วนสถานที่เกิดเหตุที่สร้างความเสียหาย ประกอบด้วย อำเภอทองผาภูมิ น้ำท่วมถนนหน้า นพค. 11 ความสูงของน้ำประมาณ 30 ซม. ปัจจุบันระดับน้ำลดลงและรถยนต์สามารถสัญจรได้ตามปกติ อำเภอสังขละบุรี น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร หมู่ที่ 1 ต.ไล่โว่ ประมาณ 40 ไร่ (นาข้าว) และได้รับรายงานว่า มีดินสไลด์บนถนนสาย 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) ช่วงทางโค้ง ก่อนถึงน้ำตกเกริงกะเวีย เมื่อเวลาประมาณ 10.40 น. ในพื้นที่ตำบลปรังเผล บ้านวังขยาย มีน้ำท่วมประมาณ 100 หลังคาเรือน สูงประมาณ 30 เซนติเมตร ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
อำเภอไทรโยค น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนท่าน้ำบ้านปากแซง หมู่ที่ 3 ตำบลท่าเสา ปัจจุบันระดับน้ำสูงเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอไทรโยค เข้าทำการตัดกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้มีผู้ประสบอุทกภัยรวม 17 หลังคาเรือน และอพยพผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์อพยพวัดน้ำตก ตำบลท่าเสา เป็นการชั่วคราว ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
อำเภอเมืองกาญจนบุรี มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมีมวลน้ำจากทางอำเภอไทรโยคและอำเภอทองผาภูมิ ไหลลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้น โดยสถานการณ์พื้นที่หมู่ 1 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1.5 เมตร น้ำไหลเข้าท่วมสถานประกอบการโรงแรมรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ส่วนพื้นที่ตำบลหนองหญ้า และตำบลเกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี ระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1-1.5 เมตร แต่ยังไม่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน แต่มีน้ำขัง จากปริมาณน้ำฝนเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชน และมีกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ไหลหลาก
ด้านการดำเนินการและการให้ความช่วยเหลือ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ พร้อมด้วยนายอำเภอไทรโยค นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอสังขละบุรี หน่วยทหารในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกาญจนบุรี จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขนย้ายสิ่งของไปยังศูนย์อพยพ สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือมอบถุงยังชีพ และจัดตั้งโรงครัวที่วัดน้ำตก ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยคเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยจะเริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค.)
แนวโน้มสถานการณ์ อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอสังขละบุรี ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ส่วนอำเภอไทรโยค และอำเภอเมืองกาญจนบุรี ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนและเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งเตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นจะเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และจะทำการจัดตั้งศูนย์อพยพ และโรงครัวประกอบอาหารเลี้ยงผู้อพยพที่วัดน้ำตก ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจทางโลกโซเชียลพบมีการนำภาพสถานการณ์น้ำท่วมมาโพสต์ประชาสัมพันธ์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น เจ้าของเฟซชื่อ “โรส เริงวัย ศิริเพ็ญ” บรรยายว่า ถ้าน้ำขึ้นอีก 1-2 เมตร สะพาน อบต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จมเเน่ ฝั่งหนองขอนอาจถุกตัดขาดจากลุ่มผึ้ง ส่วนเจ้าของเฟซบุ๊ก “เพ็ชรมงคล โตเอี่ยม” ระบุว่า สะพานบ้านเก่า-ลำทราย มวลน้ำเยอะจริงๆ บ้านเรือนชายตลิ่งอดทนหน่อยนะครับ ขนย้ายสิ่งของให้ไว” และเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Persia Jongtawon ระบุว่า “สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.10 ทต.วังขนาย ระดับน้ำ 4.57เมตร คาดว่ากำลังจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการระบายน้ำจากเขื่อนแม่กลอง 800 ลบ.ม./วินาที” เป็นต้น